ไม่จบไม่สิ้น! "พรรคอนาคตใหม่" สร้างโพลล์ "ปฏิรูปกองทัพ" หวังยกเลิกทหารเกณฑ์...นโยบายเพื่อประชาชนหรือหวังผลอันใด

ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่กับข้อเสนอการพยายามลดบทบาทและขนาดกองทัพที่มาจากฟากฝั่งนักการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ "พรรคอนาคตใหม่" ที่หนึ่งในนโยบายชูโรงคือการปรับเปลี่ยนโครงสร้างรวมถึงการใช้อำนาจของกองทัพ ต่อกรณีดังกล่าว ล่าสุดนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ได้สร้างโพลล์สำรวจความคิดเห็นประชาชนในแฟนเพจเฟซบุ๊กของตน

ไม่จบไม่สิ้น! "พรรคอนาคตใหม่" สร้างโพลล์ "ปฏิรูปกองทัพ" หวังยกเลิกทหารเกณฑ์...นโยบายเพื่อประชาชนหรือหวังผลอันใด

 

ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่กับเสียงกู่ก้องร้องเรียกจากฟากฝั่งนักการเมืองที่ถือตนว่าเป็น "คนรุ่นใหม่"...ด้วยพยายามให้มีการลดบทบาทและขนาดกองทัพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ "พรรคอนาคตใหม่" ที่มีหนึ่งในนโยบายชูโรงคือการปรับเปลี่ยนโครงสร้างรวมถึงการใช้อำนาจของกองทัพ ต่อกรณีดังกล่าว ล่าสุดนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ได้สร้างโพลล์สำรวจความคิดเห็นประชาชนในแฟนเพจเฟซบุ๊กของตน
    

ว่าด้วยเรื่อง "ปฏิรูปกองทัพ" ให้เป็นกองทัพสมัยใหม่ ยกเลิกเกณฑ์ทหาร ใช้วิธีสมัครแทน ยกเว้นเวลาเกิดศึกสงคราม, ปรับลดกำลังพลประจำการลงครึ่งหนึ่ง ให้เหลือเพียง 1.7 แสนนาย, ลดจำนวนนายพลจากปัจจุบัน 1,600 คน ให้เหลือเพียง 400 คน

ไม่จบไม่สิ้น! "พรรคอนาคตใหม่" สร้างโพลล์ "ปฏิรูปกองทัพ" หวังยกเลิกทหารเกณฑ์...นโยบายเพื่อประชาชนหรือหวังผลอันใด
    

ซึ่งมีผู้มาร่วมลงคะแนนแล้ว 2.61 หมื่นคน เห็นด้วยกับการยกเลิกเกณฑ์ทหาร ร้อยละ 95 ไม่เห็นด้วยร้อยละ 5 มีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี กดไลค์ 4.5 พันคน แสดงความคิดเห็น 260 คอมเมนต์ และ 1,444 แชร์ ภายในระยะเวลา 5 ชั่วโมง โดยจะปิดโหวตภายในอีก 6 วันข้างหน้า
    

อย่างไรก็ตามจากข้อเท็จจริงบางประการตามข้อมูลเชิงสถิติ พบว่าจำนวนทหารเกณฑ์ที่กองทัพต้องการมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกปี คือ 99,373 คน ในปี 58 101,307 คน ในปี 59 103,097 คน ในปี 60 และล่าสุด 104,734 คน ในปี 61 จากตัวเลขที่สูงขึ้นตลอดจึงเลี่ยงไม่ได้ที่ กองทัพจึงถูกตั้งคำถามถึง "ความจำเป็น" ของ "กำลังพลสำรอง" 

ไม่จบไม่สิ้น! "พรรคอนาคตใหม่" สร้างโพลล์ "ปฏิรูปกองทัพ" หวังยกเลิกทหารเกณฑ์...นโยบายเพื่อประชาชนหรือหวังผลอันใด

หนึ่งในนั้นคือนายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ ไอติม สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ หลานชายของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ปลดประจำการภายหลังสมัครเข้ารับการเกณฑ์ทหารด้วยการยื่นวุฒิปริญญาตรี ลดระยะเวลาการประจำการจาก 2 ปี (กรณีจับใบดำใบแดง) เหลือเพียง 6 เดือน ได้เสนอให้ปรับปรุงระบบเกณฑ์ทหารมาเป็นระบบสมัครใจ ซึ่งกระแสสังคมบางส่วนก็เห็นดีเห็นงามไปด้วย ถึงขนาดว่าเรียกร้องให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหารออกจากระบบการได้มาซึ่งกำลังพลสำรอง
    

