วัฒนาแถลงฟ้องแพ่งพ่วงอาญาเจ้าของโรงแรมย่านรัชดาฯเซ่นคลิปฉาว อ่วม!ร้องถอนใบอนุญาตด้วย

จากกรณีนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย และนางสาวณัฏฐา มหัทธนา หรือ โบว์ แกนนำคนอยากเลือกตั้ง ซึ่งถูกมือดีปล่อยคลิปลับของทั้งคู่ออกมาเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ซึ่งต่อมาทั้งคู่ยอมรับ พร้อมปฎิเสธว่าไม่ใช่เรื่องผิดเพราะต่างคนต่างโสด และเชื่อว่าเรื่องนี้มีนัยทางการเมืองนั้น ต่อมานายวัฒนา ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Watana Muangsook โดยใจความว่า คลิปที่ถูกปล่อยนั้นชัดเจนว่าหวังผลทางการเมือง เพราะมีการนำโลโก้พรรคเพื่อไทยแปะไว้ที่คลิปทุกคลิป

 

 

“เจตนาของคนทำคือต้องการทำลายตนและพรรคเพื่อไทยที่มีจุดยืนอยู่ตรงข้ามกับเผด็จการ แต่แท้จริงแล้วกรณีนี้กลับทำให้ประชาชนตาสว่างมากขึ้นที่ได้เห็นเรื่องสกปรกที่คนพวกนี้กล้าทำ แม้กระทั่งแอบถ่ายคลิปในที่ลับเอามาประจาน”

 

นอกจากนี้ นายวัฒนา ยังโพสต์ภาพไลน์ที่ลูกสาวส่งข้อความมาให้กำลังใจ พร้อมแนะนำให้เอาผิดคนก่อเหตุให้ถึงที่สุด ซึ่งทาง นายวัฒนา ยืนยันว่า ตนจะมีการฟ้องเจ้าของโรงแรมและผู้ที่เกี่ยวข้องแน่ โดยมอบหมายให้ทนายความเป็นผู้จัดการ

 

 

 

 

ล่าสุดวันนี้(3ม.ค.) นายวัฒนาพร้อมด้วยทนายความได้ออกมาแถลงถึงความคืบหน้าในการฟ้องร้องคดีดังกล่าว โดยระบุเนื้อหาบางส่วนว่าเรื่องนี้เป็นคลิปที่มีความเกี่ยวข้องกับการเมืองเพราะในคลิปจะปรากฏโลโก้ของพรรคเพื่อไทย มีการนำกันขึ้นมา และในการฟ้องเอาผิดนั้นเรื่องนี้มีความเกี่ยวเนื่องของคดีอาญาและคดีแพ่ง สำหรับการผิดจะแบ่งเป็น4กลุ่มคือ คดีที่1.เจ้าของโรงแรมจะดำเนินคดีในความผิดทางอาญา ความผิดทางอนาจารให้มีการถ่ายคลิป ซึ่งจะฟ้องเองกับศาลไม่ผ่านตำรวจ เพราะหวั่นเกรงว่าอาจมีการช่วยเหลือกันได้ คดีที่2เรียกค่าเสียหายกับเจ้าของโรงแรม โดยโรงแรมดังกล่าวนี้ตนจะไม่ขอเปิดเผยชื่อแต่อยู่ที่ย่านรัชดาฯ

 

 

“ชัดเจนเรื่องการเมือง มีผลการเลือกตั้ง เพราะถ้าผมไม่ออกมา ก็อาจเกิดผลเสียได้ ซึ่งเราไม่ใช่เหยื่อ เราคือนักต่อสู้ ส่วนคดีที่3 เนื่องจากโรงแรมเป็นธุรกิจควบคุมที่ต้องมีใบอนุญาต ดังนั้นตนจะไปร้องต่อกรมการปกครองให้ทำการเพิกถอนใบอนุญาตโรงแรม เพราะไม่มีจรรยาบรรณในวิชาชีพ และคดีที่4 คนเผยแพร่คลิป ผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ ต้นตอปล่อยคลิปดำเนินคดีทุกคน แต่ยังไม่เอาผิดกับประชาชนทั่วไป ให้ทนายไปแจ้งความกับปอท.ในสัปดาห์หน้า รวมทั้งสื่อมวลชนนำเรื่องนี้ไปขยายผลทางการเมือง เพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเมืองของตนแต่เป็นเรื่องส่วนตัว สื่อที่วิพากษ์วิจารณ์เกินขอบเขต เรื่องนี้คนที่ทำไม่ใช่คนธรรมดา เพราะคนทั่วไปไม่มีเครื่องมือแบบนี้ และผมไม่เคยพูดหรือกล่าวหาว่ากองทัพทำ ผบ.ทบ.ออกยืนยันว่าไม่เกี่ยว ก็ไม่ต้องร้อนตัว”