ส.ศิวรักษ์ เปิดใจเคยอุ้มทักษิณ แต่โดนหลอก แฉคนเลือกเพราะอำนาจเงิน

ส.ศิวรักษ์ เปิดใจเคยอุ้มทักษิณมาก่อน แต่กลับโดนหลอก แฉคนเลือกเพราะอำนาจเงิน

จากกรณีนายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์  นักคิด นักประวัติศาสตร์ ชื่อดังของประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์บีบีซีไทย กรณีพรรคไทยรักษาชาติเสนอรายชื่อบัญชีนายกรัฐมนตรี โดยมีเนื้อหาบางส่วนระบุว่า  "ในแง่ของทูลกระหม่อมหญิงฯ ท่านก็ถือว่าท่านมีสิทธิเสรีภาพจะทำได้ เพราะท่านออกจากความเป็นเจ้าแล้ว แต่ทีนี้ในแง่ของพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ท่านเห็นว่าถึงจะลาออกแล้วก็ตาม แต่ยังใกล้ชิดกับพระราชวงศ์อยู่  ท่านถึงได้มีประกาศพระราชโองการห้ามเด็ดขาด ขณะที่การนำเสนอพระนามทูลกระหม่อมฯ เป็นนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรคไทยรักษาชาติ ได้ถูกนักวิเคราะห์ต่างชาติบางส่วน ได้ถอดรหัสออกมาว่ามีอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร "อยู่เบื้องหลัง" และ "เป็นผู้ส่งสัญญาณ" ซึ่งเรื่องนี้ ส.ศิวรักษ์ มองว่า การอ่านสัญญาณที่อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณเข้าใจ เป็นการ "อ่านประวัติศาสตร์ไทยไม่ออก"

 

 “เขามีความเป็นไทยน้อยมาก เขานึกอย่างเดียวว่าเขาฉลาด เก่ง และรวย ถ้าไม่เข้าใจวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งแล้วเนี่ย มันให้โทษมากกว่าให้คุณ ทุกอย่างจะรวมตัวกันทักษิณจะกลับมา ยิ่งลักษณ์ (ชินวัตร) จะกลับมา จะรอมชอม จะดี จะร่วมกันต่าง ๆ เขามีสิทธิที่จะมอง แต่มองผิด ในพระราชโองการชัดเจนเลย ในหลวงท่านไม่เล่นกับใครลับหลัง ท่านพูดตรงไปตรงมาเลย ไม่เอา เอาอย่างนี้ ตรงไปตรงมา นี่ผมว่าน่าจะดีใจนะที่ในหลวงท่านบอกว่า บ้านเมืองนี้ต้องเล่นซื่อ ๆ ตรงไปตรงมา

 

ทักษิณเขาเป็นคนกล้ามาตลอดเวลา เขากล้าเสี่ยง... เขาเคยเปรียบเทียบว่าเขาเหมือนกับ อ.ปรีดี พนมยงค์ เขาต้องไปอยู่ต่างประเทศเหมือน อ.ปรีดี แต่ต่างกันเลย อ.ปรีดี ทำทั้งหมดเพื่อบ้านเมือง เพื่อราษฎร เพื่อความถูกต้องดีงาม ทักษิณทำตรงข้ามหมดเลย เขาฝันหวานว่าเป็นเหมือน อ.ปรีดี พนมยงค์ แต่เขาไม่ใช่วีรบุรุษ เขาคงจะกล้าเสี่ยงอีกเยอะ ๆ เขาเป็นคนเก่ง เป็นคนกล้า กล้าเสี่ยงกล้าทำ ส่วนมากจะนำความหายนะมาสู่บ้านเมือง” สุลักษณ์ กล่าวกับ บีบีซีไทย

 

 

 

ส.ศิวรักษ์ เปิดใจเคยอุ้มทักษิณ แต่โดนหลอก แฉคนเลือกเพราะอำนาจเงิน

 

