พรรคพลังประชารัฐหาเสียงโคราช คนมาร่วมมืดฟ้ามัวดิน แกนนำประกาศได้สส.ต่ำ10 จะไม่อยู่แผ่นดินไทยต่อไป

จากกรณีวานนี้(28ก.พ.) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคอีสาน พรรคพลังประชารัฐ  พร้อมด้วยนายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคกลาง นายวิรัตน์ รัตนเศรษฐ แกนนำภาคอีสาน และนายภิรมย์ พลวิเศษ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลงพื้นที่ช่วยนายประพิศ นวมโคกสูง ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา หาเสียง ที่ตลาด ตลาดแม่สมบูรณ์ ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยได้รับเสียงตอบรับจากประชาชน พ่อค้า แม่ค้า เป็นอย่างดี มีการมอบดอกไม้ให้กำลังใจ และขอถ่ายรูปอย่างคึกคัก โดยช่วงหนึ่งนายสุริยะ ได้ปราศรัยกับประชาชนที่ตลาดว่า เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ได้มีโอกาสเดินทางมานครราชสีมากับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนั้นเป็นหัวหน้าพรรคไทยรักไทย และปัญหาที่พบ คือประชาชน มีหนี้สินเป็นจำนวนมาก

 

“แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป 20 ปี ปัจจุบัน ประชาชนก็ยังคงเป็นหนี้อยู่ และบางส่วนเป็นหนี้กองทุนหมู่บ้าน ดังนั้น พรรคพลังประชารัฐ จึงมีนโยบาย พักหนี้กองทุนหมู่บ้าน เป็นระยะเวลา 3 ปี และระหว่างนี้ ก็ตั้งกองทุนใหม่ คือกองทุนประชารัฐ ให้พี่น้องประชาชน ไปกู้เงินมาจับจ่ายใช้สอย ดูแลลูกหลาน และทำมาค้าขาย พร้อมยืนยันว่า หากพรรคพลังประชารัฐ ได้มีโอกาสเข้าไปบริหารประเทศ ก็จะมีทีมเศรษฐกิจ ที่มีความรู้ ความเชียวชาญ เข้าไปทำงาน สร้างรายได้ให้กับประเทศ เมื่อประเทศมีรายได้หนี้ที่พักไว้ก็จะยกเลิก นี่คือสิ่งที่พรรคตั้งใจทำ นอกจากนี้สำหรับคนโคราช หากพลังประชารัฐได้เป็นรัฐบาล ก็จะสร้างโรงงาน เพื่อให้ลูกหลานคนโคราช กลับมาทำงานที่บ้านเกิด เป็นการสร้างงานให้กับคนในพื้นที่ ดังนั้นหากเลือกผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทั้ง 14 เขตของโคราช โคราชก็จะเจริญอย่างแน่นอน”


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-ดีเบต(นักการเมือง)ได้มากกว่าเสีย? เพิ่มคะแนนพปชร. เรื่องที่บิ๊กตู่ต้องตัดสินใจ

-ผู้สมัคร พปชร.เขต 8 เมืองคอนใช้สาริกาลิ้นทองเข้าสยบลูกทรพีคลั่งยา ไล่ฟันแม่บังเกิดเกล้า วิ่งหนีรอดหวุดหวิด

 

 

พปชร.หาเสียงโคราช คนร่วมมืดฟ้ามัวดิน แกนนำประกาศได้สส.ต่ำ10 ไม่ขออยู่แผ่นดินไทย

 

ด้านนายอนุชา กล่าวด้วยว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ หากสองพรรคการเมืองใหญ่ ยังถูกเลือกให้เป็นรัฐบาลอีก ความขัดแย้งที่มีมานานกว่า 10 ปี ก็จะไม่จบสิ้น ดังนั้นควรให้โอกาส พรรคการเมืองใหม่ อย่างพรรคพลังประชารัฐ ที่เสนอพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา  เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค เข้ามาแก้ปัญหา และพัฒนาประเทศ เพราะตลอด 4 ปีที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ พยายามสร้างความเจริญ ความมั่นคงและมั่งคั่งของประเทศ ดูแลคนยากจน รวมไปถึงเกษตรกร ชาวไร่ชาวนา อย่างกรณี เรื่องข้าวพรรคพลังประชารัฐ มีนโยบาย ช่วยเรื่องค่าเก็บเกี่ยว ไร่ละ 2,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ และหลังจากนี้จะมีทีเด็ดในเรื่องของข้าวออกอีก จึงขอให้ชาวนาอดใจรอ

 

