คดี"กรุงไทย" อีกหนึ่งความลวงโลกของฝ่าย ปชต. เหตุยึดพวกพ้อง-ให้กู้ แถมพ่วง"เงินปากถุง" จน"ลูกโอ๊ค" ยังโดนคดี

คดี"กรุงไทย" อีกหนึ่งความลวงโลกของฝ่าย ปชต. เหตุยึดพวกพ้อง-ให้กู้ แถมพ่วง"เงินปากถุง" จน"ลูกโอ๊ค" ยังโดนคดี

คดี"กรุงไทย" อีกหนึ่งความลวงโลกของฝ่าย ปชต. เหตุยึดพวกพ้อง-ให้กู้ แถมพ่วง"เงินปากถุง" จน"ลูกโอ๊ค" ยังโดนคดี


 

หากยึดมั่นคำว่า "สิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค โปร่งใส เป็นธรรม ตรวจสอบได้ และมุ่งประโยชน์คนส่วนใหญ่เป็นที่ตั้ง" เป็นสรณะว่าเป็น "ประชาธิปไตยในแง่เนื้อหา" รวมทั้งการรังเกียจเดียดฉันท์ "ระบบอุปถัมภ์-เล่นพรรคเล่นพวก" ซึ่งเป็นอุปสรรคของการพัฒนาประชาธิปไตย ตามที่นักวิชาการผู้อวดอ้างตัวว่า สังกัดอยู่ในฟากฝั่งนั้น พร่ำสอนลูกศิษย์ตามรั้วมหาวิทยาลัยแล้ว ดูเหมือน "คดีฟอกเงินกรุงไทย"  จะเป็นการฉีกหน้ากากรัฐบาลที่อ้างตัวว่า...มาจากการเลือกตั้ง...และผูกขาดความเป็นประชาธิปไตยในประเทศนี้เอาไว้...แต่เพียงผู้เดียว (นับแต่มีศึกเหลือง-แดง) จนสิ้น เพราะ "คดีปล่อยกู้กรุงไทย" นั้น...ละเมิดหลักการใหญ่ ๆ ของตำราประชาธิปไตยทุกเล่ม...ลำพังแค่...ใช้อำนาจทางการเมือง...ยกหูแล้วสั่งให้ธนาคาร (ซึ่งอยู่ในกำกับของรัฐฯ) ปล่อยกู้ให้แก่...ลูกค้าที่ "ติดแบล็กลิสต์-ไม่มีสิทธิขอกู้" เพราะเห็นแก่พวกพ้อง...นั่นก็ทำลายหลักการประชาธิปไตยเบื้องต้นจนย่อยยับแล้ว...ยังไม่ต้องเอ่ยถึงที่หลายฝ่ายเรียกว่า "เงินปากถุง" หลังการปล่อยกู้ที่สั่งจ่ายเป็นเช็คออกมาหลายฉบับ รวมทั้ง 26 ล้าน และ 10 ล้าน ซึ่งฉบับหลังนี่เองที่ดึง  "นายพานทองแท้ ชินวัตร" ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ"นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผู้หลบหนีคดี  เข้าไปเป็นผู้ต้องหาในคดีฟอกเงินในครั้งนี้ด้วย แม้เจ้าตัวจะยังปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง ทั้งยังขอสู้คดีในชั้นศาล ซึ่งอาจต้องใช้เวลาอีกสักพักก็ตาม


 

อย่างที่กล่าว หากมองให้ทะลุจะพบว่า "คดีปล่อยกู้กรุงไทย" นั้น ทำลายหลักการประชาธิปไตยที่พวกเขาพร่ำพูดลงอย่างราบคาบ เพราะมันเป็นการใช้อำนาจทางการเมือง (ของคน ๆ เดียว) สั่งการให้อนุมัติสินเชื่อ...แก่ "กลุ่ม บมจ.กฤษดามหานคร"  ซึ่งเป็นลูกค้าที่ไม่อยู่ในข่ายจะให้กู้ได้ เหตุที่ "กลุ่ม บมจ.กฤษดามหานคร" มีสถานะอยู่ในกลุ่มลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคาร เนื่องจาก ผอ.ฝ่ายกลั่นกรองสินเชื่อธุรกิจนครหลวง เคยจัดอันดับความเสี่ยงของกลุ่มกฤษดามหานครในอันดับ 5 คือ "ไม่สามารถอนุมัติสินเชื่อให้ได้" 

 

ดังนั้น เมื่อสุดท้าย ผู้บริหารธนาคารกรุงไทย ยอมปล่อยสินเชื่อให้กลุ่มกฤษดามหานคร...โดยลือกันให้แซ่ดในช่วงนั้นว่า กรรมการหลายคนก็ละล้าละลัง เพราะกลัวจะมีปัญหาในภายหลัง แต่เมื่อ "บิ๊กบอส" ยกหูผ่านคนสนิท สั่งให้ปล่อยกู้ เพราะอ้างว่า...ได้ตรวจสอบสถานะทางการเงินดีแล้ว และบุคคลเหล่านั้นยอมทำตาม นั่นจึงทำให้ผู้บริหารธนาคารกรุงไทยหลายคนในวัยเกษียณ ต้องไปใช้ชีวิตบั้นปลายภายในคุก หลังโดนคดีฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 4 ซึ่งศาลฯ ได้ตัดสินจำคุกไปคนละ 18 ปีบ้าง 12 ปีบ้างตามโทษานุโทษ...ของการทอดกายรับใช้การเมืองโกงเมื่อกลางปี 2558 ที่ผ่านมา


