อย่าประมาท!! "สนธิญาณ"พรรคเล็กตัวแปรสำคัญ!! หลังเลือกตั้ง..จับมือทักษิณ..สกัดลุงตู่!

สิ่งที่ต้องจับตานายทักษิณ ชินวัตรมีประสบการณ์อย่างยิ่งในการกว่าตอนพรรคการเมืองต่างๆมารวมกันหากพรรคเล็กพรรคน้อยนี้ไปอยู่ในมือทักษิณ งานนี้เหนื่อย..ที่พลเอกประยุทธ์จะจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างสะดวกราบรื่นเว้นอย่างเดียวเว้นว่าพรรคพลังประชารัฐได้คะแนนอย่างถล่มทลาย

ในขณะนี้เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย สำหรับการเลือกที่กำลังจะมาถึง ในวันที่ 24 มีนาคม 2562 พร้อมกับการเกิดขึ้นของกระแสการจัดตั้งรัฐบาลที่ขณะ ได้กลายเป็นลักษณะ 3 ก๊ก เด่นชัดยิ่งขึ้น โดยมีก๊กแรงที่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นำโดยพรรคพลังประชารัฐ ก๊กที่สอง พรรคการเมืองที่อ้างตัวเป็นฝ่ายประชาธิปไตย  นำโดยพรรคเพื่อไทย และก๊กที่3 พรรคประชาธิปัตย์

 

อย่าประมาท!! "สนธิญาณ"พรรคเล็กตัวแปรสำคัญ!! หลังเลือกตั้ง..จับมือทักษิณ..สกัดลุงตู่!

 

ล่าสุดในรายการ เที่ยงตรงสนธิญาณ ออกอากาศผ่านทางยูทูป   โดย สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม สื่อมวลชนอาวุโส ได้แสดงความคิดเกี่ยวกับทิศทางการเมืองภายหลังเลือกตั้ง ระบุว่า...

ทิศทางการเมืองไทยจะเกิดขึ้นหลังวันที่ 24 มีนาคม 2562 ในการเลือกตั้งครั้งนี้ทุกสายตาจับจ้องไปที่พรรคการเมืองใหญ่ๆ ซึ่งสู้กัน 3-4พรรคการเมือง ว่าพรรคไหนจะได้กี่เสียงใครจะได้รับการจัดตั้งรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ หรือจะเป็นพรรคเพื่อไทย

 

โดยประเด็นที่ตนจะนำเสนอในวันนี้ เป็นเรื่องของพรรคเล็กๆซึ่งในการเลือกตั้งทุกครั้งแทบมีความหมาย  แต่ในครั้งนี้พรรคเล็กจะมีความหมายและอาจจะกลายเป็นตัวแปรทางการเมืองที่สำคัญหลังการเลือกตั้งเป็นไปได้สูง

 

ย้อนกลับไปในการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 มีข้อมูลที่น่าสนใจว่ามีผู้สมัครรับเลือกตั้งทั้งสิ้นในปีนั้น 2422 คนจาก 42 พรรคการเมือง มีผู้สมัครปาร์ตี้ลิสต์1410 คนจากพรรคการเมือง 40 พรรค  ผสมผสานกันไปเพราะเลือกตั้งแยกบัตรเป็นสองใบ แต่ในครั้งนี้มีผู้สมัครรับเลือกตั้งทั้งสิ้น 11,128 คนจาก 80 พรรคการเมืองและผู้สมัครปาร์ตี้ลิสต์อีก 2718 คนจาก 72 พรรคการเมือง

 

อย่าประมาท!! "สนธิญาณ"พรรคเล็กตัวแปรสำคัญ!! หลังเลือกตั้ง..จับมือทักษิณ..สกัดลุงตู่!

 

พรรคการเมืองจำนวนเพิ่มขึ้น 100% จาก 42 พรรคเป็น 80  พรรค  แต่จำนวนผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.แบบเขต จาก 2,422 คนเพิ่มเป็น 11,128 คนเพิ่มขึ้น 450% เป็นตัวเลขที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งเพราะในแต่ละเขตนั้นมีผู้สมัครรับเลือกตั้งไม่ต่ำกว่า 30 คนบรรดาผู้สมัครพรรคเล็กพรรคน้อยเหล่านี้จะเป็นผู้ที่ไปตามเก็บคะแนนเล็กๆน้อยๆเพื่อต้องนำคะแนนที่ได้เมื่อเอาไปรวมกันแล้ว ให้ได้75,000-80,000คะแนน เพื่อให้ได้ส.สปาร์ตี้ลิสต์ 1คน ด้วยระบบการเลือกตั้งส่วนผสมเป็นแบบนี้

 

ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในแต่ละเขตเฉลี่ยประมาณ 150,000 คน ในอดีตเวลาเลือกตั้งผู้ชนะก็จะได้ประมาณ 50,000 - 80,000 คะแนน ขณะที่คู่แข่งก็จะได้ 20,000-30,000 คะแนน  มีผู้มาใช้สิทธิ์ประมาณ70-75% หรือประมาณ 100,000 คน โดยในแต่ละเขตก็จะกัน 2พรรคการเมือง จำนวนมากสุดก็3พรรคการเมือง แต่ในครั้งนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้นโดยแต่ละเขตเหมือนที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่ามีการสมัครถึง 30 คน การต่อสู้กันในพรรคเล็กพรรคน้อยก็ไปเก็บคะแนน500-2,000คะแนน แต่พรรคใหญ่ที่สู้กัน ก็จะสู้กันเขตละประมาณ3-4พรรค ดังนั้นในครั้งก่อนการต่อสู้ไม่สูสีเพราะเวลาพรรคไหนแพ้ ก็ยอมทิ้งเขตนั้นให้พรรคที่ได้คะแนนชนะขาด..ชนะเลือกตั้งไปเลยเก็บงบเอาไว้ดีกว่า แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ทุกเขตสู้กันเต็มที่พรรคใหญ่ 3-4พรรค สู้กันเต็มที่ ขณะที่พรรคเล็กก็เก็บคะแนนสะสมเพื่อที่จะหวังไปรวมแล้วจะได้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์

 

ดังนั้นก็ต้องมาพิจารณาต่อว่าถ้าในครั้งนี้เฉลี่ยยังอยู่ในแบบเดิมผู้ที่มีสิทธิ์ก็คือ 150,000 คนมาใช้สิทธิ์ 75% ก็จะอยู่ประมาณ 112,500 คน. อนุมานว่าพรรคเล็กพรรคน้อยแบ่งออกเป็นประมาณ3ระดับ

 

ระดับแรกได้คะแนนเล็กๆน้อยๆ 700-800คะแนน 10 พรรค ก็จะได้ไป 7,000-8,000คะแนน ระดับที่สองได้คะแนนประมาณ 1,000คะแนน อีก10พรรค  เท่ากับประมาณ 10,000คะแนน ถัดมาระดับที่สาม 1,000-2,500 อีก10 จะเป็นคะแนน 10,000-25,000คะแนน รวมพรรคเล็กพรรคน้อยก็จะมีคะแนนในแต่ละเขต30,000-40,000คะแนนเลยทีเดียว ยังไม่รวมพรรคใหญ่3-4พรรค

อย่าประมาท!! "สนธิญาณ"พรรคเล็กตัวแปรสำคัญ!! หลังเลือกตั้ง..จับมือทักษิณ..สกัดลุงตู่!

 

ดังนั้นในการเลือกตั้งครั้งนี้ผู้ที่จะชนะการเลือกตั้งจะอยู่เพียงแค่ระดับ30,000คะแนนเศษๆ ส่วนที่สองจะอยู่ประมาณ20,000ปลายๆ -30,000 คะแนน ที่สามอยู่ที่20,000ต้นๆ หรือ 20,000กลางๆ แต่ละเขตจะเฉลี่ยออกไปแบบนี้แน่นอน

 

ทำให้พรรคการเมืองเก่าที่เป็นพรรคใหญ่เช่นพรรคเพื่อไทยพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเคยมีคะแนน 14,000,000 คะแนนการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาจะได้รับผลกระทบ โดยผลกระทบแรกมาจากพรรคพลังประชารัฐที่เข้าไปสู้อย่างเต็มที่ใน 350 เขต แต่ผลกระทบจากพรรคเล็กที่เขตหนึ่งมีถึง 30,000- 40,000 คะแนน จะส่งผลให้พรรคเพื่อไทยซึ่งเลือกได้ว่าวางเกมลงไปเล่นในระดับเขต

อย่าประมาท!! "สนธิญาณ"พรรคเล็กตัวแปรสำคัญ!! หลังเลือกตั้ง..จับมือทักษิณ..สกัดลุงตู่!

 

สมมุติว่าพรรคเพื่อไทยได้คะแนนส.ส.เขต 100ที่นั่ง ก็จะได้คะแนนเพียงแค่ 3ล้านเศษๆ ถ้าที่เหลืออีก 150เขต ได้ 20,000 คะแนนก็อีกประมาณ 3,000,000 คะแนน นี่คือถัวเฉลี่ย ที่2,3,4 ดังนั้นจะทำให้พรรคเพื่อไทยจะได้คะแนนประมาณ 5,000,000 คะแนน ประชาธิปัตย์ก็เช่นเดียวกันส่งมากกว่าพรรคเพื่อไทย 100 เขตแต่ปรากฏว่าที่ส่งในอีสานไม่ได้ส่งตัวสู้ เหมือนกับส่งเพียง 250 เขตใกล้เคียงกับพรรคเพื่อไทยอย่างนี้ก็จะได้คะแนนไปที่ประมาณ 5,000,000 คะแนนเช่นกัน

 

ผลกระทบนี้จะทำให้ปาร์ตี้ลิสต์ของเพื่อไทยไม่ได้แน่นอนเพราะคะแนนหรือที่นั่งส.ส.สูง ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์เรียกได้ว่ามีสถานะเป็นลูกผีลูกคนเลยทีเดียว

 

อย่าประมาท!! "สนธิญาณ"พรรคเล็กตัวแปรสำคัญ!! หลังเลือกตั้ง..จับมือทักษิณ..สกัดลุงตู่!

