หาเรื่องแซะจนได้! "สำนักงบฯ" สวนไอ้โม่ง "ช่วยผู้มีรายได้น้อย-ไม่ผิดวินัยคลัง หลังถูกหยิบมาโจมตี

หาเรื่องแซะจนได้! "สำนักงบฯ" สวนไอ้โม่ง "ช่วยผู้มีรายได้น้อย-ไม่ผิดวินัยคลัง หลังถูกหยิบมาโจมตี


เป็นเรื่องขึ้นมาจนได้ เมื่อมีไอ้โม่งผู้ไม่หวังดี หยิบประเด็นการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมาโจมตี หลัง "กรมบัญชีกลาง" โอนเงินล็อตแรกให้ 500 บาท เมื่อ 2 - 3 วันก่อนว่าเป็นการทำลายวินัยการเงินการคลังของประเทศ เรื่องนี้ชัดจนไม่ต้องตีความว่า...หวังผลทางการเมืองแน่ เพราะเรื่องทำนองนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก ทุกครั้งที่รัฐบาล คสช.ขยับไปทางไหน มักถูกกลุ่มคนไม่หวังดี ซึ่งที่จริงก็คือ ขั้วตรงข้ามทางการเมืองเจ้าเก่า...หยิบมาตีทุกครั้ง หนนี้ก็เช่นกัน...ความหวังดีช่วยผู้มีรายได้น้อย...ก็ยังเป็นเรื่องขึ้นมาจนได้ 

 

ล่าสุด "นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา" ผู้อำนวยการ สำนักงบประมาณ ต้องออกมาชี้แจงเรื่องนี้ด้วยตนเองว่า หลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ที่มี "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมว่า กระแสข่าวที่ว่า รัฐบาลใช้เงินเกินตัวนั้น ตนยืนยันว่า ยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังของคณะกรรมการฯ ซึ่งมีการพูดถึงการขาดดุลงบประมาณ และตนอยากจะเรียนว่า ในปีงบประมาณ 2562 มีการตั้งงบขาดดุล 4.5 แสนล้านบาท ภายใต้วงเงินงบประมาณ 3 ล้านล้านบาท ก็ต้องเรียนว่า สัดส่วนงบขาดดุลอยู่ที่ 15% เท่านั้น ตามกรอบงบประมาณ


 

ส่วนการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 1 แสนล้านบาท ผู้อำนวยการสำนักงบฯ ยืนยันว่า ไม่ผิด พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง เพราะเป็นงบประมาณรายจ่ายประจำปีรองรับไว้ ไม่ได้ไปกู้มา ยืนยันว่า อยู่ในกรอบงบประมาณ


อย่างที่กล่าว เรื่องนี้เป็นประเด็นขึ้นมา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางรัฐบาล โดย "กรมบัญชีกลาง" ได้โอนเงินจำนวน 500 บาท ให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  ตามมาตรการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในช่วงปลายปีให้แก่ผู้มีรายได้น้อยจำนวน 11.4 ล้านคน ในล็อตแรกเมื่อวันที่ 8 - 10 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา และจะมีอีก  4 มาตรการตามออกมา เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย และถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 

 

โดยจะช่วยค่าเช่าบ้านให้แก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย จำนวน 400 บาท/เดือน  รวมทั้งจะช่วยเหลือค่าเดินทางไปรับการรักษาพยาบาลให้กับผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เกี่ยวกับสุขภาพอีกคนละ 1,000 บาท


และถึงแม้ถ้อยคำของผู้อำนวยการ สำนักงบประมาณ จะยืนยันหนักแน่นว่า...มาตรการต่าง ๆ เหล่านั้น ไม่กระทบวินัยการเงินการคลังดังที่ถูกโจมตี แต่รับรองว่า...นับจากวินาทีนี้...ซึ่งถือว่าเป็นการปลดล็อกทางการเมืองแล้ว เรื่องทำนองนี้...คือหาประเด็นมาโจมตีรัฐบาล คสช. จะเกิดขึ้นมาอีกหลายระลอกแน่ เพราหากสังเกตให้ดี พลันที่ "ปมตัดชื่อ-โลโก้พรรคในบัตรเลือกตั้ง" ที่ถูกโยนออกมาเงียบหายไป เรื่องนี้ก็ถูกจุดขึ้นมาแทนในทันที ทั้งที่ที่หากมองย้อนกลับไป...จะพบว่า...รัฐบาลที่ผ่าน ๆ มา โดยเฉพาะพวกที่อ้างตัวว่า...เป็นฝ่ายประชาธิปไตยนั้น...ผลาญงบประมาณชาติ...ให้กลุ่มก้อนฐานเสียงของตนเองนับหมื่น-นับแสนล้านบาท....ผ่านโครงการต่าง ๆ จนผู้รู้ทันยังเบือนหน้าหนีมาแล้ว เอาแค่ "เอาเงินชาติ ไปตอบแทนคนเสื้อแดง" ที่เสียชีวิต หรือพิการจากการชุมนุมปี 2553 คนละ 7.75 ล้านบาท (กรณีเสียชีวิต) โดยไม่มีกฎหมายรองรับ...นั่นก็เหลือคณาแล้ว