"บิ๊กตู่" เผยพร้อมให้สอบ ปมเติมเงินเข้าบัตรสวัสดิการฯ-เอื้อหาเสียง ยันทุกมาตรการมี กม.รองรับ-พิจารณารอบคอบ

"บิ๊กตู่" เผยพร้อมให้สอบ ปมเติมเงินเข้าบัตรสวัสดิการฯ-เอื้อหาเสียง ยันทุกมาตรการมี กม.รองรับ-พิจารณารอบคอบ


"บิ๊กตู่" เผย พร้อมให้สอบ กกต. ปมเติมเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แล้วถูกวิจารณ์ว่า เอื้อประโยชน์หาเสียง ยันทุกมาตรการมีกฎหมายรองรับ และพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว และเรื่องนี้ก็ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

 

วันนี้ (23 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.30 น.ที่ผ่านมา ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะมีการตรวจสอบกรณีที่รัฐบาลเพิ่มวงเงินงบประมาณในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐว่า ก็สามารถตรวจสอบได้ เพราะการที่รัฐบาลจะออกมาตรการต่างๆ เรามีกฎหมายทุกฉบับรองรับ ซึ่งฝ่ายกฎหมายได้พิจารณาอย่างรอบคอบ สามารถดูได้ทั้งจาก พ.ร.บ.การเงินการคลัง พ.ร.บ.การใช้จ่ายงบประมาณว่าทำได้หรือไม่ และสิ่งที่ทำมาแล้วก็ไม่ใช่เงินทั้งหมด 

 

"บางโครงการก็ใช้งบประมาณผูกพันเป็นระยะ เราต้องมองเป็น 2 ด้าน ที่ผ่านมามักมองเพียงด้านเดียวคือการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน แต่วันนี้เราต้องมองในกรอบมาตรการอื่นๆประกอบด้วย เช่น เรื่องการเกษตรก็ต้องมีการใช้งบประมาณในส่วนของมาตรการในเรื่องของการสร้างความเข้มแข็ง การรวมกลุ่ม การลดพื้นที่ปลูก" นายกฯ ระบุ ทั้งยังบอกด้วยว่า

 

ฉะนั้นอย่ามาบอกว่ารัฐบาลนี้ทำเพื่อหาคะแนนเสียง มันไม่ใช่ ทำในส่วนนี้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เรื่องของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 2-3 ซึ่งผมคิดว่าคงไม่มีรัฐบาลไหนสามารถที่จะดูแลคนได้ถึง 10 กว่าล้านคน มันมีหรือไม่ ก็มีแต่แก้ปัญหาทีละกลุ่มไป ขอร้องว่าอย่ามองรัฐบาลนี้ทำเพื่อการหาเสียง เดี๋ยวก็จะกลายเป็นเรื่องของความขัดแย้งต่อไปอีก มีทั้งคนที่ได้และคนที่ไม่ได้ ผมบอกแล้วว่า การที่เราจะทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น ไม่ได้เป็นเรื่องการแบ่งแยกชนชั้น แต่เป็นเรื่องการดูแลรายได้ของประชาชน การทำข้อมูลบิ๊กดาต้าทั้งหมดที่ออกมาก็มีอยู่แล้ว ทั้งในส่วนของข้อมูลความจำเป็นขั้นพื้นฐาน (จปฐ.) รายได้ของแต่ละจังหวัดแตกต่างกันอย่างไร เป็นข้อมูลเดิมที่มีอยู่แล้ว รัฐบาลเพียงแต่เข้ามาดูข้อมูลของแต่ละพื้นที่ และรายได้ของประชาชนแต่ละกลุ่ม ก็ต้องมาดูว่าเราจะสนับสนุนตรงไหนได้บ้าง

 

นอกจากนี้ "พล.อ.ประยุทธ์" ยังกล่าวด้วยว่า ในส่วนของผู้สูงอายุนั้นทุกคนก็มีพ่อแม่ผู้ปกครอง แล้วจะไม่ดูแลบุคคลเหล่านี้หรือ ปัญหาที่เราต้องดูแลผู้มีรายได้น้อยที่เป็นผู้สูงอายุเพิ่มเติม เพราะถือว่าเป็นภาระของผู้มีรายได้น้อยที่ยังลำบากอยู่ รัฐบาลจำเป็นต้องดูแลตรงนี้ ปัจจุบันเราต้องรองรับผู้สูงวัยให้อยู่ได้ในสังคม สิ่งสำคัญไม่ใช่ว่าจะให้เงินเพียงอย่างเดียว จะต้องเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุสามารถทำงานได้ในทุกมิติ ซึ่งขณะนี้กระทรวงแรงงานดำเนินการอยู่ ส่วนราชการสามารถนำผู้สูงอายุเหล่านี้มาทำงานได้ ถือเป็นสิ่งที่รัฐบาลปัจจุบันกำลังทำอยู่ในทุกๆระบบ และทั้งหมดต้องดูงบประมาณประกอบด้วย ไม่ใช่ป้อนเพียงอย่างเดียว ที่ผ่านมารัฐบาลอื่นก็ทำเช่นนี้ เพียงแต่ดูแลแค่บางกลุ่มบางฝ่ายเท่านั้น รัฐบาลนี้ต้องทำทั้งมาตรการเร่งด่วน และการบรรเทาความเดือดร้อนชั่วคราว 

 

"ในช่วงปีใหม่นี้จะมีมาตรการเข้ามาดูแลกลุ่มคนต่างๆอีก โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลังดูแลอยู่ ทั้งนี้ผู้มีรายได้น้อยต้องคำนึงถึงกลุ่มอื่นๆด้วย เพราะผู้เสียภาษีมีจำนวนมาก ต้องมาดูว่ากลุ่มคนเหล่านี้ใครเดือดร้อนบ้าง ข้าราชการชั้นผู้น้อยก็เช่นกัน คนที่มีรายได้ระดับปานกลางค่อนไปทางต่ำก็ต้องดูแลด้วย ซึ่งมาตรการต่างๆจะทยอยออกมาตามลำดับ ตามเม็ดเงินงบประมาณที่มีอยู่ วันนี้ขอบคุณทุกคนที่เข้าใจ ดูหน้าตาสื่อมวลชนแล้วเข้าใจกันมากขึ้น"  นายกฯ ระบุ