จากนั้นนายสุริยะ ได้ให้สัมภาษณ์ ถึงการที่แกนนำพรรคพลังประชารัฐลงพื้นที่ จ.นครราชสีมาบ่อยว่า จ.นครราชสีมา มีส.ส.14 คน และ เป็นหนึ่งในเมืองหลวงภาคของภาคอีสาน พรรคจึงให้ความสำคัญเป็นพิเศษ และคาดหวังได้ ส.ส.ทุกเขต จึงต้องมารับฟังปัญหาของประชาชน และมานำเสนอนโยบายพรรคของเราว่าเราจะทำอะไรให้พื้นที่ ซึ่งวันนี้ได้รับฟังมาหลายเรื่องและตอบสนองที่จะทำให้ เพราะสิ่งที่ประชาชนชาวภาคอีสานสะท้อนมา คือ ภาคการเกษตร นโยบายราคาข้าว ว่าพรรค เราจะสามารถช่วยให้ได้อย่างไร ซึ่งพรรคได้เตรียมการไว้แล้ว ในการจะทำให้ราคาข้าวดีที่สุด

 

พปชร.หาเสียงโคราช คนร่วมมืดฟ้ามัวดิน แกนนำประกาศได้สส.ต่ำ10 ไม่ขออยู่แผ่นดินไทย

 

นายสุริยะ ยังกล่าวถึงกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานยุทธศาสตร์หาเสียงพรรคเพื่อไทย ออกมาเหน็บแนมว่า การที่นายสุริยะเงียบไปในระยะหลัง เพราะยอมแพ้แล้ว โดยระบุว่า ไม่ทราบ ร.ต.อ.เฉลิม กลัวอะไรผม ถึงได้ติดตามความเคลื่อนไหวขนาดนี้ ทั้งที่ปากก็บอกไม่ให้ราคา แต่คอยติดตามตลอด ผมในฐานะแกนนำพรรค มีหน้าที่ดูและในหลายเรื่องทั้งนโยบายของพรรคที่จะต้องตอบสนองประชาชนในทุกพื้นที่ ไม่ได้มีเวลาในการลงพื้นที่ตลอดเวลา แต่ได้พูดคุยกับ ส.ส.ในพื้นที่อีสานตลอดไม่ได้หายไปไหน ดังนั้น ร.ต.อ.เฉลิมไม่ต้องห่วง และไม่ต้องสร้างข่าว ให้ ส.ส.อีสานหวั่นไหว เขาไม่หวั่นไหวหรอก ส่วนเรื่องยอมแพ้ไม่มีทางอย่างแน่นอน เพราะยังยืนยันว่า พื้นที่อีสานจะต้องได้ 60 ที่นั่งขึ้นไป

 

พปชร.หาเสียงโคราช คนร่วมมืดฟ้ามัวดิน แกนนำประกาศได้สส.ต่ำ10 ไม่ขออยู่แผ่นดินไทย

 

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ร.ต.อ.เฉลิมไม่ต้องห่วงผมมาก แต่ขอให้เอาเวลาไปห่วงนายวัน อยู่บำรุง ผู้สมัคร ส.ส.เขต บางบอน ลูกชายให้ชนะการเลือกตั้งจะดีกว่า  ขณะที่นายวิรัตน์ กล่าวว่า ตนมั่นใจว่า จะกวาด ส.ส.โคราช ได้เกิน 10 ที่นั่ง เพราะสงครามครั้งนี้แพ้ไม่ได้ หากแพ้ตนจะไม่อยู่โคราชและประเทศไทยแล้ว

 

สำหรับช่วงเย็นวันนี้ ที่ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา นายสุริยะ และแกนนำภาคอีสาน ได้ขึ้นปราศรัยใหญ่ ซึ่งคาดว่ามีประชาชนร่วมรับฟังกว่า 10,000 คน โดยต่อมามีภาพปรากฏตามสื่อด้วยจำนวนของผู้ที่ฟังการปราศรัยจำนวนหนาตาราวมืดฟ้ามัวดิน ทำให้มีบางคนตั้งข้อสงสัยว่าเป็นภาพตัดต่อหรือไม่ ซึ่งในที่สุดก็ได้มีการนำคลิปซึ่งเป็นภาพเคลื่อนไหวมาเผยแพร่ ทำให้ชัดเจนว่าภาพที่เห็นเป็นของจริง เรื่องจริงไม่ใช่การตัดต่อโดยพบว่ามีประชาชนเดินทางมาจำนวนมากจริงๆ

 

พปชร.หาเสียงโคราช คนร่วมมืดฟ้ามัวดิน แกนนำประกาศได้สส.ต่ำ10 ไม่ขออยู่แผ่นดินไทย

 

 

 

ขอบคุณคลิปเฟซบุ๊ก : Somsak Kokgasem