เปลือยความสัมพันธ์-พรรคดีเอ็นเอ! ทษช. "ทักษิณ ชินวัตร"

ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการเปิดบัญชีนายกฯ ของ"พรรคไทยรักษาชาติ" ที่สุดแสนจะเซอร์ไพรส์! เรียกได้ว่าสะท้านไปทั่วทั้งวงการการเมืองไทย  ทั้งนี้จากบทสัมภาษณ์ของ "ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช" หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า "บิ๊กเซอร์ไพรส์" ดังกล่าวนั้นเป็นมติของพรรคฯเอง  หลังจากคณะกรรมการบริหารพรรคเห็นพ้อง ลงความเห็นต้องกันว่าเป็นชื่อที่มีความเหมาะสมที่สุด จึงมีมติให้ความเห็นชอบ

 

 

สำหรับความเคลื่อนไหวของพรรคไทยรักษาชาติ หรือ ทษช.  มีการตั้งข้อสังเกตตัวอักษรย่อของพรรคฯ ซึ่งนัยยะคือเอามาสู้กับ คสช. หรือไม่? และดันไปคับคล้ายคับคลากับชื่อของ "นายใหญ่" หรือ "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี  โดยมีกระแสข่าวว่า "พรรคไทยรักษาชาติ" เป็นพรรค DNA รองรับปาร์ตี้ลิสต์พรรคเพื่อไทย ตามยุทธศาสตร์ “แตกแบงก์พัน”

 

 

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีอดีต ส.ส. และอดีตรัฐมนตรีของ พรรคเพื่อไทย คนสนิท "น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" จำนวนหนึ่งได้เตรียมย้ายมาสังกัดและเข้ามาบริหารพรรคไทยรักษาชาติ  อาทิ  "นายจาตุรนต์ ฉายแสง" อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง, "นายนพพล ปัทมะ" อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ , "นายพิชัย นริพทะพันธุ์" อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน  ,”น.ส.กฤษณา สีหลักษณ์" อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ "นายพิชิต ชื่นบาน" หัวหน้าทีมทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในคดีรับจำนำข้าว และนางสาวขัตติยา สวัสดิผล เป็นต้น  รวมทั้งยังมีแกนนำนปช. คนเสื้อแดง นำโดนนายณัฐวุฒิ  ใสยเกื้อ , นายก่อแก้ว พิกุลทอง,นพ.เหวง โตจิราการ ,นายพายัพ ปั้นเกตุ  ,นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท และนางระพิพรรณ พงษ์เรืองรอง ภรรยานายอริสมันต์ แกนนำเสื้อแดงฮาร์ดคอร์ เป็นต้น

 

 

นอกจากนี้ ยังมีลูกหลานเหลนโหลน ญาติสนิทมิตรสหาย ที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นและใกล้ชิดกับ"นายใหญ่่และนายหญิง" อีกเพียบ! อย่างไรก็ตามเพื่อความชัดเจนมากยิ่งขึ้นต่อกรณีดังกล่าว ต้องหวนย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว(2560)  เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ที่ห้องแกรนด์ฮอลล์ 2 โรงแรมรามาการ์เด้นส์ พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) จัดประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1 เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรค คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.โดยมีอดีตแกนนำ และอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย เข้าร่วมประชุม

 

 

 

ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติเลือก "ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช" ลูกชาย "นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช" อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และยังเป็นแกนนำพรรคเพื่อไทย กับ "นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช" เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยอีกด้วย  นอกจากนี้ ยังมีมติเลือกคณะกรรมการบริหารพรรค อีก 13 คน ประกอบด้วย รองหัวหน้าพรรค คือ "น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร" อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย , "นพ.พงษ์ศักดิ์ ภูสิทธิ์สกุล" , "นายพฤฒิชัย วิริยะโรจน์"  และ  "นายฤภพ ชินวัตร" (ซึ่งเขาลูกชาย"นายพายัพ ชินวัตร" อย่างไรก็ดี "นายพาพัพ" เป็นน้องชายคนเดียวของ "ทักษิณ" อีกทั้งเขายังเป็นคนคุมภาคอีสานของพรรคเพื่อไทย และอดีตสส.เชียงใหม่)

