ลอกคราบ"เปิ้ล กริชสุดา" แดงไร้บ้านสวยใสต้าน "บิ๊กตู่"เยอรมัน ที่แท้จอมสับปลับ-ตัวเอ้ความรุนแรง-โยงใยอาวุธถล่ม กปปส.

ลอกคราบ"เปิ้ล กริชสุดา"แดงไร้บ้านสวยใสต้าน "บิ๊กตู่"เยอรมัน ที่แท้ตัวเอ้ความรุนแรง-โยงใยอาวุธถล่ม กปปส.

 

มาตามนัดสำหรับการชุมนุมประท้วงต่อต้าน "พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ของชาวเสื้อแดงที่ส่วนใหญ่หลบหนีคดีความออกไปอยู่ต่างประเทศ จากการเดินทางไปเยือน "สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี" ของนายกรัฐมนตรีไทย ตามคำเชิญของ "นางอังเกลา แมร์เคล" นายกรัฐมนตรีเยอรมนี  ระหว่างวันที่ 27-29 พ.ย. 2561 

 

โดยชาวแดงผู้อ้างตัววว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย ได้เตรียมการเชิญชวนพวกเดียวกันให้ออกมาต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ ผ่านทางสังคมออนไลน์ของพวกเขามาพักหนึ่งก่อนหน้านี้ โดยอ้างด้วยถ้อยคำเดิม ๆ แบบแผ่นเสียงตกร่องว่า "ต่อต้านเผด็จการ" และ "ให้เร่งจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว"

อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่กลุ่มชาวเสื้อแดงยุโรปออกมาต้าน "พล.อ.ประยุทธ์" เมื่อคราวที่ต้องเดินทางในประเทศแถบนั้น และทุกครั้งก็พบว่าล้วนแต่คนที่หน้าเดิม ๆ ทั้ง "อั้ม เนโกะ" หรือ "นายศรัณย์ ฉุยฉาย" แดงลิเบอร่านลูกศิษย์สายตรง "สมศักดิ์ เจียมฯ" ผู้ต้องหาหลบหนีคดีม.112 ซึ่งปัจจุบันลี้ภัยอยู่ที่ฝรั่งเศส 

 

 

นอกจากนี้ ยังพบว่า "เปิ้ล กริชสุดา คุณะเสน" คนสนิทอดีตแกนนำแดงแห่งภาคตะวันออกอย่าง "นางมนัญชยา เกตุแก้ว" หรือ "เมย์ อียู" ซึ่งว่ากันว่าแนบชิดกับ "นายทักษิณ ชินวัตร"ระดับเป็นท่อส่งผ่านน้ำเลี้ยง และก็หนีไปอยู่ต่างประเทศร่วมเคลื่อนไหวอยู่ด้วย 

โดยเธอโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อบัญชี "หมีน้อยผู้ลี้ภัย แห่งบ้านหนองหมาว้อ" ถึงการต่อต้าน "พล.อ.ประยุทธ์" ในครั้งนี้ตอนหนึ่้งว่า "ฉันชื่อ​ กริชสุดา​ ฉันเป็นผู้หญิงที่ถูกปรับทัศนคติ​กว่า 28 วัน​ โดยที่ไม่มีข้อกล่าวหาและคดีความ หลังรัฐประหาร​ในรัฐบาลของผู้นำที่ชื่อประยุทธ์​ หรือ​ ลุงฉุน​ ฉันมายืนรอลุงฉุนที่หน้าโรงแรม​ ฉันมาถามว่าประเทศไทยจะเลือกตั้งตอนไหน"

 

ภาพลักษณ์ภายนอกของ "เปิ้ล กริชสุดา" อาจดูสวยใสตามวัย แม้แต่ชื่อบัญชีเฟซบุ๊ก "หมีน้อยผู้ลี้ภัย แห่งบ้านหนองหมาว้อ" ก็ยังชวนให้เอ็นดูไม่น้อย ทว่าในความจริงเธอเหี้ยมเกรียมกว่านั้นมาก เพราะลำพังแค่ถูก "ศาลอาญารัชดา" ออกหมายจับที่ 1370 / 2557 ลงวันที่ 8 ส.ค. 2557 พร้อมลูกพี่  "นางมนัญชยา" ที่บ้านพักชลบุรี ในข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนหรือวัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะในสงครามในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต...นั่นก็เปลือยธาตแท้...ผู้นิยมความรุนแรงที่สวมหน้ากาก...นักประชาธิปไตยใสซื่อ...จนสิ้นแล้ว

ซ้ำร้ายกว่านั้นก็คือ อาวุธสงครามเหล่านั้น...เป็นมัจจุราชที่...กลุ่มคนเสื้อแดงที่นิยมระบอบทักษิณเอามาใช้ถล่มกลุ่ม กปปส. ที่ชุมนุมต่อต้านความฉ้อฉลของรัฐบาล น.ส.ยิ่่งลักษณ์ ชินวัตร ช่วงปลายปี 2556 ต่อต้นปี 2557 จนชาว กปปส. บาดเจ็บล้มตายไปเป็นจำนวนมาก

 
 

