ชัยชนะของความพ่ายแพ้ของ "อนาคตใหม่"

บทความพิเศษ ดร.เวทิน ชาติกุล นักวิชาการ

 

ใครๆต่างพูดถึงชัยชนะของพรรคอนาคตใหม่​ แต่ผมขอมองสวนกระแส​ ​ว่าผลการเลือกตั้งเที่ยวนี้ที่ออกมานั้น​ พรรคอนาคตใหม่พ่ายแพ้อย่างยับเยิน! ซึ่งจะหาว่าผมบ้าก็ได้​ เพราะคะแนนของพรรคอนาคตใหม่ที่ได้มานั้นล้วนมองตรงกันว่า​ เกินความคาดหมาย​ 80​ ที่นั่ง​สำหรับพรรคใหม่​ มีอุดมการณ์​ คนรุ่นใหม่​ ถือว่าเป็นการเปิดตัวที่งดงาม​ และเป็นชัยชนะ​

 

แต่อย่างไร​ ชัยชนะที่ได้มานั้นแท้จริงคือความพ่ายแพ้​ยับเยิน​ อาจยิ่งเสียกว่าพรรคประชาธิปัตย์​ สิ่งที่เห็นไม่ใช่สิ่งที่เป็นเสมอไป​  ... ทำไมผมถึงบอกว่าพรรคอนาคตใหม่แพ้? จริงๆไม่ใช่ผมหรอกที่บอก ไปดูสีหน้าสีตาแกนนำพรรค​ โฆษกพรรค​ เมื่อคืนถึงตอนนี้​ แล้วดูว่านั่นเป็นสายตาของคนชนะหรือคนแพ้?

 

 

เป็นผม​ ถ้าผมเชียร์อนาคตใหม่​ แค่ได้​ ส.ส.เข้าสภาไปแค่​ 10​-20​ คน​ ผมก็ต้องร้องดังๆว่า​ "เสร็จกู" ประกาศชัยชนะ​ เพราะสามารถเข้าไปใช้รัฐสภาสร้างพื้นที่เคลื่อนไหวในอุดมการณ์ที่เป็นอันตรายของตนเองได้แล้ว​ นี่ได้มามากกว่านั้น​ 8​ เท่า​ ไหนละการประกาศชัยชนะ​ ตีปี๊บส่งเสียงเชียร์​ โห่ร้องดีใจ​ ไม่เห็น​ เห็นแต่ไปรุมด่าคนรุ่นเก่าที่เลือกลุง​ รุมด่ากกต.​ แล้วก็ออกมาปั่นกระแสวาทกรรมวาท​โกงกันต่อ​

 

นั่นไม่ใช่เพราะ​ "อนาคตใหม่ชนะ​ แต่ประชาชนยังแพ้" ตามที่โฆษกพรรคออกมาโพสต์ปลอบประโลมตัวเองและสาวกหรอก? ไม่ใช่เพราะจับขั้วตั้งรัฐบาลไม่ได้หรอก? เพราะจริงๆก็คือ​ พรรคอนาคตใหม่คิดว่าตนเองจะชนะและเป็นชัยชนะแบบ​ "แลนด์สไลด์" อย่างที่ทักษิณเคยทำได้​ตอนนำพรรคไทยรักไทยลงสู้ศึกครั้งแรก

 

พรรคอนาคตใหม่น่าจะคิดว่าตนเองชนะแบบถล่มทลายครับ​(ซึ่งผมก็อยากให้ผลมันออกมาเป็นแบบนั้นนะ​ ถ้าส่วนใหญ่เลือกแบบนั้น​ จะได้ปิดเฟสถาวร​ กลับบ้านไปนอน​ ประเทศจะเป็นอะไรก็ปล่อยวางไปตามกรรม)​ แต่เมื่อเห็นคะแนนเสียงอีกฝากของคนที่อยู่ตรงข้ามตน​ก็ถึงกับช็อค​ ตกตะลึง​ อึ้งกิมกี่​ ถึงขนาด​ เซเลปพรรคอย่าง​