ทั้งนี้หลังจาก ส.ศิวรักษ์  ได้ให้สัมภาษณ์บีบีซีไทย ถึงปรากฏการณ์ 8 กุมภาฯ ปรากฏว่าเกิดกระแสทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วยต่อคำพูดดังกล่าวเป็นจำนวนมาก รวมทั้งลูกศิษย์บางส่วนไม่เห็นด้วย พร้อมโพสต์ข้อความในเชิงสั่งสอนกลับ ทำให้ ส.ศิวรักษ์ ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัว Sulak Sivaraksa ชี้แจงพร้อมบอกถึงสาเหตุทุ่มนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า

 

ผมถือว่าเป็ดเป็นกัลยาณมิตร ซึ่งกล้าพูดในสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องถูกใจผม เรื่องคนข้างล่างนั้น เป็ดลืมไปแล้วหรือว่าผมยืนอยู่ข้างสมัชชาคนจนอย่างไร ผมไปถูกจับที่เมืองกาญจน์ นั่นผมอยู่ฝ่ายไหน

 

ปาฐกถาที่ผมพูดดีที่สุด คือตอนที่แสดงงานเปิดอนุสาวรีย์เจริญ วัดอักษร ซึ่งแปลเป็นอังกฤษแล้วด้วย เป็ดน่าจะหาอ่านได้ จนถึงทุกวันนี้กระรอกก็ยังเห็นผมเป็นกัลยาณมิตรกับพวกเขาที่ต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมมาโดยตลอด

 

การที่คนข้างล่างเป็นจำนวนไม่น้อยเลือกทักษิณ ชินวัตรนั้น เป็ดต้องอย่าลืมอำนาจเงินในสมัยนี้ เนวินดีกว่าทักษิณหรือไม่ บรรหารเป็นคนเช่นไร คนเหล่านี้ได้คะแนนเสียงอย่างท่วมท้นจากจังหวัดของเขา แม้ผมเองยังถูกทักษิณหลอก ผมเคยอุ้มทักษิณมาปีหนึ่ง แล้วก็ทุ่มมันลงไป น่าสงสาร อ.หมอเสม ซึ่งเคยอุ้มทักษิณมาเช่นเดียวกับผม แต่ท่านละอายใจโดยไม่กล้าโยนมันทิ้งไป เป็นเหตุให้ท่านถูกด่าไม่ใช่น้อย

 

ผมไม่ทราบว่าเป็ดสนใจเรื่องพวกนี้แค่ไหน

 

ส.ศิวรักษ์ เปิดใจเคยอุ้มทักษิณ แต่โดนหลอก แฉคนเลือกเพราะอำนาจเงิน

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับ "เป็ด" ที่ ส.ศิวรักษ์ กล่าวถึงคือ  นายพิภพ อุดมอิทธิพงศ์ นักแปล คอลัมนิสต์เว็บไซต์ประชาไท ที่โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Pipob Udomittipong ระบุว่า "เนื่องด้วยบทสัมภาษณ์ https://www.bbc.com/thai/thailand-47242827 ผมขออนุญาตวิจารณ์ความเห็นของครูที่ชุบเลี้ยงผมมา 2 ข้อ (1) อาจารย์ Sulak Sivaraksa บอกว่า “เมื่อประกาศออกมาแล้ว ในสังคมไทย วัฒนธรรมไทย คำประกาศนั้นศักดิ์สิทธิ์ ไม่สามารถที่มีใครจะหลีกเลี่ยงได้” ดูเหมือนอาจารย์จะพอใจกับระบอบปกครองก่อน 2475 อย่างชัดเจน

 