ขณะที่บางส่วนของคดีก็ทอดยาวมาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะเช็คจำนวน 26 ล้านบาท ที่หลายฝ่ายเรียกว่า "เงินปากถุง" อย่างที่กล่าว ล่าสุดวานนี้ "พ.ต.อ.ไพสิฐ  วงศ์เมือง"  อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้ออกมาเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางได้อนุมัติหมายจับ "นางกาญจนาภา  หงษ์เหิน"  เลขานุการส่วนตัวของ "คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร" และ "นายวันชัย  หงส์เหิน"  ผู้ต้องหาคดีความผิดฐานฟอกเงินในคดีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตอนุมัติสินเชื่อของธนาคารกรุงไทย ให้กับบริษัทในเครือกฤษดามหานครมิชอบ หลังผู้ต้องหาไม่เดินทางเข้ารับฟังคำสั่งฟ้องของอัยการตามนัดเมื่อวันที่ 31 ต.ค.

 

คดี"กรุงไทย" อีกหนึ่งความลวงโลกของฝ่าย ปชต. เหตุยึดพวกพ้อง-ให้กู้ แถมพ่วง"เงินปากถุง" จน"ลูกโอ๊ค" ยังโดนคดี


 
 

โดย DSI ยืนยันว่า ขณะนี้พบว่าบุคคลทั้ง 2 ได้เดินทางออกนอกประเทศปลายทางคือเกาะฮ่องกง  ซึ่งถือเป็นการเป็นการเดินทางออกนอกประเทศ ก่อนกำหนดนัดที่อัยการนัดมาฟังคำสั่งฟ้อง และทาง DSI จะเร่งตามตัวมาดำเนินคดี


อย่างไรก็ดี การหายตัวไปของ "นางกาญจนาภา และสามี" นับว่าน่าสนใจยิ่ง เพราะความผิดฐานฟอกเงินคดีกรุงไทยนั้น มีชื่อนายพานทองแท้เอี่ยวอยู่ด้วย แม้เช็คที่สั่งจ่ายออกมาจะเป็นคนละฉบับกัน คือของกาญจนาภาเป็นเช็ค 26 ล้าน ส่วนของนายพานทองแท้ เป็นเช็คจำนวน 10 ล้าน แต่ทั้ง 2 ฉบับก็ออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน และเกี่ยวพันกันอย่างแยกไม่ออก และถึงแม้จนถึงขณะนี้ "นายพานทองแท้" ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ตราบเท่าที่ศาลยังไม่มีคำตัดสินออกมา และตัวนายพานทองแท้เอง ก็ระบุว่า "พร้อมสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม และยืนยันถึงความบริสุทธิ์ของตน และให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหามาตลอด


...แต่ก็รับรองว่า เรื่องนี้หนักหนาสาหัสแน่...เพราะทาง DSI ก็ยืนยันว่า มีหลักฐานแน่นหนา และพฤติการณ์แห่งคดีเข้าองค์ประกอบความผิดชัดแจ้ง...(ตามคำวินิจฉัยของ DSI)


...จากนี้คงต้องจับตาดูว่า "คดีฟอกเงินกรุงไทย" ในส่วนของนายพานทองแท้...ซึ่งน่าจะเป็นสำนวนท้าย ๆ ของคดีนี้แล้ว จะมีบั้นปลายเช่นไร...นายพานทองแท้...จะเป็นผู้บริสุทธิ์...ตามที่เขายืนยันมาตลอดหรือไม่...หรือจะซ้ำรอย... "นางกาญจนาภา และผู้สามี" ที่ต้องระเห็จตามทักษิณ และยิ่งลักษณ์ไป....ขณะเดียวกัน...หากละเรื่อง...โกงเอาไว้ในฐานที่เข้าใจ...และมองให้ถ่องแท้...จะพบว่า...คดีปล่อยกู้กรุงไทยนี่แหล่ะ...ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง...ที่กระชากหน้ากาก...ความจอมปลอมของ "ระบอบทักษิณ" ที่แอบอ้างเรื่องประชาธิปไตย...ได้อย่างดีทีเดียว เพราะเอาเข้าจริง...ที่สุดแล้ว...อำนาจก็อยู่ที่คน ๆ เดียว แถมยังพาคนอื่น...ซวยจนต้องไปติดคุกตอนแก่เสียด้วย...

คดี"กรุงไทย" อีกหนึ่งความลวงโลกของฝ่าย ปชต. เหตุยึดพวกพ้อง-ให้กู้ แถมพ่วง"เงินปากถุง" จน"ลูกโอ๊ค" ยังโดนคดี