ผกก.เต๋ว-นวพล​ ต้องออกมาโพสปลอบใจ​ ประมาณ​ Infinity​ War​ ยังไม่จบ​ จงมีความหวังและเข้มแข็ง​ไว้นะ(เหล่าสาวก)​ เพราะศึกกับยักษ์มันม่วงยังอีกยาวไกล​ ตรงนี้แหละที่ทำให้ตั้งแต่แกนนำลงมาถึงแกนตามของพรรคเสียself และประกาศชัยชนะไม่ออกทั้งๆที่ได้คะแนนส.ส.มาแบบเกินความคาดหมาย

 

 

พรรคอนาคตใหม่มั่นใจมากว่าตนจะชนะแบบ​ "landslide" ไม่ใช่เรื่องมโนเพราะพรรคคนรุ่นใหม่อย่างอนาคตใหม่ใช้เทคโนโลยีครบเครื่องกว่าพรรคอื่น​ ผลของ​ Google​ Search​ วิเคราะห์ด้วย​ Big​ Data, ผลประมวลตัวเลขของโซเซียลมีเดียต่างๆนั้น​ มันบอกว่าพรรคอนาคตใหม่จะชนะขาด และว่ากันว่าผลที่ว่ามานี้ไม่เคยผิดพลาดในที่อื่นๆ​ มาดูกันสัก​ 2-3​ ตัวอย่าง

 

-ค่าประสิทธิผลของ​ Google​ Search​ คะแนนการค้นหา​ "ธนาธร" กับ​ "General​ ประยุทธ์" เปลี่ยนจาก​ 12​ ต่อ​ 8​ เป็น​ 30​ ต่อ​ 10​ ภายใน​ 30​ วัน​ (เดือน.พ.)​ (1)

-ผลการค้นหา​ Google​ Search​ รายจังหวัดใน​ 1​ เดือน​ บ่งชี้ว่า​ "ฝ่ายประชาธิปไตย" จะชนะแบบ​ "landslide" คือ​ ชยะขาด​ (2)

-ในกรุงเทพ​ ธนาธร​ ครองยอด​ Search​ ไปถึง​ 60% (3)

 

ซึ่งประเมินว่าคะแนนของพรรคอนาคตใหม่จะได้มากกว่าที่คาดการณ์กันเอาไว้มาก​ และอาจได้เป็น​ "แกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล" ตัวธนาธรจะได้เป็นนายกฯจากเสียง​ ส.ส.ที่มากจนไม่ต้องง้อคะแนน​ 250​ ส.ว.แต่อย่างใด​ (4) (ตามรูป)​

 

ขณะที่ตัวเลขโค้งสุดท้ายขณะปราศัยใหญ่ของทุกพรรค​ (จากเฟสบุคของคุณปานเทพ​ พัวพงษ์พันธ์ (5))​ ระบุ​ ยอดสะสม 3 ชั่วโมง เฟสบุ๊ค ไลฟ์ แชร์ สอดคล้องกูเกิล เทรนด์ 4 ชั่วโมงหลังเริ่มการปราศรัยสูงสุดตามลำดับ

 

1. พรรคอนาคตใหม่ มียอดผู้ชม 874,000 วิว ยอดไลค์ 51,700 ครั้ง

2. พรรคเพื่อไทย มียอดผู้ชมสะสม 400,000 วิว (45% ของพรรคอนาคตใหม่) ยอดไลค์ 26,900 ครั้ง (52% ของพรรคอนาคตใหม่)

3. พรรคพลังประชารัฐ มียอดผู้ชมสะสม 384,000 วิวิ (44% ของพรรคอนาคตใหม่) ยอดไลค์ 23,900 ครั้ง (46.22% ของพรรคอนาคตใหม่)

