นายกบอกเป็นนักการเมืองต้องหน้าด้าน อดทน ขอ ปชช.ช่วยรักษาความปลอดภัยทั้งก่อน และ หลัง ลต.

นายกบอกเป็นนักการเมืองต้องหน้าด้าน อดทน ขอ ปชช.ช่วยรักษาความปลอดภัยทั้งก่อน และ หลัง ลต.

นายกบอกเป็นนักการเมืองต้องหน้าด้าน อดทน ขอ ปชช.ช่วยรักษาความปลอดภัยทั้งก่อน และ หลัง ลต.

   พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคสช.กล่าวระหว่างพบปะและแลกเปลี่ยนความเห็นกับประชาคมวิจัยทั้งภาครัฐเอกชน และ มหาวิทยาลัย จำนวน500คน ที่ ทำเนียบรัฐบาล เช้าวันนี้ (5 พย 2561)

  นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เราเลือกแล้วที่ประเทศจะเป็นประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุขประชาธิปไตยก็คือประชาธิปไตย อย่างไรประเทศต้องเดินไปตรงนั้นอยู่แล้ว และวันนี้ตนถือว่าประเทศเป็นประชาธิปไตยเต็มที่แล้ว ใครจะด่าว่าตน ตนก็รับหมด หรือตนไปห้ามใคร ตนห้ามใครในห้องนี้หรือไม่  ไม่มีห้ามใครทั้งนั้น แต่ทุกอย่างก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ตนขอฝากไปถึงใครก็ได้

  “ท่านจะชอบ ไม่ชอบ ท่านจะรัก ไม่รัก ผมไม่ว่าท่าน เป็นเรื่องของท่าน แต่ท่านต้องดูว่าประเทศมันอยู่ตรงไหน และจะนำพาคนเหล่านั้นอย่างไร ยังไงเค้าก็เป็นคนไทย เอากลับมาให้อยู่กับพวกท่านได้ไหม ไม่ต้องอยู่กับผมก็ได้ มาคิดร่วมกัน “

  นายกบอกเป็นนักการเมืองต้องหน้าด้าน อดทน ขอ ปชช.ช่วยรักษาความปลอดภัยทั้งก่อน และ หลัง ลต.

 นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า โครงการไทยนิยมยั่งยืนยืน ที่หลายคนคิดว่าไม่เกิดประโยชน์ ใช้งบประมาณ 2แสนต่อหมู่บ้านนั้น
    ตนขอบอกว่า ผิด หรือ ถูก แต่ตนขอกล่าวในหลักการว่า เรานำโครงการลงไปทุกหมู่บ้าน ซึ่งหลายคนบอกว่าทำไมไม่ทำอย่างจีน ก็นี่แหละที่ประธานาธิบดี สี่จิ้นผิงของจีนทำในจีน  ตนก็เอามาทำ และเรียนรู้จากจีน เอาคนลงไปเดินในทุกหมู่บ้าน และให้ประชาชนเลือกว่าจะทำอะไร และส่วนใหญ่ก็บอกว่าจะนำเงิน 2แสนไปซ่อมถนน และนี่คือหลักประชาธิปไตย ในเมื่อเสียงส่วนใหญ่ต้องการแบบนี้  ฉะนั้นอย่ามาบอกว่า โครงการไทยนิยมไม่เกิดประโยชน์ และใช้เพื่อการหาเสียง ตนขอถามว่าจะไปหาเสียงกับใคร หลายอย่างบิดเบือน ผิดเพี้ยนไปหมด นี่คือการสร้างประชาธิปไตยในระดับฐานราก ให้เข้าใจว่าเสียงส่วนใหญ่ว่าอย่างไร เสียงส่วนน้อยต้องเคารพ  และเราต้องแก้ปัญหา โดยดูแลส่วนน้อยด้วยว่า เราจะแก้ปัญหาได้อย่างไร และนี่คือหลักการไทยนิยมที่ตนกล่าวมาทั้งหมด  ส่วนเรื่องทุจริตก็เป็นอีกเรื่อง ที่ต้องไปแก้ปัญหา

   นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เป็นนายกรัฐมนตรีมา4ปี มีคนบอกตนว่า ให้ตนพูดเพราะๆ และ ยิ้มหวานๆ  แต่ตนเป็นทหารมา40กว่าปี ตนก็โหวกเหวกอย่างนี้ ตนต้องขอโทษที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ไม่ได้ดังใจ  เป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่สุภาพ เรียบร้อย แต่ตนทำงาน 

   “ดีใจที่เห็นท่านยิ้มแย้มแจ่มใส ถ้าท่านหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่ผม ไม่พอใจ เกลียดผมมากๆ ผมก็หมดแรงเหมือนกัน เค้าเรียกว่า โคนันทวิสารไง ถ้าพูดดีก็ไถนาเพลิน เป็นหน้าที่ ความรับผิดชอบ ก้าวออกมาแล้วนี่นา ต้องทำให้สำเร็จ  “

   นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ตนชอบนั่งหงุดหงิดเรื่องโน้นเรื่องนี้ คือตนเป็นทหาร ด่าตนมากๆ ตนโมโห เพราะเป็นทหาร ด่ากันไม่ได้ แต่ตนก็ต้องปรับตัว 

   “มีคนบอกว่าเป็นนักการเมืองต้องอดทน ต้องหน้าด้าน ไม่รู้จะทำได้หรือเปล่า ไม่รู้เลย ต้องหน้าด้าน หน้าทน ผมเอาความดีเข้ามาสู้เค้า “

   นายกรัฐมนตรียังขอสื่ออย่าเขียนว่าตนไปว่านักการเมือง แต่ไม่เป็นไรจะเขียนว่าตนก็เขียนไปเถอะ ว่าไป เพราะเวลาไปต่างประเทศ ทุกประเทศ ต่างประเทศชอบตน นี่ของจริง จะมาบอกว่าไม่คบตนได้อย่างไร นี่จับมือจนเจ็บมือ จนแก้ไม่หาย ถ้าต่างประเทศไม่อยากคบตนได้อย่างไร  ขออย่าบิดเบือนกันมากนัก และตนรู้ว่าการให้ข่าวดังกล่าวมาจากฝ่ายใด 

   “ขอระวังอย่าให้ทุกคนตกเป็นเหยื่อเค้าก็แล้วกัน ขอทำให้บ้านเมืองปลอดภัยไปจนถึงวันเลือกตั้ง และหลังเลือกตั้งด้วย เพราะประเทศไทยต้องเดินหน้า ขณะนี้เดินหน้ามาเยอะแล้ว อย่าถอยหลังกลับไปที่เดิม กับดักความขัดแย้ง กับดักประชาธิปไตย จะต้องไม่เกิดขึ้นอีก “