เรื่องนี้มีพยานหลักฐานเป็นเอกสารชัดเจน ในการจัดซื้ออาวุธสงคราม เช่น ปืนอาก้า เครื่องยิงระเบิดเอ็ม 79 และระเบิดสังหารนับ 100 รายการ เสื้อผ้าสัญลักษณ์การชุมนุมทางการเมือง นอกจากนี้ยังมีพยานบุคคล ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวได้ ให้การซัดทอดว่า รับอาวุธสงครามมาจาก น.ส.กริชสุดา เพื่อนำมาก่อเหตุหลายครั้ง โดย "นายพีระพงษ์ สินธุสนธชาติ" ผู้ต้องหาคดีดังกล่าว ให้การรับสารภาพว่า เคยรับอาวุธเอ็ม 16 จาก น.ส.กริชสุดา และรับเอ็ม 79 จาก "นายกมล ดวงผาสุก" หรือ "ไม้หนึ่ง ก.กุนที" กวีเสื้อแดง ซึ่งเสียชีวิตแล้วอีกด้วย 

ไม่เพียงแต่เท่านั้น เพราะจากการตรวจค้นบ้านพักของ น.ส.กริชสุดา ในครั้งนั้น เจ้าหน้าที่ถึงกับผงะ เพราะพบ "สลิปโอนเงินให้หนึ่งในผู้ต้องหา ซึงเป็นชายชุดดำ" (ที่รู้ว่าเป็นชายชุดดำ เพราะจับตัวผู้ต้องหาได้ เมื่อเทียบชื่อผู้ต้องหากับสลิปโอนเงิน ก็พบเป็นชื่อเดียวกัน) และนั่นยิ่งทำให้..."จิ๊กซอว์" ทั้งหมดของขบวนการ...นิยมความรุนแรงแห่งภาคตะวันโดยอ้างตัวว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย...ถูกลากไส้ออกมาทั้งหมด

...เรื่องนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ยศในขณะนั้น) ออกมายืนยันด้วยตนเอง แถมยังนำสลิปการโอนเงินดังกล่าวมาโชว์ให้สื่อดูด้วย หลัง น.ส.กริชสุดา ออกมาโต้ว่า...ตนไม่เกี่ยวกับชายชุดดำ หลังจากได้รับการปล่อยตัวที่ถูกปรับทัศนคติ​กว่า 28 วันตามที่เธออ้าง

 

หลังได้รับการปล่อยตัว กริชสุดา เดินทางออกนอกประเทศทันที และให้สัมภาษณ์กับสื่อแดงสำนักหนึ่งว่า ขณะนั้นเธอพำนักอยู่ในทวีปยุโรป และวางแผนที่จะใช้สถานะผู้ลี้ภัยในทวีปยุโรป โดยได้รับการช่วยเหลือจากองค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย ซึ่งมี "นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ" เป็นเลขาธิการ และเป็นหัวหอกกลุ่มต่อต้าน คสช.ที่หลบหนีอยู่ในต่างประเทศ 

ขณะเดียวกัน เมื่อได้ที่พำนักต่างถิ่นแล้ว เธอก็ให้สัมภาษณ์สื่อนอกโจมตี คสช.ทันที โดยอ้างว่า ระหว่าง 20 กว่าวันที่ถูกควบคุมตัวนั้น ที่บอกว่าตนเองอยู่สุขสบายนั้นไม่เป็นความจริง เพราะถูกทหารบังคับให้พูด นอกจากนี้ยังกล่าวอ้างกับบีบีซีไทยว่า เธอถูกทำร้ายร่างกาย ทรมาน และละเมิดสิทธิมนุษยชนอีกด้วย

ถ้อยคำของกริชสุดา ทำให้เธอกลายเป็น...เด็กเลี้ยงแกะจอมลวงโลกไปในทันที เมื่อทหารออกมาโต้เรื่องนี้ โดยยืนยันหลักแน่นว่า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติต่อเธอตามความเหมาะสม ทั้งยังจัดให้มีการสัมภาษณ์เธอต่อสาธารณะขณะคุมตัวด้วย ซึ่งเรื่องนี้สื่อทุกสำนักต่างรับทราบกันดี และวันนั้นเธอก็ตอบคำถามสื่อด้วยตนเอง เมื่อปะติดปะต่อเรื่องทั้งหมดเข้าด้วยกัน คสช. จึงฟันธงว่า การกระทำของกริชสุดา เป็นการบิดเบือน หวังทำลายความน่าเชื่อถือ คสช.

...ทั้งหมดนั่นคือเศษเสี้ยวที่กริชสุดา...เผยให้เห็นตัวตนที่แท้จริงของเธอ และจะว่าไปแล้ว พฤติการณ์ทั้งอดีตและปัจจุบันของเธอ แทบไม่มีอะไรต่างกันสร้างภาพ-ปั้นน้ำเป็นตัวอย่างไรยังคงเป็นอย่างนั้น รวมทั้งการออกมาต่อต้านบิ๊กตู่ในครั้งนี้ด้วย ทั้งหมดล้วนตกอยู่ใน "มายาคติ" ว่าตนคือฝ่ายประชาธิปไตย...และรัฐบาลทหาร...ต้องเป็นเผด็จการ...ทั้งที่ตนเอง...และลูกพี่เก่าอย่าง "เมย์ อียู" นั้นต้นตำรับแห่งความกระหายเลือดก็ไม่ปาน...เรื่องนี้ชาวม็อบ กปปส. ต่างรู้ดี