"เปาบุ้นจิ้นเมืองไทย-ทนายสงกานต์" ร่วมทัพหนุน "พลังประชารัฐ"

หลังจากได้มีการเปิดรับสมัครสมาชิก"พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)" ที่อาคารปานศรี ซอยรัชดาภิเษก 54 "นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์" ทนายความชื่อดัง ก็ได้เดินทางมาร่วมสมัครเป็นสมาชิก"พรรคพลังประชารัฐ" โดยเปิดเผยว่า "ศรัทธาและอยากเห็นความแตกต่างและอยากให้เป็นทางเลือกหนึ่งของประชาชน..."

หลังจากวานนี้ (13 พ.ย.) ได้มีการเปิดรับสมัครสมาชิก"พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)" ที่อาคารปานศรี ซอยรัชดาภิเษก 54 "นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์" ทนายความชื่อดัง ก็ได้เดินทางมาร่วมสมัครเป็นสมาชิก"พรรคพลังประชารัฐ" โดยเปิดเผยว่า  "ศรัทธาและอยากเห็นความแตกต่างและอยากให้เป็นทางเลือกหนึ่งของประชาชน..." 

 

"เปาบุ้นจิ้นเมืองไทย-ทนายสงกานต์" ร่วมทัพหนุน "พลังประชารัฐ"

 

    เส้นทางของ "ทนายสงกานต์" จากดารานักแสดง-คอลัมนิสต์ นักจัดรายการโทรทัศน์ สู่ "ทนายความมหาชน"  ฉายา "เปาบุ้นจิ้นเมืองไทย"  ซึ่งมาจากบุคลิกที่จริงจัง ดุดันเวลาให้สัมภาษณ์ถึงคดีความที่เขาอาสาเข้าไปช่วย และการประกาศตัวที่จะต่อสู้ทางคดีความซึ่งจำนวนมากเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล มีผลกระทบต่อผู้เสียหายในวงกว้าง โดยเฉพาะคดีที่ส่อเค้าถึงความไม่เป็นธรรมกับประชาชนที่ไม่มีหนทางสู้ ชื่อ"ทนายสงกานต์" คือที่พึ่งทางกฎหมายคนแรกๆ ที่ประชาชนนึกถึง

 

"เปาบุ้นจิ้นเมืองไทย-ทนายสงกานต์" ร่วมทัพหนุน "พลังประชารัฐ"

     ทั้งนี้ "ทนายสงกานต์" รับว่าจ้างคดีความประมาณ 10 คดีต่อปี เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิต เวลาว่างที่เหลือจากการว่าความที่ศาล คือ การใช้ความตั้งใจและสติปัญญาช่วยเหลือเป็นที่พึ่งทางกฎหมายให้กับประชาชนผู้ตกทุกข์ได้ยาก นอกจากนี้ยังนำประสบการณ์ทางกฎหมายมาจัดทำรายการทีวี "คลายทุกข์ชาวบ้าน" ทางช่อง"อัมรินทร์ทีวี" เพื่อให้ความรู้ทางกฎหมายกับสังคมในวงกว้าง เส้นทางนักกฎหมายของ"ทนายสงกานต์"ไม่ได้มุ่งสู่การชนะคดีความ หากกลับทอดยาวออกไปสู่สังคมโดยรวมเพื่อสร้างความเป็นธรรมทางกฎหมายให้จับต้องได้จริง

 

"เปาบุ้นจิ้นเมืองไทย-ทนายสงกานต์" ร่วมทัพหนุน "พลังประชารัฐ"

 

และหลายคดีความที่เข้าไปรับผิดชอบต้องใช้ความกล้าหาญในการเผชิญหน้ากับอำนาจมืดโดยยึดความถูกต้องตรงไปตรงมา เปิดโอกาสให้ผู้ได้รับผลกระทบในทางคดีได้เข้าสู่กระบวนการพิสูจน์อย่างเป็นธรรม ซึ่งนับเป็นกลไกสำคัญที่มีส่วนเปลี่ยนแปลงให้มาตรฐานทางกระบวนการยุติธรรมได้เกิดขึ้นกับคนทุกกลุ่มในสังคม 

     กระทั่ง การเป็นที่พึ่งทางกฎหมายแก่มวลชนด้วยความบริสุทธิ์ใจของ"ทนายสงกานต์" ได้สร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมให้เกิดขึ้นในสังคม เป็นแรงบันดาลใจให้คนในแวดวงกฎหมายกล้าหาญที่จะยืนข้างความถูกต้อง ตลอดจนนำความรู้ความสามารถเข้ามามีบทบาทเรียกร้องสิทธิ ให้ความช่วยเหลืออันหมายถึงการทำให้กระบวนการยุติธรรมเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จริง...

 


     "ทนายสงกานต์" เคยกล่าไว้ว่า "การให้คำปรึกษาหรือช่วยเหลือทางด้านกฎหมายของผมนั้นไม่ได้มุ่งหวังค่าตอบแทนที่เป็นเงินเสมอไป เพราะการช่วยเหลือให้คนอื่นได้พ้นทุกข์นั้นมีคุณค่ายิ่งใหญ่ ยิ่งกว่าเงินตราใดๆ เป็นความสุขที่ไม่อาจซื้อหาได้ ผมจะทำต่อเรื่อยๆ จนกว่าชีวิตจะหาไม่..."

 


      เฉกเช่น ฉายา "เปาบุ้นจิ้น" ซึ่งนั้นไม่ได้หมายความว่าเราเป็นผู้พิพากษา แต่หมายถึงเรามีความยุติธรรมในจิตใจ ...      อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจลงสมัครเป็นสมาชิก"พรรคพลังประชารัฐ" นั้น น่าจะสอดคล้องกับงานปัจจุบันของ"ทนายสงกานต์" คือ เป็นประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลาย"ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ..."

 

"เปาบุ้นจิ้นเมืองไทย-ทนายสงกานต์" ร่วมทัพหนุน "พลังประชารัฐ"