 

 

ส่วนเลขาธิการพรรค คือ "นายมิตติ ติยะไพรัช" (ลูกนายยงยุทธ ติยะไพรัช แกนนำพรรคเพื่อชาติ ทั้งนี้เขายังเคยประกาศไว้ว่าจะนำ"นายทักษิณ"กลับบ้าน) รองเลขาธิการพรรค คือ "นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์" , "นายต้น ณ ระนอง" (ลูกนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย  อดีตกก.ผจก.ตลาดหลักทรัพย์ฯ และอดีตอธิการบดี มหาวิทยาลัยชินวัตร มีบทบาทสูงในการพัฒนาตลาดทุน เคยเป็นกุนซือสมัยเป็นนักธุรกิจ ซึ่งถือว่าเขาเป็นคนสนิทอีกคนหนึ่งของ "น.ส.ยิ่งลักษณ์"  ทางด้านของนายทะเบียนสมาชิกพรรค คือ "น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์"  (เธอเป็นลูกสาว"นางเยาวเรศ ชินวัตร" ทั้งนี้ "นางเยาวเรศ" เป็นน้องสาวของ"นายทักษิณ" )

 

 

 

ส่วนเหรัญญิกพรรค คือ "นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์" (ภรรยาของ "นายธาริต เพ็งดิษฐ์" เป็นอธิบดีดีเอสไอภายใต้รัฐบาล 2 ขั้วมาได้อย่างดี แต่เมื่อมาถึงยุครัฐบาล คสช. เปลี่ยนสีไม่ทัน ถูกปลด และถูกยึดทรัพย์ จนถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 1 ปี ฐานหมิ่นประมาท นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อย่างไรก็ตามเส้นทางชีวิตราชการของเขานั้น เติบโตจากการรับราชการในสำนักงานอัยการสูงสุดตั้งแต่ปี 2533 จนกระทั่งปี 2544 ในสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ได้ถูกชักชวนให้มาช่วยราชการสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จนถึงปี 2546

 

 

 

และไปต่อเป็นรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ปี 2551 เป็นเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)  มีผลงานการทำคดีต่างๆ อย่างโดดเด่น เมื่อพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นรัฐบาล จึงโยกนายธาริตในวัย 50 ปี กลับมาที่ดีเอสไอ คราวนี้ได้นั่งเก้าอี้อธิบดี แทน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ที่ถูกมองว่าสนิทสนมกับครอบครัวชินวัตร )

 

 

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่า"พรรคไทยรักษาชาติ" นั้น ล้วนแต่มีบุคคลเหล่านี้ ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดและเป็นคนสนิทของตระกูลชินวัตรทั้งนั้น อีกทั้งก่อนหน้านี้ยังมีพฤติกรรมจที่มิบังควร จากกรณีที่ได้ยื่นเสนอ "พระนามของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ" ในบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรค จนมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันยกใหญ่ว่าสมควรที่จะประกาศยุติในการลงสมัครเลือกตั้งในครั้งนี้หรือไม่? หากว่าถูกยุบพรรคฯขึ้นมา บุคคลเหล่านี้จะทำอย่างไรต่อไป ต้องติดตามกันต่อไป ... 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

- "โบว์" เกาะกระแส วอนขอความเป็นธรรมแทน "ทษช"? อ้างเห็นต่างคือหัวใจของประชาธิปไตย?

- หักมุม "บิ๊กเซอร์ไพรซ์"​ ทษช.​ ทำเอา.."หญิงหน่อย​-ชัชชาติ-ชัยเกษม"​ แคนดิเดต เพื่อไทย​ ไปไม่ถึงฝัน?

- "ปฐมภพ" เดือด ยื่นร้องกกต. ตรวจสอบ หลัง ทษช.พลิกลิ้น ไม่ส่งลงสมัคร ส.ส. พร้อมเผาป้าย ลั่นขอลาขาด

- “ณัฐวุฒิ” ไม่ตอบ แคนดิเดตนายกฯ ไทยรักษาชาติ ..พรุ่งนี้มีความชัดเจนทุกอย่าง