"พานทองแท้" ซบเพื่อไทย - น๊อตหลุด "ลูกพรรคเก่า" ตีจาก คุยฟุ้ง เลือกตั้งครั้งหน้า"จะสั่งสอนสมุนเก่าให้เข็ดหลาบ"

      (วันนี้) 26 พฤศจิกายน -  หลังจากที่มีการเปิดตัวไปของ"พรรคพลังประชารัฐพปชร." ซึ่งเป็นพรรคการเมืองใหม่ และได้เสียงตอบรับดีเกินคาด บรรยากาศที่พรรคฯ ก็เต็มไปด้วยความคึกครื้นทุกวัน เนื่องจากมีทั้งคนใหญคนโต บิ๊กเนม สมอร์เนม ทนาย ดารานักแสดง พิธีกร ตลก นักกีฬา นักร้อง รวมถึงบรรดาลูกทีมลูกหาบจากพรรคฯอื่นๆทั้งหลายแหล่ ต่างพากันเซ็นใบลาออก พร้อมใจกันขนโขยงมาลงสมัครเป็นสมาชิก

 

 

นอกจากนี้ ยังมีทั้งแกนนำ และ อดีด สส.จากพรรคฯฝ่ายตรงข้าม ร่วมลงสมัครสมาชิกด้วย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ อาจจะไม่ได้สนับสนุสรัฐบาลคสช.เท่าที่ควร แต่ในเมื่อคิดจะลงลงเรือลำเดียวกันแล้ว อะไรที่เคยพูดหรือทำไว้ ก็ลืมๆไป เสีย  พลิกลิ้นให้ไว"พร้อมเดินหน้าเพื่อประชาชน..."  เฉกเช่น"ไผ่ วันพอยท์" ที่เพิ่งดอดไปให้กำลังใจ พร้อมแช๊ะภาพกับทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ โชว์หลาในอินสตราแกรมอยู่หมาดๆ และยังเป็นเพื่อนซี้"นายพานทองแท้" ชนิดที่พูดว่า "เพื่อนกัน เพื่อนตายตลอดไป" แต่วันนี้กลับทิ้งเพื่อนโอ๊คเฉย ไม่เหมือนที่คุยกันไว้...

 

 

รวมถึงลูกชายบุญทรง เปิดใจทั้งน้ำตา ว่าพ่อที่อยู่ที่คุก โดนถีบหัวส่ง ถูกทิ้งให้อยู่ลำพัง ไร้คนเหลียวแล จากทางพรรคฯ  

 

 

     ในขณะเดียวกัน ประเด็นที่น่าสนใจคือ การทยอยลาออกของสมาชิก"พรรคเพื่อไทย" พร้อมตบเท้าร่วมเข้า "พรรคพลังประชารัฐ" ก็ดี พรรคเพื่อไทยจ่อแพแตก ก็ดี  ซึงพอหนักเข้าๆ กลิ่นเริ่มคลุ้งไปไกล ไกลถึงหูคนที่อยู่ต่างแดน กระทั่งเรียกสั่งประชุมด่วน เรียกแกนนำ ปักหลัก"สิงคโปร์" เดาได้ไม่ยากว่าคงเป็นเรื่องการสู้รบกับรัฐบาล "คสช." และการวางแผนคุมเกมต่างๆนาๆเพื่อให้ได้ชัยชนะดั่งต้องการ กระทั่งเจ้าตัว ถึงกับบ่นว่า" เครียด ปวดหัว" 

 

 

 

 

 

   ล่าสุดวานนี้ (25 พฤศจิกายน) "นายพานทองแท้ ชินวัตร" (ตัวลูก) ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “Oak Panthongtae Shinawatra”  มีเนื้อหาใจความว่า "จอมยุทธ์ (ดูด) ทางการเมือง ป่าวประกาศไว้ว่า...ใครย้ายขั้วไปอยู่กับเขา นอกจากจะได้ประโยชน์จากรัฐธรรมนูญฉบับนี้แล้ว ผู้สมัครก็จะไม่โดนใบแดงใบส้ม มีงบลงพื้นที่อย่างล้นเหลือ ได้เป็นรัฐบาลไม่ต้องกลัวอดอยากปากแห้ง และคดีความทั้งหมดของตัวเองและครอบครัวก็จะหลุดพ้นด้วย..!!

 

 

สำหรับตัวผม.. - คุณพ่อโดนตัดสินจำคุกในฐานะคู่สมรส ที่เซ็นยินยอมให้คุณแม่ไปประมูลที่ดิน - ตัวผมเองกำลังโดนฟ้องคดีฯข้อหาฟอกเงิน - ญาติพี่น้องก็กำลังจะโดนยัดข้อหา โดยการกันคนไปเป็นพยานและปั้นหลักฐานเท็จ เพื่อที่จะหาเรื่องโยนความผิดให้ได้... - แต่ละเรื่องที่โถมเข้ามา รุนแรงและหนักที่สุดเท่าที่ครอบครัวผมเคยเจอมา แต่การเป็น “ลูกทักษิณ” การจะท้อหรือกลับไปกลับมามันเป็นไปไม่ได้ เพราะทางเลือกมีแค่ 2 ทางคือ อยู่เงียบๆรอเขาไล่ล่า หรือเดินหน้าต่ออย่างมีศรัทธาและอุดมการณ์เท่านั้น..!!

