“วินัย ผลเจริญ”  ผศ.มหาลัยสารคาม โพสต์หมิ่นเหม่ ที่แท้ 1ใน118 รายชื่อ แก้ไขม. 112

นาย “วินัย ผลเจริญ” ผศ.มหาลัยสารคาม โพสต์หมิ่นเหม่ ที่แท้ 1ใน118 รายชื่อ แก้ไขม. 112

สืบเนื่องจากการที่สำนักงานพระราชวังออกประกาศ วันที่ 4-6 พฤษภาคม 2562 จะมีการประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกตามพระราชประเพณี  และในต่อมานายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี  ได้ออกมาแสดงความเห็นถึงกำหนดการเลือกตั้ง  ที่มีกระแสเรียกร้องให้เลื่อนออกไปหลังพระราชพิธีอันเป็นมงคลก่อน  

 

ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มคนบางกลุ่มไม่เห็นด้วยในการที่จะต้องเลื่อนเลือกตั้งตามโรดแมปเดิมที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเร็วที่สุดนั้น ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ออกไปและกลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันทีภายหลังจาก วินัย ผลเจริญ  อาจารย์มหาวิทยาลัยมหาสารคามได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คส่วนตัว เมื่อวันที่5 ม.ค.62 เวลา 10.45น. ข้อความระบุว่า “ใครบ้างมีส่วนกำหนดเกมการเลื่อนเลือกตั้ง อย่าลืมว่าเจตจำนงของประชาชนสำคัญยิ่งกว่าพิธีใดๆ”

ข้อความดังกล่าวถูกตั้งคำถามจากสังคมไทยและถูกมองว่าการกระทำเช่นนี้ อาจจะเข้าข่ายหมิ่นเหม่ และไม่เหมาะสมหรือไม่ จนกระทั้งเป็นทางด้านของ พล.ต.นพ. เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ และผู้ก่อตั้ง “องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน” เป็นผู้หยิบยกเรื่องมาขยายเมื่อวันที่ 9 ม.ค.62 ได้โพสต์ข้อความระบุว่า...

 

นายวิษณุ เครืองาม

 

ด่วนที่สุด...ได้โปรดแชร์ให้ถึง รมว.กระทรวงศึกษาธิการ , อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม , ผวจ.มหาสารคาม , หัวหน้าหน่วยงานความมั่นคง และประชาชน จ.มหาสารคาม ทราบว่า

ผศ.วินัย ผลเจริญ อาจารย์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คส่วนตัวเมื่อ 5 ม.ค.62 เวลา 10.45น.ข้อความว่า “ใครบ้างมีส่วนกำหนดเกมการเลื่อนเลือกตั้ง อย่าลืมว่าเจตจำนงของประชาชนสำคัญยิ่งกว่าพิธีใดๆ” ทั้งนี้ผมได้ขอให้ ผศ.วินัย ผลเจริญ ชี้แจงว่า “พิธีใดๆ” ตามที่ ผศ.วินัย ผลเจริญ โพสต์นั้นหมายความถึงพิธีอะไร แต่ ผศ.วินัย ผลเจริญ กลับปิดเฟซบุ๊คหนี เมื่อคืนวันที่ 8 ม.ค.62 เวลา 21.30-22.00 น.โดยประมาณ

 

ดังนั้น ผศ.วินัย ผลเจริญ จึงเป็นอาจารย์ที่ไม่รู้จักความบังควรว่าการแสดงความเห็นใดที่ส่อเสียดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ในขณะที่ตนเองมีหน้าที่เป็นอาจารย์ที่จะต้องสอนและปลูกฝังวิชาการเมืองและการปกครอง ดังนั้นผมจึงขอความกรุณาจาก รมว.กระทรวงศึกษาธิการ , อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม , ผวจ.มหาสารคาม และหัวหน้าหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ได้โปรดสอบสวน ผศ.วินัย ผลเจริญ และตรวจสอบพฤติกรรมในทางลับที่ได้มีส่วนร่วมกับขบวนการบั่นทอนสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วย หากเป็นไปได้แล้วได้โปรดมีคำสั่งอย่างเด็ดขาดด้วยการปลด ผศ.วินัย ผลเจริญ ให้พ้นจากราชการจนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ อย่าปล่อยปละละเลยให้มีอาจารย์ที่มีอคติต่อสถาบันหลักของชาติในสถาบันการศึกษาดังที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้

ผมหวังอย่างยิ่งว่าท่านทั้งหลายจะไม่ละเลยเพิกเฉยดังเช่นผู้มีอำนาจรัฐที่ผ่านมา

ขอแสดงความนับถือ

ลงชื่อ..พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา

 

เเถลงการณ์

 

อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่า ชื่อของ “วินัย ผลเจริญ”   เป็นหนึ่งในการเคลื่อนไหวของนักวิชาการกลุ่ม “นิติราษฎร์” ที่มี นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ เป็นแกนนำเสนอให้มีการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ในความผิดคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ   เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 55 ที่หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อรณรงค์ข้อเสนอแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

 

โดยได้เสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขมาตรา 112 มีสาระสำคัญโดยสรุป คือ  1.ให้ยกเลิกมาตรา 112 ออกจากลักษณะว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงของราชอาณาจักร 2.เพิ่มหมวดลักษณะความผิดเกี่ยวกับพระเกียรติของพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และเกียรติยศผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ 3.แบ่งแยกการคุ้มครองสำหรับตำแหน่งพระมหากษัตริย์ออกจากการคุ้มครองสำหรับตำแหน่งพระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์

 

4.เปลี่ยนบทกำหนดโทษ โดยไม่มีอัตราโทษขั้นต่ำ แต่กำหนดเพดานโทษสูงสุดจำคุกไม่เกินสามปีสำหรับการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ และไม่เกินสองปีสำหรับ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ 5.เพิ่มเหตุยกเว้นความผิด กรณีแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต 6.เพิ่มเหตุยกเว้นโทษ กรณีข้อความที่กล่าวหานั้นได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นความจริง และการพิสูจน์นั้นเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ  และ7.ห้ามบุคคลทั่วไปกล่าวโทษผู้ที่ทำความผิด ให้สำนักราชเลขาธิการมีอำนาจเป็นผู้กล่าวโทษเท่านั้น แทนพระองค์”

 

ทั้งนี้ “วินัย ผลเจริญ”   ได้ราวมลงชื่อ 118 รายชื่อคณะรณรงค์แก้ไขมาตรา 112 (ครก.)  ร่วมกับ อาทิ นายนิธิ เอี่ยวศรีวงศ์ นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ อดีตอาจารย์ภาควิชาประวัติศาตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่,  นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดี และอาจารย์ประจำสาขาวิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ , นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการเสื้อแดง ผู้ต้องหาหลบหนีคดี ม.112 และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ อดีตอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอดีตแกนนำกลุ่มนิติราษฎร์  เป็นต้น

 

(อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง "ดุสิตโพล" เผย ปปช.เบื่อ พวกคุยโม้ ขายฝัน วอน นักการเมือง ทำตามกฎหมาย- ไม่ซี้อเสียง!)

 

(อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง เหมาะสมไหม? แชร์ว่อนโซเชียล นายก อบต.ชัยภูมิ ตั้งวงเล่นไพ่ไม่สนกฎหมายหมาย "ป็อกแปด-ป็อกเก้า" (คลิป))