ไม้แก่ดัดยาก! "เฉลิม" กร่างไม่เลิก ...ย้อนพฤติกรรมตั้งแต่หนุ่มยันแก่

 สืบเนื่องจาก กรณีวานนี้ (19 ธันวาคม) "ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง" ประธานยุทธศาสตร์"พรรคเพื่อไทย" พร้อมคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.นครพนม เพื่อพบปะประชาชนพร้อมปราศรัย และเปิดตัวผู้สมัคร อาทิ "นายไพจิต ศรีวรขาน" ว่าที่ผู้สมัคร สส. เขต3 และ "นายชวลิต วิชยสุทธิ์" สส. เขต4 ซึ่งขยับมาจากอดีตสส.บัญชีรายชื่อของพรรคฯ โดยมีประชาชนเข้าร่วมรับฟังหลายพันคน "ร.ต.อ.เฉลิม" เปิดเผยว่า "มั่นใจในพื้นที่อีสาน และ จ.นครพนม พรรคเพื่อไทยจะสามารถชนะการเลือกตั้งได้เกือบทั้งหมด ถึงแม้จะมีปัญหาเรื่องการสืบทอดอำนาจ และยอมรับว่าจากการลงพื้นที่ครั้งนี้ พรรคยังมีคะแนนนิยมท่วมท้น ซึ่งการลงพื้นที่ไม่ใช่เป็นการปลุกระดม แต่เป็นการแสดงพลังของพรรคเพื่อไทย 

 

 

ไม้แก่ดัดยาก! "เฉลิม" กร่างไม่เลิก ...ย้อนพฤติกรรมตั้งแต่หนุ่มยันแก่

 

 

อย่างไรก็ดี การเลือกตั้งรอบนี้ส่วนตัวขออาสามารับตำแหน่งรมว.มหาดไทย หรือรองนายกรัฐมนตรี เพื่อคุมตำรวจ แก้ปัญหายาเสพติด และสิ่งสำคัญหากได้เป็นรัฐบาลจะผลักดันให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะไม่เป็นประชาธิปไตย เป็นรัฐธรรมนูญเก่าที่เคยมีมาก่อน แต่รัฐบาล คสช. นำมาใช้ประโยชน์ในการเลือกตั้ง หรือรองนายกรัฐมนตรี เพื่อคุมตำรวจ แก้ปัญหายาเสพติด ตั้งแต่รัฐบาล คสช. นำมาใช้ประโยชน์ในการเลือกตั้งครั้งนี้ผมอยากเตือนผู้ว่าราชการจังหวัดรวมถึงข้าราชการ อย่างยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ห้ามบีบบังคับหรือใช้อำนาจรัฐ หรือช่วยพรรคการเมือง รวมถึงเพื่อไทย หากพบหลักฐานชัดเจน ผมเอาเรื่องแน่นอน และถึงเวลาที่เพื่อไทยจะแสดงพลังให้คนไทยรับรู้ว่า เป็นพรรคที่อยู่ในใจประชาชนมาตลอด เพราะเราแก้ปัญหาด้วยใจ และเชื่อว่าต้องได้เป็นรัฐบาลแน่นอน"  "ร.ต.อ.เฉลิม" กล่าว  

 

 

ทั้งนี้ หากย้อนดูประวัติทางการเมืองของ "ร.ต.อ.เฉลิม" ก็มิใช่เรื่องแปลกอะไรหากเป็นเรื่องปกติเสียด้วยซ้ำ กับพฤติกรรมตามประสาคนวัยดึกที่มีความเป็น "นักการเมือง" กำซาบอยู่ในทุกอณู ภายหลังประกาศ "ปลดล็อคพรรคการเมือง" ที่ราวกับเป็นการปลดโซ่ตรวนให้ออกมาโลดแล่นโผงผาง เพราะนอกจากจะเป็นสัญญาณให้เริ่มเคลื่อนไหวเชิงนโยบายได้แล้วนั้น พรรคพวกใครพวกมัน...ก็ต่างเกทับข่มกันไปมา สาดเสียเทเสียทำเหมือนว่าประชาชนหูตามืดมัว..เขลาเบาปัญญาในยุคที่ข่าวบ้านการเมืองและข้อเท็จจริงในโลกหล้าอยู่เพียงปลายนิ้วสัมผัส

 

 คงจะปฏิเสธเสียไม่ได้ว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง จัดเป็นนักการเมืองมือเก๋าที่ผ่านร้อนหนาวในเกมแห่งอำนาจและทรงอิทธิพลสูงยิ่งในหมู่มวลชนโทนแดน ทุกความเคลื่อนไหวจึงถูกจับจ้องและได้รับความสนใจมาโดยตลอด ซึ่งก่อนหน้านั้น กับการแถลงข่าวในฐานะหัวหน้าคณะกรรมการรณรงค์หาเสียง "พรรคเพื่อไทย" ที่ไม่วายพาดพิงถึง "พรรคพลังประชารัฐ" ที่ตัวเขานั้นถือมั่นว่าเป็นขั้วตรงข้าม ด้วยการ "ชักแม่น้ำทั้งห้า" จูงให้คล้อยตาม ด้วยการพุ่งเป้าประเด็นไปยังกระบวนการได้มาซึ่งนายกฯ ที่เขาเชื่อว่า "ไม่มีความชอบธรรม" พร้อมโอ่ว่าตนนั้นอยู่ในสนามการเมืองมานาน อ่านเกมขาดอย่างปรุโปร่งว่า "พรรคพลังประชารัฐ" เอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น ผลบั้นปลายอย่างไรเสีย "พรรคเพื่อไทย" จะชนะ และ "พรรคพลังประชารัฐ" ต้องแพ้อย่างแน่นอน 

