120วันย้อนฟังบิ๊กแดงแถลงจุดยืนกองทัพ! ความเป็นกลางขึ้นอยู่คนมอง ลั่นผมเกิน100ยืนข้างประชาชน

จากกรณีเมื่อวันที่ 17 ก.พ. 62 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวปราศรัยหาเสียงช่วงหนึ่งว่า นโยบายพรรคมีแนวทางแก้ไขปัญหาคนตกงาน สนับสนุนคนรุ่นใหม่ในการเป็นเจ้าของธุรกิจเอง ตั้งกองทุนสร้างเจ้าของธุรกิจรุ่นใหม่ หรือเถ้าแก่ใหม่ สร้างให้คนรุ่นใหม่ได้เป็นเจ้าของกิจการ ซึ่งอาจจะแบ่งเงินจากกระทรวงกลาโหม ประมาณปีละ 20,000 ล้านบาท สร้างเจ้าของธุรกิจรุ่นใหม่ได้ถึงปีละ 20,000-30,000 คน ทั้งนี้การตัดงบประมาณจากกลาโหมจะไม่กระทบกองทัพ และขอให้ทหารมาช่วยกันสร้างชาติด้วยกัน เนื่องจากคนยุคใหม่ ต้องการมีธุรกิจเป็นของตัวเองขณะที่นายชัยเกษม นิติสิริ อดีตรัฐมนตรียุติธรรม ก็ได้ปราศรัยด้วย โดยช่วงหนึ่งกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมจะแก้ไขกฎหมาย จะเสนอปฏิรูปกองทัพ ยกเลิกเกณฑ์ทหาร

 

ต่อมาวันที่ 18ก.พ. พลเอกอภิรักษ์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้เดินทางมาเป็นประธานวันสถาปนากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) พร้อมทั้งได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวสั้นๆ เมื่อถามถึงกรณีพรรคเพื่อไทยปราศรัยหาเสียงหากได้เป็นรัฐบาลก็เตรียมที่จะตัดงบประมาณของกระทรวงกลาโหม รวมทั่งการยกเลิกเกณฑ์ทหารด้วย ซึ่ง ผู้บัญชาการทหารบก ได้กล่าวสั้นๆว่า ให้ไปฟังเพลงหนักแผ่นดิน ตอนนี้เพลงนี้กำลังฮิต

 

ทั้งนี้หลังการให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.อภิรัชต์ เผยแพร่ออกไปก็ปรากฏว่า มีเสียงตำหนิ โจมตีอย่างมากมายจากฝ่ายที่ไม่ชอบทหาร รวมทั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้กล่าวระหว่างการลงพื้นที่หาเสียงว่า การนำเสนอนโยบายต่างๆ รวมไปถึงเรื่องของกองทัพก็สามารถทำได้ ทางพรรคประชาธิปัตย์เองก็มีนโยบายเกี่ยวกับกองทัพ เรื่องที่จะมีพลทหารที่สมัครใจ การปรับลดงบประมาณ ปรับแนวทางในการทำงานบางอย่าง แต่ว่าเราก็พยายามนำเสนอในแนวทางที่ไม่นำไปสู่ความขัดแย้งโดยไม่จำเป็น ส่วนทางท่านผบ.ทบ. ท่านเองก็เป็นข้าราชการ ก็อยากให้ท่านชัดเจนว่าท่านมีความเป็นกลางทางการเมือง แต่ถ้าหากท่านมีประเด็นอะไรที่ท่านมองว่า เกี่ยวข้องกับองค์กรของท่านที่เป็นข้อเท็จจริง อยากจะชี้แจงก็อยากให้ทำแบบนั้นมากกว่า แล้วทุกฝ่ายจะได้ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนเองไป

 

 

 

120วันย้อนฟังบิ๊กแดงแถลงจุดยืน! ความเป็นกลางขึ้นอยู่คนมอง ลั่นผมเกิน100ยืนข้างปชช.

 

อย่างไรก็ตามเมื่อย้อนไปก่อนหน้านี้ในวันที่ พล.อ.อภิรัชต์ ได้แถลงเปิดใจในวันเข้าตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกครั้งแรก เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2561 ช่วงหนึ่งของการแถลงและถามตอบกับผู้สื่อข่าวนั้น ทางผบ.ทบ.ได้พูดถึงในเรื่องของการวางตัวเป็นกลางทางการเมืองไว้ตอนหนึ่งอย่างน่าสนใจว่า

 

ผู้สื่อข่าว : ทุกเรื่องที่พูดถือเป็นจุดยืนของกองทัพหรือเปล่า ในการไม่เข้าไปช่วยพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง เพราะมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเอากองทัพเข้าไปช่วยพรรคการเมือง

 