4. พรรคประชาธิปัตย์ มียอดผู้ชมสะสม 145,000 วิว (16.5% ของพรรคอนาคตใหม่) ยอดไลค์ 8,500 ครั้ง (16.4% ของพรรคอนาคตใหม่)

 

ส่วนตัวเลขการแชร์นั้นปรากฏว่า​

 

1. พรรคอนาคตใหม่ มียอดแชร์ 31,741 ครั้ง

2. พรรคเพื่อไทย มียอดแชร์ 8,740 ครั้ง (27.53% ของพรรคอนาคตใหม่)

3. พรรคพลังประชารัฐ มียอดแชร์ 4,617 ครั้ง (12.2% ของพรรคอนาคตใหม่)

4. พรรคประชาธิปัตย์ มียอดแชร์ 2,678 ครั้ง (8.43% ของพรรคอนาคตใหม่)

 

 

นี่คือสิ่งที่ธนาธร​ และอนาคตใหม่​ มั่นใจ​ เพราะเขาไม่ได้นึกขึ้นมาลอยๆ​ หรือทำโพลสุ่มๆ​ แต่เป็นการวิเคราะห์ระดับ​ Big​ Data จาก​ Google​ Facebook​ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดด้านข้อมูล​ ด้านปัญญาประดิษฐ์​ ซึ่งผมเองเมื่อได้อ่านแล้วก็นึกหวั่นๆ​แต่ใจหนึ่งก็ไม่ประมาทในความเป็นไปได้​ เพราะทั้งกรณีของ​ ทรัมป์ กรณี​ brexit AI​ ก็เล่นเอานักวิเคราะห์หน้าแหกทั้งโลกมาทีหนึ่งแล้ว

 

พรรคอนาคตใหม่จึงหวังว่าจะเกิด​ “landslide” ในวันที่​ 24​ มีนาคม​ 2562​ แน่ๆ​ ซึ่งผลก็ออกมาอย่างที่เห็นๆกันซึ่งตอนนี้ยังอีรุงตุงนังกับผลงานการนับผลของ​ กกต.กันอยู่​ และถ้าถือตามนั้นก็จะเข้าใจได้ว่าทำไม​ พรรคอนาคตใหม่​ถึงชนะแบบเหนือความคาดหมาย​ได้เกือบ​ 80​ ที่นั่ง​ แต่ไม่ตีปี๊บโห่ร้องประกาศชัยชนะ

 

 

Google​ Big​ Data​ ถูกแต่​ ถูกไม่ถึงที่สุด!  ... เพราะถ้าลงรายละเอียดจะพบว่า​ อนาคตใหม่มาแรงจริง​ แต่คะแนนที่อนาคตใหม่ได้มานั้นไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย​และ​ First​ Voter​s​ ก็ไม่ได้ช่วยให้พรรคอนาคตใหม่ชนะได้อย่างเหนือความคาดหมาย​

 

เพราะ​ อนาคตใหม่​ได้คะแนนทั้งหมดคือประมาณ​ 5.8 ล้านคะแนน​ ใกล้เคียงกับ​สัดส่วนจำนวนของผู้มีสิทธิที่มีอายุระหว่าง​ 18-25​ ปี​ (คิดที่​ 75​%)​ คือ​ 5.5 ล้านคน​ ซึ่งจะทำให้มีจำนวน​ ส.ส.พึงได้อยู๋ที่​ 71 คนโดยประมาณ​ แต่การคิดแบบนี้หยาบเกินไป​ เพราะ​คะแนนของ​ First​ Voters​ ทุกคนคงไม่ไปที่อนาคตใหม่หมดอย่างแน่นอน

 

ผมเคยเขียนเอาไว้แล้ว​ (6) ย้อนไปดูสังศิตโพล​ ฐานเสียงเดิมของอนาคตใหม่ที่มาจาก​ First.Voters นั้นมีอยู่​ที่​ 3​ ล้านเสียง​ (จะได้​ ส.ส.ปาร์ตี้ลีสต์​ 40​ คน​ ไม่ได้​ ส.ส.เขตเลย​หรือได้สักคนหรือสองคน)​ ประเด็นคือ​ อีก​เกือบ​ 2.8 ล้านเสียง​ กับ​ ส.ส.เขตอีก​ 20​-30 คน​ มาขากไหน?