 

ในวันที่หลายคน มีความจำเป็นที่จะต้อง “ไหลออก” เพื่อรักษาอนาคตของตัวเอง และชีวิตครอบครัวเอาไว้ ในวันที่บางคน เห็นอามิสสำคัญกว่าศรัทธาและอุดมการณ์ ผมคงทำได้แค่เดินไปสมัครเป็นสมาชิก"พรรคเพื่อไทย" แบบประชาชนธรรมดาๆคนหนึ่ง เพื่อที่หลังจากนี้ ผมจะได้เดินทางในฐานะสมาชิกพรรคฯไปทุกทิศทั่วไทย ไปพบพี่น้องเพื่อจะเชิญชวนทุกท่าน ที่ศรัทธาในระบอบประชาธิปไตย และรักในความถูกต้องเป็นธรรม เข้ามาร่วมในอุดมการณ์เดียวกัน

 

ออก 1 เข้าใหม่ 10 ออก 10 เข้าใหม่ 100 เราจะทำให้ฝ่ายปล้นประชาธิปไตย รวมถึงพวกที่ตีจาก เพราะเห็นแก่อามิสทั้งหลาย ได้รู้!! และเข็ดหลาบ!! ว่าการปล้นประชาธิปไตยอาจทำได้แค่ชั่วคราว แต่เมื่ออำนาจกลับคืนสู่มือของประชาชนเมื่อไหร่ เตรียมตัวได้ยินคำว่า “มันจบแล้วครับนาย” ได้เลย  เคารพในการตัดสินใจของทุกท่าน ทั้งผู้ที่จากไป และคนใหม่ที่จะเข้ามา ใครตัดสินใจผิดถูกอย่างไร 24 กุมภาฯ บัตร 40 ล้านใบในหีบ จะเป็นตัวตัดสินครับ.. 

 

 

Cr. “ศรัทธาคือบันไดขั้นแรก แม้คุณไม่อาจมองเห็นขั้นบันไดทั้งหมด” "Martin Luther King, Jr นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน"

  อย่างไรก็ตาม การแปรพักตร์ของบรรดาลูกหาบที่"หนีร้อนไปเพิ่งเย็น"  เมื่อลองนึกดู อาจจะมีอยู่ไม่กี่สาเหตุหลักๆคือ 1. "เจ๊หน่อย" คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ กับการบริหารที่ไม่ลงตัว ดั่งที่ อดีตสสเพื่อไทยหลายคนเคยออกมากล่าวเรื่องนี้ก่อนย้ายพรรคฯ  2.มีความเป็นไปได้ว่า ถ้าอยู่พรรคเพื่อไทยต่อ อาจจะไม่มีพื้นที่ลงเป็นส.ส.เขต  คดีพรรคเพื่อไทยส่อถูกยุบ และกำลังถูก กกต. รวบรวมหลักฐานกรณีที่ทักษิณเรียกลูกน้องไปคุยที่ฮ่องกงอยู่  

 

 

เฉกเช่น ในวันนี้ที่"นายพานทองแท้"ลงสมัครพรรคเพื่อไทย พร้อมประกาศถึงความศรัทธาและอุดมการณ์ที่มีต่อประชาธิปไตยและเพื่อประชาชนต่างๆ นาๆ สารพัดสารเพ จวบกับที่ผ่านมาชอบแสดงความคิดเห็นที่เป็นลบกับรัฐบาลคสช.หรือฝ่ายตรงข้ามกับตน บวกกับการที่ชอบพูดจาเหน็บแนม แทรกแซงเข้าด้วยวาจาและสำนวน(ที่เหมือนจะ)มีความรู้จริงๆหรือไม่?

 

 

กล่าวอ้างว่าถ้าได้เป็นสส.จะทำนู่นทำนี่ คิดนโยบาย จะแก้สารพันปัญหา ทั้งนี้ วอนประชาชนจับตาดู"นายพานทองแท้"กันต่อไป ว่าเมื่อตนได้ย่างเท้าแตะการเมืองอย่างเต็มตัวแล้ว จะทำได้แบบที่ตนลั่นปากพูดไว้หรือเปล่า ลั่นออกไปหมื่น ลงมือทำจะได้สักเท่าไหร่ หรือ จะเก่งแค่พูดหรือไม่ 
พี่ๆน้องๆก็คอยดูและตัดสินใจเอา ...