พล.อ.อภิรัชต์ : เราต้องแยกแยะให้ออก และนี่คือจุดยืนของกองทัพ ซึ่งได้มอบให้ผู้บังคับหน่วย ซึ่งวันนี้เราจะได้ชี้แจงต่อผู้บังคับหน่วยได้รับทราบ เราต้องระมัดระวัง เพราะจากนี้ไปถูกจับตามองแน่ เพราะว่ากองทัพและ คสช.ก็คือเนื้อเดียวกัน อย่างที่บอกว่า ขณะนี้ใครเป็นรัฐบาลก็คือรัฐบาลของท่าน พล.อ.ประยุทธ์ ใครมาเป็นรัฐบาล เราก็ต้องทำ ผมก็ต้องทำ ผมจะไปขัดขืนรัฐบาลได้อย่างไร ไม่ใช่ว่าคนโน่นมาเป็นรัฐบาล ไม่ต้องห่วง ผมยืนยัน และจุดยืนในการทำงานของผม และการกำหนดทิศทางให้กำลังพลในกองทัพได้ทำงาน ก็คือผมทำงาน ร้อยเปอร์เซ็นต์และเกินร้อยอยู่แล้ว ไม่ว่าใครมาเป็นนายผม

 

120วันย้อนฟังบิ๊กแดงแถลงจุดยืน! ความเป็นกลางขึ้นอยู่คนมอง ลั่นผมเกิน100ยืนข้างปชช.

 

ผู้สื่อข่าว : เราต้องวางตัวเป็นกลางในการเลือกตั้งให้มากที่สุดใช่หรือไม่

 

พล.อ.อภิรัชต์ : การวางตัวเป็นกลางนี่ เราเป็นทหารอาชีพ และผมผ่านวิกฤติทางการเมืองและการทหารมาทุกยุคทุกสมัย ประสบการณ์ที่ผมเก็บเกี่ยวมาตลอดระยะเวลารับราชการมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ เห็นวิกฤติตั้งแต่สมัยคุณพ่อมา จนมายืนอยู่ตรงนี้ เป็นผู้บัญชาการทหารบกนั้น ความเป็นกลางขึ้นอยู่กับคนมอง บางครั้งเรามั่นใจว่าสิ่งที่เราทำนั้นเป็นกลาง แต่มุมมองของคนอื่นมองว่าเราไม่เป็นกลาง ผมถามสื่อมวลชนว่าจะเอาอะไรมาเป็นเครื่องตัดสิน มาเป็นเครื่องวัดว่ากองทัพอยู่ตรงไหน ขอให้พวกท่านมั่นใจ ขอบอกให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่ากองทัพเป็นกลางและคิดถึง อยู่เคียงข้างประชาชน จะดำเนินการให้ประชาชนอยู่ดีกินดี อยู่เย็นเป็นสุข ช่วยเหลือประชาชนในทุกโอกาส

 

120วันย้อนฟังบิ๊กแดงแถลงจุดยืน! ความเป็นกลางขึ้นอยู่คนมอง ลั่นผมเกิน100ยืนข้างปชช.

 

ผู้สื่อข่าว : ปัญหาคือ พล.อ.ประยุทธ์จะลงเลือกตั้ง เราจะวางบทบาทอย่างไรในฐานะที่ พล.อ.ประยุทธ์ก็อยู่ใน คสช. กองทัพจะแยกการวางตัวในฐานะที่กองทัพเป็น คสช.กับ พล.อ.ประยุทธ์อย่างไร

 

พล.อ.อภิรัชต์ : ผมพูดไปแล้วว่าอยู่ที่มุมมองของคน ผู้สื่อข่าวมองอย่างไร กับการที่ผมต้องไปพบกับ พล.อ.ประยุทธ์ แล้วมาหาว่าผมไม่เป็นกลาง มันใช่ไหม ซึ่งไม่ใช่ พล.อ.ประยุทธ์เป็นหัวหน้าคณะรัฐบาลนี้ การที่ผู้บัญชาการทหารบกจะไปพบ พล.อ.ประยุทธ์ ก็เป็นเรื่องปกติ ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา รัฐบาลที่มาจากพรรคการเมืองอื่นเป็นหัวหน้ารัฐบาล ผมต้องไปพบแล้วบอกว่าผมเป็นกลางหรือไม่เป็นกลาง อยู่ที่คนมอง อย่าตัดสิน อย่างที่บอกว่ากองทัพบกเป็นมืออาชีพ เป็นทหารอาชีพ คำว่าทหารอาชีพกับอาชีพทหารแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นขอความเป็นธรรมด้วยตั้งแต่เริ่มต้นด้วย เรากองทัพบกจะวางตัวเป็นกลางเราในฐานะทหารอาชีพ ใครมาเป็นรัฐบาล เราต้องสนับสนุนนโยบายรัฐบาล

 

120วันย้อนฟังบิ๊กแดงแถลงจุดยืน! ความเป็นกลางขึ้นอยู่คนมอง ลั่นผมเกิน100ยืนข้างปชช.

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-“สุดารัตน์”เข้าทาง “โอ๊ค-พานทองแท้” ..อาจเป็นโอกาสสุดท้ายขว้าง ชัชชาติ ขึ้นเบอร์ 1 ลิสต์ นายกฯเพื่อไทย???
-พลิกปูม​ "ทักษิณ" หักหลัง​ "สมัคร" จบชีวิตการเมืองอย่างบอบซ้ำ​ "สุดารัตน์" จะซ้ำรอย​ หรือ​ เต็มใจให้หลอก