"อุตตม" ชี้ทุกฝ่ายไม่ควรสร้างเงื่อนไขวิกฤติรอบใหม่ ยันพรรคฯ ฟังเสียงประชาชน

"อุตตม" ชี้ทุกฝ่ายไม่ควรสร้างเงื่อนไขวิกฤติรอบใหม่ ยันพรรคฯ ฟังเสียงประชาชน

 

"อุตตม สาวนายน" ชี้ทุกฝ่ายไม่ควรสร้างเงื่อนไขวิกฤติรอบใหม่ เมื่อเดินหน้าสู่การเลือกตั้งแล้ว ผลออกมาต้องยอมรับกัน ยันพรรคลังประชารัฐ ฟังเสียงประชาชน

 

วันนี้ (16 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ที่ผ่านมา "ดร.อุตตม สาวนายน" หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ร่วมงานเสวนา “อนาคตประเทศไทยหลังการเลือกตั้ง 2562” ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค จัดโดย "เครือเดอะเนชั่น"  และกล่าวตอนหนึ่งว่า การเลือกตั้งในเดือน ก.พ. 2562 ประชาชนคนไทยคาดหวังให้ทุกฝ่ายยอมรับการตัดสินใจของประชาชน แต่ไม่ใช่การยอมรับเพียงวาจาเท่านั้น แต่ต้องยอมรับด้วยการปฏิบัติ ต้องไม่สร้างหรือทำให้เกิดเงื่อนไขทั้งภายในและภายนอกสภา ที่จะนำไปสู่ความวุ่นวายเหมือนในอดีต 
 

 

“คนไทยทุกภาคส่วนไม่เอาแล้ว 10 ปีที่ผ่านมาไม่ว่าใครก็ตามที่มีส่วนกับปัญหา ประเทศไทยสูญเสียไปมากแล้ว  วันนี้ต้องยอมรับกติกา ต้องยอมรับด้วยวาจาและการกระทำ ต้องไม่ส่งเสริมเรื่องนอกกติกา หากเป็นเช่นนี้แล้วประเทศก็จะเดินหน้าไปได้ ไม่เกิดกีฬาสี วันนี้เรามีกฎเกณฑ์กติกา บางคนอาจชอบ บางคนอาจไม่ชอบ แต่วันนี้มาถึงจุดที่ต้องมองไปข้างหน้า คนไทยดูออกใครวางตัวอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หรือรัฐบาล ถ้าเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งแล้วเมื่อผลออกมาต้องยอมรับกัน ซึ่งพรรคพลังประชารัฐยอมรับในการตัดสินใจของประชาชน” ดร.อุตตม กล่าวพร้อมระบุ ด้วยว่า   


นอกจากคนไทยต้องการก้าวข้ามความขัดแย้งและให้ประเทศมีเสถียรภาพดีแล้ว พรรคมีนโยบายที่ตอบโจทย์ประเทศไทย ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราจะมุ่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศที่สะสมมานาน ภายใต้แนวทาง สร้าง-เสริม-ปรับ-เปลี่ยน คือ สร้างหลักประกันสังคมให้คนไทยได้รับสวัสดิการอย่างทั่วถึงครอบคลุม เสริมความแข็งแกร่งของประเทศ ปรับเศรษฐกิจให้แข่งขันกับเวทีโลกได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน เปลี่ยนการบริหารราชการแผ่นดินให้มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง มิใช่ให้พรรคการเมืองหรือนักการเมืองเป็นศูนย์กลาง แต่ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงต้องไม่นำไปสู่การแตกแยก


 

ส่วนเมื่อถามว่า หลังการเลือกตั้งจะจับมือกับพรรคใดเป็นรัฐบาลนั้น หัวหน้าพรรค พปชร. ตอบว่า ขณะนี้ยังเร็วไปที่จะพูดถึงการจับมือกับพรรคการเมือง รอให้ผลการเลือกตั้งออกมาแล้วค่อยมาว่ากันด้วยคณิตศาสตร์การเมือง เพื่อให้จัดตั้งแล้วรัฐบาลมีเสถียรภาพ บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ส่วนในตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่พรรค พปชร. จะนำเสนอนโยบายและตัวเลือกบุคลากรให้ประชาชนได้รับทราบ และตัดสินใจว่าจะได้อะไร ให้ประเทศเดินไปข้างหน้า ก้าวข้ามความขัดแย้ง  และดูแลพี่น้องประชาชนให้อยู่ดีกินดี