จนทาง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ต้องออกมาให้ความมั่นใจว่ากองทัพจะดูแลทหารใหม่ให้ดีที่สุดประดุจน้องคนสุดท้องของหน่วยทหาร ด้วยการออกระเบียบใหม่เกี่ยวกับเรื่องโภชนาการตลอดจนความปลอดภัยในการฝึก นอกจากนี้ยังกล่าวถึงกระแสเรียกร้องให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ว่าเป็นแค่เสียงของคนกลุ่มเดียว เพราะขณะนี้ไม่มีประเทศไหนในโลกที่ไม่มีทหาร ดังนั้นการยกเลิกการเกณฑ์จึง "เป็นไปไม่ได้"

ไม่จบไม่สิ้น! "พรรคอนาคตใหม่" สร้างโพลล์ "ปฏิรูปกองทัพ" หวังยกเลิกทหารเกณฑ์...นโยบายเพื่อประชาชนหรือหวังผลอันใด
    

หากพินิจอย่างถี่ถ้วน...แนวคิดการปรับโครงสร้างของกองทัพดังกล่าว อาจไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสมนักในยามที่ประเทศไทยยังต้องเผชิญกับภัยเสี่ยงกับสงครามอยู่แทบตลอดเวลาถึงแม้ว่า การรบในปัจจุบันจะเป็น "การรบนอกแบบ" ที่เน้นประสิทธิภาพของกำลังพลและต้องมีศักยภาพสูงกว่ากำลังพลทั่วไป และเน้นการปฏิบัติการด้วยกำลังพลขนาดเล็กหรือ "หน่วยรบพิเศษ" แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการตรึงกำลังในพื้นที่เสี่ยงยังจำเป็นต้องใช้ปริมาณกำลังพลจำนวนมาก เพื่อข่มขู่และคานอำนาจเพราะยังเสมือนหนึ่งฟันเฟืองสำคัญที่จะนำพาภารกิจสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

ไม่จบไม่สิ้น! "พรรคอนาคตใหม่" สร้างโพลล์ "ปฏิรูปกองทัพ" หวังยกเลิกทหารเกณฑ์...นโยบายเพื่อประชาชนหรือหวังผลอันใด

 

การนำเสนอแต่เพียง "ปฏิรูปกองทัพ" ด้วยการยกเลิกเกณฑ์ทหารนั้นอาจเป็นเพียงนโยบายที่ตื้นเขินแบบไม่ได้ลึกซึ้งต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเท่าที่ควร หรือสำหรับนายธนาธร อาจเป็นเพียงชุดความคิดที่ตกผลึกมาจากวาทกรรมที่เขานั้นประดิษฐ์ขึ้นมาเองคือ "ลบล้างผลพวงรัฐประหาร" สอดรับกับนโยบายของทางพรรคอนาคตใหม่ที่ดูจะตะบี้ตะบันมากเกินควร ซึ่งอาจเป็นการสำคัญผิดไปว่าปัจจัยที่ทำให้การรัฐประหารสำเร็จมาจาก "กำลังพล" จึงต้องปรับขนาดกองทัพเพื่อไม่ให้เกิดการรัฐประหารซ้ำซ้อน...แต่ความจริงหาได้เป็นเช่นนั้น เพราะบทเรียนประวัติศาสตร์ครั้งเมื่อ "กบฏเมษาฮาวาย" ที่ผู้ก่อการใช้กำลังพลกว่า 42 กองพันก็ยังต้องพ่ายด้วยตัวแปรอื่น...และอีกหนึ่งเหตุการณ์เมื่อครั้ง "อภิวัฒน์สยาม" ที่มีกำลังพลรบเพียงหยิบมือก็ยังลุล่วงมาแล้ว
    

สิ่งที่นายธนาธรและพรรคอนาคตใหม่ ควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกหากหวังให้นโยบายเป็นเครื่องขับเคลื่อนประเทศอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ได้คาดหวังผลทางการเมืองที่ฉาบฉวย การ "ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร" จึงอาจไม่ใช่คำตอบ แต่สิ่งที่ควรเสนอคือการเพิ่มคุณภาพชีวิตพลทหาร หรือการรับรองค่าตอบแทนต่อเดือนที่เหมาะสมต่อค่าครองชีพ รวมถึงการกำจัดความรุนแรงอันไม่พึงประสงค์ ซึ่งในส่วนนี้ตัว ผบ.ทบ. และกองทัพเองก็ให้ความสำคัญในการสอดส่องดูแลมาตลอด
    

หากเป็นเช่นนี้ต่อไปอาจไม่ใช่เรื่องแปลกหากประชาชนจะผุดคำถามว่าพรรคอนาคตใหม่กำลังตั้งขั้วเป็นปรปักษ์ต่อกองทัพหรืออย่างไร...เพราะผลบั้นปลายคงไม่อาจเป็นอื่นได้นอกจากการพยายามใช้อำนาจทางการเมืองแทรกแซงกองทัพ...เช่นนั้นเอง

 

ไม่จบไม่สิ้น! "พรรคอนาคตใหม่" สร้างโพลล์ "ปฏิรูปกองทัพ" หวังยกเลิกทหารเกณฑ์...นโยบายเพื่อประชาชนหรือหวังผลอันใด