 

จำนวนนี้ไม่ได้มาจาก​ First​ Voters​ แต่มาจาก

1.​ มาจาก​ ฐานคะแนนของ​ ทษช.ที่ถูกยุบไป​ที่เทคะแนนมาให้

2.​ มาจาก​ คะแนน​ “ส้มหล่น” เสียงของคนที่ไม่ชอบนายกฯประยุทธ์​ แต่ก็ไม่ปรารถนาจะเลือกคุณอภิสิทธิ์​ เพราะความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากตัวคุณอภิสิทธิ์เอง​

3.​ มาจาก​ ฐานคะแนนของพรรคอนาคตใหม่​ นอกกลุ่มอายุ​ 18-26​ ที่ก็มีอยู่จำนวนที่มากพอสมควร

 

ย้ำว่า​ ทั้งหมดทำให้​พรรคอนาคตใหม่ได้คะแนนพลิกโผ​ ได้​ คะแนนเกินกว่าที่โพลคาดหมายไว้ไปกว่าเท่าตัว​ แต่ไม่พอที่จะทำให้เกิดชัยชนะแบบพลิกฟ้า​ คว่ำแผ่นดินได้อย่างที่​ AI ของกูเกิลประเมิน​ นั่นไม่นับคะแนนอีกร่วม​ 7.8 ล้านของพลังประชารัฐที่ได้ออกมามากเกินความคาดหมายของพรรคอนาคตใหม่เหมือนกัน

 

ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกันคือ​ อนาคตใหม่​ จะชนะขาด และเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล​กับฝ่ายประชาธิปไตย​ โดยธนาธรมีโอกาสเป็นนายกฯ ผมถึงบอกว่า​ พรรคอนาคตใหม่ชนะบนความพ่ายแพ้อย่างยับเยิน

 

80​ เสียงนี่อาจเป็น​ที่สุด​ เต็มที่​ที่พรรคอนาคตใหม่ทำได้แล้ว​ และต่อไปคงยากที่จะทำคะแนนได้มากเท่านี้​ (อย่างน้อยก็อีก​ 10​ ปีกว่าคนที่เป็น​ First​ Voters​ ตอนนี้จะกลายเป็นกลุ่มคนวัยกลางคนที่เป็นกลุ่มฐานคะแนนเสียงกลุ่มใหญ่)​ นั่นเพราะเป็นที่ยุทธศาสตร์และยุทธวิธีของพรรคอนาคตใหม่นั้นเป็นสิ่งที่ผิดพลาดและจะย้อนมาทำลายตัวเองต่อไปในอนาคต​ ซึ่งไว้วันหลังจะมาเล่าให้ฟัง

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

- "สมชาย" เปิดโปง จากนิติราษฎร์สู่ "อนาคตใหม่จำแลง" กลับกลายเป็นองครักษ์พิทักษ์ปลวก!!!

- First​ Time​ Voter​ กับ​ "อนาคตใหม่"

- อย่าเหิมใจ! เหตุเกิดจาก "มอ.โพล" เผย อนาคตใหม่ ฟาดเรียบภาคใต้? ตีแผ่ข้อเท็จจริง ท้ายสุดอาจเป็นแค่ฝัน?

- มุขเดิมๆ น่าเบื่อ!! "เพจดัง" ขยี้นัยแฝง แถลงการณ์ "อนาคตใหม่" ออกตัวป้อง "ไทยรักษาชาติ" หลัง โดนยุบ!!