แต่ผมเห็นว่าโลกเปลี่ยนแล้ว ผมสงสารลูกผม (ซึ่งเป็นหลานของอาจารย์) และคนรุ่นหลังที่ต้องการระบอบปกครองที่เสียงของพวกเขามีน้ำหนัก และผู้ปกครองต้อง accountable และรับฟังเสียงจากคนอื่น ๆ ด้วย รวมทั้งการเคารพกฎและกติกาที่ตกลงร่วมกันที่เราเรียกว่า “รัฐธรรมนูญ” สร้าง “ระบบ” มากกว่าการยึดติดกับ “บุคคล” ทราบว่าอาจารย์อยู่ระหว่างฮันนีมูนกับพี่นิลที่ปีนัง ขอให้สนุกนะครับ เชื่อว่าอาจารย์น่าจะพอใจกับการเปลี่ยนแปลงด้านประชาธิปไตยที่นั่น เชื่อว่าอาจารย์คงพอใจกับรูปแบบสถาบันกษัตริย์ที่นั่น ซึ่ง “above politics” อย่างแท้จริง เชื่อว่าอาจารย์คงเฝ้ารอวันที่อันวาร์ อิบราฮิม ยุวมิตรของอาจารย์ จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง ตามขั้นตอนของประชาธิปไตยที่เสียงประชาชนเป็นใหญ่ ไม่มีการแทรกแซงของอำนาจนอกรัฐธรรมนูญ

 

 (2) อาจารย์วิจารณ์ #ทักษิน กับการเสนอชื่อแคนดิเดตครั้งนี้ว่าเป็นเพราะ “เขามีความเป็นไทยน้อยมาก” และ “ไม่เข้าใจวัฒนธรรม (ไทย) ที่ลึกซึ้ง” ถ้าบอกว่า #ทักษิน ไม่เข้าใจวัฒนธรรมชนชั้นสูงดีพอ ผมอาจเห็นด้วย แต่ถ้าบอกว่าเขาไม่เข้าใจวัฒนธรรมคนชั้นล่างที่เป็น “คนส่วนใหญ่” ของประเทศ ผมขอเห็นต่างครับ เพราะมันจะอธิบายไม่ได้เลยว่า ทำไมเขาสามารถครองใจประชาชนได้อย่างยาวนาน พรรคของเขาชนะการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา เขาเป็นเพียง “con artist” ในสายตาของอาจารย์หรือครับ ถ้าใช่ “myth” ตรงนี้เองที่ทำให้สังคมไทยจมอยู่ในปลักมาจะเกือบ 2 ทศวรรษแล้ว

 

ผมทราบดีว่าอาจารย์เก่งและเชี่ยวชาญวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของชนชั้นสูง ชีวประวัติบุคคลที่อาจารย์เขียนล้วนแต่เป็น “เจ้า” หรือเกี่ยวดองกับ “เจ้า” ทั้งนั้น ที่เป็น “ไพร่” ไม่มี หรือมีน้อยมาก ๆ ข้อนี้ผมเคยวิจารณ์ไปแล้วในงานเมื่อคราวอาจารย์ครบ 70 ปี"

 

ส.ศิวรักษ์ เปิดใจเคยอุ้มทักษิณ แต่โดนหลอก แฉคนเลือกเพราะอำนาจเงิน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง  
เปิดประวัติ "อภิสิทธิ์" ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ กับคำเดิมพัน "หากแพ้ครั้งนี้จะลาออกจากหัวหน้าประชาธิปัตย์?"    
คิดจะเป็นกว่าหัวหน้าพรรค​ "ประชาธิปัตย์" เลือดใหม่​ไม่แทงกั๊ก!    
เดือดกว่าศึกนอก! ประชาธิปัตย์ ล้างกระดาน ... สายหมอวรงค์เหี้ยน! ไม่ส่ง​- ลาออก    
เดือดกว่าศึกนอก! ล่อกันเองใน"ประชาธิปัตย์" ... อุดมการณ์อย่างเดียวไม่พอ! ต้อง ..... ด้วย?

 

ขอบคุณเฟซบุ๊ก : Sulak Sivaraksa