หมัดนี้นับสิบไม่ฟื้น!!ชาวเน็ตทิ่มเต็มหน้า"ชัชชาติ" โพล่งปากทวงส่วนต่างค่าข้าว(สวย) 5 หมื่นคืนชาวนา รู้มั๊ยราคาข้าว(เปลือก)จะเท่าไร??

กลายเป็น Talk Of the town ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงกับคำปราศรัยของว่าที่แคนดิเดทชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย แซงล้ำหน้าคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์  ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยไปแล้วเวลานี้   สำหรับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม  หลังจากทั้งคู่ไปขึ้นเวทีหาเสียงที่จังหวัดกาฬสินธุ์   ท่ามกลางมวลชนจำนวนหนึ่ง พร้อมกับอดีตส.ส.ในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ

 

โดยประเด็นที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักในภาวะความเป็นว่าที่ผู้นำของนายชัชชาติ  หลังส่งสัญญาณพร้อมยอมรับมติพรรคเพื่อไทย   ก็คือ  คำปราศรัยความตอนหนึ่ง มีการวิพากษ์วิจารณ์ไปถึงกระแสข่าวเรื่องการเลื่อนเลือกตั้ง ด้วยคำพูดกล่าวหาว่ามีความพยายามจากรัฐบาล ทำให้การเลือกตั้งล่าช้าออกไป  ซึ่งกลายเป็นผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของรัฐบาล   จากนั้นก็มีพูดถึงนโยบายพรรคเพื่อไทย เรื่องแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน  ด้วยการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และกระจายโอกาส  ก่อนจะโจมตีผลการแก้ปัญหาเศรษกิจของรัฐบาล ว่า ทุกวันนี้ราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ  แต่ราคาขายในร้านค้าสู่ผู้บริโภคกลับมีราคาสูง  อาทิเช่น  ข้าวสวยหน้าร้านราคาตันละ 5 หมื่น แต่ชาวนาขายได้ตันละไม่ถึงหมื่น  เพราะมันมีส่วนต่างที่เราต้องเอากลับมาคืนให้เกษตรกร 

 

 

เนื่องจากภายหลังที่มีการนำเสนอคำพูดในลักษณะดังกล่าวออกไป ปรากฎว่ามีผู้ใช้ชื่อเฟสบุ๊ก " Benya Nandakwang" ได้แสดงความเห็นในเชิงทัดทานมุมมองของนายชัชชาติ  โดยระบุรายละเอียดทั้งหมดดังนี้  "ขออนุญาตท้วงคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์    โดยตอบจากความรู้เบื้องต้นของคนที่ทำโครงการข้าวกับชาวนามาได้แค่ 5 ปี และทำร้านอาหารมากว่า 30 ปี   ข้าวเปลือก  สมมุติหอมมะลิก็แล้วกันราคาขึ้นลงระหว่าง แปดพันถึงหมื่นกว่า

เรามาลองเอาตัวเลขตุ๊กตาคุ้นๆ สมัยรัฐบาลใครก็ไม่รู้ คือตันละหมื่นห้ามาลองคำนวณ  ข้าวเปลือกเมื่อสีเป็นข้าวสาร จะเสียน้ำหนักไปครึ่งต่อครึ่ง แสดงว่า ถ้าเปลือก 15,000

สีเป็นข้าวสารคือ 30,000 เท่ากับต้นทุนข้าวสารตกกิโลละ 30 บาท ยังไม่รวมค่าสี แพ็ค ซีล และขนส่ง บวกไปโลละ 5 บาท บวกกำไรของพ่อค้าคนกลางมายันค้าปลีก แบรนด์ดิ้งต่างๆ ตกโลละห้าสิบกว่า ข้าวสารกิโลนึงน่าจะหุงตักข้าวสวยได้สัก 20 จาน ก็คือต้นทุนค่าข้าวจานละ 2.5 บาท คือตันละ ห้าหมื่น ณ จุดขาย

 

 

แต่คุณชัชชาติแกพูดถึงราคาข้าวสวยที่หน้าร้านเว้ยเฮ้ย (อุ๊ย ขออภัยลืมตัว) ราคาหน้าร้านอาหารมันมีต้นทุนบานตะไท ค่าเช่า ค่าแรงครัว ค่าแรงเสิร์ฟ ชุดพนักงาน แฟ้บสบู่ ค่าแอร์ น้ำไฟฟ้าค่าตกแต่งลงทุนทำร้าน  ค่าเมนู ค่าจานชามช้อนส้อมซึ่งสวยแม่งก็หายเช็ด (ภาษาเริ่มแย่ลง) ทำให้ โดยปกติร้านอาหารต้องคำนวณต้นทุนแล้วคูณสามเป็นอย่างต่ำ จึงจะเริ่มมีกำไร อย่าลืมว่า ขายไม่หมดก็ต้องทิ้ง ก็คือ 7.5 บาท ถ้าโง่พอที่จะคำนวณกลับไปเป็นข้าวเปลือก คือตันละแสนห้าจ้ะ คืนไหวไหมล่ะ...."

 

ทั้งนี้จากโพสต์ดังกล่าว ปรากฎว่ามีผู้นำไปแชร์ต่อเกือบ 2 พันครั้ง  และร่วมแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ มากมาย ในลักษณะทดท้อกับมุมมองความคิดของนักการเมือง ซึ่งมักจะพูดในสิ่งที่ไม่รู้ ไม่เข้าใจ  แต่เห็นว่าเพื่อเป็นการหาคะแนนนิยมก็พูดไปก่อน