ไม่น่าเชื่อแค่ 3 เดือน"อนาคตใหม่" จะถดถอยเช่นนี้ ปม"ป้ายสีคนปลอมตัวป่วน" สะท้อน"ความฟอนเฟะที่ซุกใต้หน้ากาก ปชต."

ไม่น่าเชื่อแค่ 3 เดือน"อนาคตใหม่" จะถดถอยเช่นนี้ ปม"ป้ายสีคนปลอมตัวป่วน" สะท้อน"ความสกปรกที่ซุกใต้หน้ากาก ปชต."

ไม่น่าเชื่อแค่ 3 เดือน"อนาคตใหม่" จะถดถอยเช่นนี้ ปม"ป้ายสีคนปลอมตัวป่วน" สะท้อน"ความสกปรกที่ซุกใต้หน้ากาก ปชต."


แทบไม่น่าเชื่อว่าเพียงระยะเวลาแค่ 2 - 3 เดือนเศษ "พรรคอนาคตใหม่" ที่ทำท่าว่าจะมาแรงในช่วงแรก จะถดถอย และกำลังจะตกม้าตายก่อนได้เลือกตั้งเช่นนี้ เพราะปมปัญหาภายในอันเกิดจากบริหารงานภายในของแกนนำพรรคฯ ที่ปะทุขึ้นมาไม่หยุดหย่อนนั้น สะท้อนความเป็น "มือใหม่" ของแกนนำระดับคีย์แมนที่ร่วมก่อตั้งพรรคฯ ได้เป็นอย่างดี เพราะการลงสู่สนามการเมืองแบบเต็มตัวนั้น...ไม่ใช่การเดินลุย "ทุ่งดอกไม้" ดังที่หลายคนเตือนไว้ตั้งแต่ต้น

 

ยิ่งอนาคตใหม่ก่อเกิดจากแกนหลักแค่ 2 - 3 คนอย่าง "นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" หัวหน้าพรรคฯ และ "นายปิยบุตร แสงกนกกุล" เลขาธิการพรรคฯ ก่อนจะไปบวกรวมกับ "คนรุ่นใหม่" หลากหลายสาขา เพื่อให้เข้ากับสโลแกนของพรรคฯ ที่ชูธงไปทางนั้น และพยายามกวาดต้อน "กลุ่มคนรุ่นใหม่" ที่อาจไม่รู้เท่าทันมาเป็นคะแนนเสียง


 

แต่ก็นั่นแหล่ะ เมื่อพรรคก่อเกิดจากการรวมตัวกันอย่างหลวม ๆ ขณะที่อำนาจการบริหารกลับอยู่ในมือแกนนำไม่กี่คน นั่นย่อมนำมาซึ่งปัญหาภายในแน่ เหนืออื่นใดก็คือ ปมความขัดแย้งนั้น ล้วนเป็นเรื่องหลักการ และอุดมการณ์ที่พรรคฯ ทำท่าว่า...จะเป็นประชาธิปไตยอยู่เต็มขั้น แต่เอาเข้าใจหลายสิ่งกลับอยู่ตรงข้ามกับที่พยายามสร้างภาพให้สังคมได้เห็น...จนหลายคนต้องลาจากไป ดังกรณี "น.ส.วิภาพรรณ วงศ์สว่าง"  อดีตหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง และเป็นการกรรมการเครือข่ายคนรุ่นใหม่ หรือ New Gen Network (NGN) ได้ประกาศหันหลังให้พรรคฯ  หลังถูกกล่าวหาว่า...ใช้เงินมือเติบ พร้อม ๆ กับที่เธอได้ทิ้งบอมไว้ลูกใหญ่"ถึงการใช้อำนาจของแกนนำพรรค ซึ่งเธอระบุว่า "คนพวกนี้ต้องทบทวนตัวเองให้มากๆ ว่า กำลังนำคนของท่านไปสู่อะไร"


ถ้อยคำของ "น.ส.วิภาพรรณ" ทำให้หลายคนที่คิดว่า "อนาคตใหม่" กำลังจะเข้ามาเปลี่ยนโลก...ต้องทบทวนสิ่งเหล่านั้นในทันที แม้แต่ "กาณฑ์ พงษ์ประภาพันธ์" หนึ่งในแกนนำ "คนอยากเลือกตั้ง" ซึ่งถือเป็นคนกันเอง ยังออกมาสบถดังลั่นว่า "อนาคตใหม่ มันจะหมดไหม้ ก็เพราะมีหัวหน้าเฮงซวยแบบนี้แหล่ะ"

อย่างไรก็ตาม แม้สุดท้าย "น.ส.วิภาพรรณ" จะยอมยุติปัญหาด้วยการเดินจากไป กระนั้นข้อขัดแย้งในเชิงหลักการของ "อนาคตใหม่" กลับไม่ยุติลงด้วย แถมกลับทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอีก เมื่อล่าสุดปมขัดแย้ง กรณีสมาชิกพรรคบางคน ตั้งคำถามถึงความโปร่งใสในการทำ "ไพรมารี่โหวต" ของพรรค หลังพบว่า สมาชิกบางคน ถูกตัดชื่อออกจากการเป็นตัวแทนลงสมัครรับเลือกตั้งแบบไม่ได้รับคำชี้แจงใด ๆ  กระทั่งกลายเป็นประเด็นของการ "เล่นพรรคเล่นพวก" และใช้อำนาจตามอำเภอใจของแกนนำพรรคฯ