 

ทางกลับกันพรรคเล็กพรรคน้อยที่ตั้งขึ้นใหม่ร่วมกันเขตละประมาณ30,000ถึง 40,000 คะแนน 350 เขตเป็นตัวเลขถึง 10-12ล้านคะแนน เลยทีเดียว ในจำนวนนี้ เท่ากับส.ส.กองอยู่ที่พรรคเล็กประมาณ 120-140คน พรรคเล็กๆ รวมไปถึงพรรคกลางที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ เช่นพรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคอนาคตใหม่ พรรคเสรีรวมไทย  พรรคพลังท้องถิ่นไทย พรรคประชาชนปฏิรูป พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติเป็นต้นก็แบ่งคะแนนมาจำนวนหนึ่งไม่นับรวมพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา คะแนนจำนวน 10,000,000 เศษๆ. หรือที่นั่งส.ส.ประมาณ 120 - 140คนนี้ เป็นตัวแปรอันสำคัญ

 

แน่นอนว่าพรรคอนาคตใหม่ พรรคเสรีรวมไทย ประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ ไม่สนับสนุน พลเอกประยุทธ์แน่ ขณะที่พรรครวมพลังประชาชาติไทย  พรรคประชาชนปฏิรูป สนับสนุนพลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี แต่พรรคที่เหลือเล็กๆน้อยๆ. ซึ่งน่าจะมีเสียงสส.รวมกันแล้ว20-30คนนี้จะสนับสนุนใครก็เป็นอีกหนึ่งตัวแปรเพราะในขณะนี้ สมมุติว่าพรรคเพื่อไทยและเครือข่ายรวมกันแล้วได้ประมาณ ได้ประมาณ180-200เสียง นั่นแสดงว่าอีกฝั่งนึงจะได้300 เสียง คือพลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนา เพื่อแผ่นดินและหมายความว่ารวมถึงพรรคเล็กพรรคน้อย 20-30ที่นั่งนี้ด้วย

 

สิ่งที่ต้องจับตานายทักษิณ ชินวัตรมีประสบการณ์อย่างยิ่งในการกว่าตอนพรรคการเมืองต่างๆมารวมกันหากพรรคเล็กพรรคน้อยนี้ไปอยู่ในมือทักษิณ งานนี้เหนื่อย..ที่พลเอกประยุทธ์จะจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างสะดวกราบรื่นเว้นอย่างเดียวเว้นว่าพรรคพลังประชารัฐได้คะแนนอย่างถล่มทลาย 10,000,000 คะแนนได้ที่นั่ง150-160เสียง ซึ่งนั่นหมายความว่าก็จะไปแบ่งที่นั่งมาจากเครือข่ายของพรรคเพื่อไทย ไปแบบนี้สถานการณ์บ้านเมืองจบลงด้วยดีอย่างแน่นอน สำคัญคำตอบนี้จะมีเฉพาะพรรคพลังประชารัฐและพลเอกประยุทธ์ได้คะแนนจากประชาชนแบบแลนด์สไลด์เท่านั้น

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

"สนธิญาณ"ล่อนจ้อน"หญิงหน่อย-ปาร์ตี้ลิสต์เพื่อไทย" ตกยกพรรค เหมือนผึ้งแตกรังบทอวสานของ"ทักษิณ"?

"เพื่อไทย" พรรคขี้โกง? "สนธิญาณ" วาน"หญิงหน่อย"อยากช่วยชาติจริง!ทวงเงินยิ่งลักษณ์ มาคืนประชาชนด้วย!!

"สนธิญาณ"ลอกคราบ "หญิงหน่อย"หั่นงบกองทัพสองหมื่นล้าน แค่จิ๊บๆ ทวงเงินโกงข้าว"ยิ่งลักษณ์" นายกฯ"เพื่อไทย" ก่อนดีกว่า

"สนธิญาณ"ฟันธง!! "ทักษิณ"หลอก "หญิงหน่อย"เพื่อไทยหลอกประชาชน...คนไทยเชื่อไหม ?

"สนธิญาณ"จัดหนัก “ไทยรักษาชาติ” ยังไม่สำนึก !!- สื่อต่างชาติระบุชัด “ทักษิณ”อยู่เบื้องหลัง?

"สนธิญาณ"ฟันธงยุบ"ไทยรักษาชาติ"เมื่อไหร่ ตายยกแก๊ง หนียกครัว!! "บิ๊กตู่" เป็นนายกฯอีก5 ปี

ทักษิณ ยังกล้าประกาศสู้ต่อ!! "สนธิญาณ"ชำแหละ.. ถึงวันนี้จบแล้วอย่าหวังกลับไทย! ? (คลิป)