 

ไม้แก่ดัดยาก! "เฉลิม" กร่างไม่เลิก ...ย้อนพฤติกรรมตั้งแต่หนุ่มยันแก่

 

    
อย่างไรก็ตาม สำหรับพฤติการณ์ของเขานั้นก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเขาเป็นคนผยองในอำนาจ เฉกเช่น กรณีเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ที่ผ่านมา ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายวัน อยู่บำรุง พร้อมทนายความ ได้พานายอาชวิน อยู่บำรุง หรือ "กาโม่" ลูกชาย เข้ามอบตัวและรับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม คดีทำร้ายร่างกายนายภาณุวัฒน์ หรืออั๋น ปุณณรัตนกุล ลูกนักธุรกิจร้านทอง สมาชิกกลุ่มแข่งรถ "วันพอยท์" ที่ลานจอดรถร้านเดโม่ผับ ย่านทองหล่อ โดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ผู้เป็นปู่นายกาโม่ ได้ตามมาให้กำลังหลานในเวลาต่อมา

คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 23 เม.ย.61 นายภานุวัฒน์ ผู้เสียหาย ให้การว่า ได้เข้าไปเที่ยวที่ร้านเดโม่ผับ ทองหล่อซอย 10 หลังร้านเลิก ผู้เสียหายกับเพื่อนได้เดินมาที่ลานจอดรถ พบกลุ่มของนายวัน อยู่บำรุง กับนายอาชวิน บุตรชาย และนายยศพัฒน์ สัมพันธ์ชัย พร้อมพวก 7-8 คน โดยนายวันได้เรียกนายภาณุวัฒน์เข้ามาพูดคุยเรื่องที่ไปมีปัญหากับลูกชายที่ประเทศสิงคโปร์ ก่อนใช้มือตบที่หน้าอกเบาๆ แล้วแยกย้ายกันขึ้นรถ แต่จากนั้นนายวันได้ตะโกนให้นายภาณุวัฒน์ลงมาหาอีกครั้ง แล้วทำร้ายร่างกายโดยชกเข้าที่ใบหน้าหลายครั้ง และนายอาชวินได้เข้าเตะซ้ำจนได้รับบาดเจ็บ

 

ไม้แก่ดัดยาก! "เฉลิม" กร่างไม่เลิก ...ย้อนพฤติกรรมตั้งแต่หนุ่มยันแก่

 

 

จากนั้นนายยศพัฒน์ได้ยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่เพื่อนผู้เสียหาย ก่อนที่ทั้งหมดจะแยกย้ายกันออกไป หลังเกิดเหตุผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความที่ สน.ทองหล่อ พร้อมกับร้องเรียนที่กองปราบปราม เนื่องจากเห็นว่าผู้ต้องหาเป็นผู้มีอิทธิพล ต่อมาพนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้ขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับนายวัน นายอาชวิน  จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้โลกออนไลน์พากันย้อนอดีต ถึงครั้งที่ ร.ต.อ.เฉลิมขึ้นโรงพักช่วย “ลูกดวง”  

 

เหตุการณ์ เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2543  คดีคาเฟ่เรคคอร์ด สน.ทองหล่อ เวลาประมาณ 00.15 น.  ได้รับแจ้งว่าเหตุวัยรุ่นทะเลาะวิวาทกัน ระหว่างกลุ่มนักศึกษาเอแบคและกลุ่ม ของดวงเฉลิม โดยหนึ่งในกลุ่มของดวงเฉลิมได้ยิงขึ้นฟ้า 1 นัด ก่อนแยกย้ายกันไป กระทั่งถูกจับที่กลางซอยสน.ทองหล่อ เหตุการณ์ครั้งนั้น เมื่อ ร.ต.อ.เฉลิมไปที่โรงพักเพื่อช่วยลูกชาย ได้แสดงความไม่พอใจเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยกล่าวว่า “สน.ทองหล่อ วันนี้บัดซบ” หลังจากนั้นเมื่อผู้สื่อข่าว ถามว่าเรื่องนี้นายวันเฉลิมลูกชายอีกคนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมได้แสดงอาการฉุนเฉียว และด่าผู้สื่อข่าวด้วยคำหยาบคาย อาทิ ทุเรศ ,ทะลึ่ง  หรือ“ชั่ว”

 

 

ไม้แก่ดัดยาก! "เฉลิม" กร่างไม่เลิก ...ย้อนพฤติกรรมตั้งแต่หนุ่มยันแก่