 

เรื่องนี้น่าสนใจขึ้นอีกเมื่อ "นายปิยบุตร" อดีตอาจารญ์มหาวิทยาลัย และเป็นเลขาธิการพรรคฯ อยู่ด้วย ลงมือเป็น "ผู้ราดน้ำมันลงบนกองฟืน" และทำให้เรื่องนี้ลุกโชนขึ้นมาเสียเอง เมื่อเขาพยายามโบ้ยไปทำนอง "เรื่องทั้งหมดเป็นการกระทำของคนไม่ชอบขี้หน้าพรรค แล้วปลอมตัวมาสมัครฯ เพื่อหวังป่วนพรรคอนาคตใหม่ 

 

 

"หากในอนาคตผู้ที่ปลอมตัวมาได้รับการคัดเลือก แล้วมีอุดมการณ์ไม่เหมือนกับพรรคก็จะถือเป็นเรื่องที่ลำบากและสร้างปัญหาได้"  นายปิยบุตร อ้าง


และทันทีที่ข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป...ก็มีเสียงตอบโต้มาทันความจาก "นายกิติ์ดนัย ไชยนุรัตน์" จากอดีตผู้สมัครฯ ที่ถูกตัดสิทธิ์เขต 7 จ.นครศรีธรรมราช ถึงกับสวนออกมาตรง ๆ ว่า..."ใครเป็นผู้ปลอมตัว...และปลอมมาจากไหน พร้อมทั้งระบุว่า...พร้อมจะให้ทางพรรคฯ ตรวจสอบประวัติของตนได้ทุกเมื่อ"

โดยนายกิติ์ดนัย ถึงกับระบุว่า ตนไม่ทราบจริง ๆ ทำไมผู้พูดจึง "เบี่ยงเบนประเด็น" ไปทางนั้น และการแก้ปัญหาแบบบิดเบือนข่าว "แก้ผ้าเอาหน้ารอด" เช่นนี้ไม่ควรเป็นพรรคการเมือง


สอดคล้องกับ คำถามของ "นายจิระเดช พรหมสุทธิ์" อีกหนึ่งสมาชิกที่เป็นว่าที่ผู้ประสงค์สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อสัดส่วนภาคใต้ของพรรคฯ ซึ่งได้ออกมาตั้งคำถามต่อกรณีนี้ โดยพุ่งเป้าไปที่ "นายปิยบุตร" โดยตรงทำนองว่า "ไม่น่าเชื่อ คนที่เคยเป็นครูบาอาจารย์ มาก่อนแทบไม่ทันไรก็เริ่มทำตัวเป็นนักเลือกตั้งบิดเบือนเบี่ยงเบนประเด็นไม่ตอบคำถามที่สังคมสงสัย แต่กลับมาสร้างเรื่องเท็จ แบบนี้หรือคืออนาคตใหม่ กลุ่มผมคิดว่านี่เป็น “อนาคตวังเวง” มากกว่า" 


คำถามของ "นายจิระเดช" นับว่าน่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะมันสะท้อนตัวตนแท้จริงของแกนนำพรรคอนาคตใหม่...โดยเฉพาะประเด็นการพยายาม "โกหก" เพื่อเอาตัวรอด และซุกขยะไว้ใต้พรม...เพื่อรอวันให้ปัญหาใหม่ปะทุต่อไป

โดย "นายจิระเดช" ยืนยันเอาไว้ด้วยว่า  วันนี้ได้เห็นธาตุแท้ ว่า "อนาคตใหม่" เป็นแค่สำนวนโวหารสร้างภาพ และการโฆษณาชวนเชื่อทางการเมืองเท่านั้น และสิ่งที่ตนได้สัมผัสคือ ความโหดร้าย น่ากลัว และความเป็นเผด็จการชนิดพิเศษของพรรคฯ

อย่างที่บอก แทบไม่น่าเชื่อว่าเพียงระยะเวลาแค่ 2 - 3 เดือนเศษ "พรรคอนาคตใหม่" ที่ทำท่าว่าจะมาแรงในช่วงแรก จะถดถอย และกำลังจะตกม้าตายก่อนได้เลือกตั้งเช่นนี้ ทั้งหลายทั้งปวงนั่น ล้วนเป็นปมปัญหาภายในอันเกิดจากบริหารงานภายในของแกนนำพรรคฯ ทั้งสิ้น....และดูเหมือนเรื่องทำนองนี้จะเกิดขึ้นอีกนับไม่ถ้วนแน่...เพราะสมาชิกพรรคฯ ที่ประสบปัญหามาด้วยตนเอง...ล้วนยืนยันตรงกันว่า...แกนนำพรรคทั้งธนาธร และปิยะบุตร ไม่เคยคิดที่จะแก้ไขปัญหาจริง ๆ จัง ๆ เพราะแท้จริงแก่นคิดเดิมของเขา...แทบไม่มีอะไรที่เป็น "ประชาธิปไตย" สักนิด