ศรีวราห์ชี้ธนาธร สามารถยื่นคำร้องขอศาลทหาร ให้โอนคดีมาศาลพลเรือนได้ เหมือนคดีเสือดำ แต่ขึ้นอยู่การพิจารณาว่าจะได้หรือไม่

จากกรณีที่วันนี้(9เม.ย.) พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่กำกับดูแลสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ระบุ ยังไม่ได้รับการสั่งการ ทั้งทางวาจาและลายลักษณ์อักษรจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้มาทำหน้าที่สืบสวนคดีใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการโยกย้าย พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พร้อมปฏิเสธที่จะให้ความเห็นถึงสาเหตุการโยกย้ายครั้งนี้ เนื่องจาก เป็นอำนาจโดยตรงของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่หากได้รับมอบหมายให้สอบสวนข้อเท็จจริง ก็จะยืนยันว่า จะพิจารณาไปตามหน้าที่และพยานหลักฐาน

 

ทั้งนี้พลตำรวจเอกศรีวราห์ ยังปฏิเสธว่า ไม่ทราบเหตุผลของการเลื่อนประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ส่วนที่มีชื่อ พลตำรวจโทสมบัติ มิลินทจินดา จเรตำรวจ สบ.8 และ พลตำรวจโทสัญชัย สุนทรบุระ ผู้บัญชาสำนักงานเทคโนโลยีและสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 35 เพื่อนร่วมรุ่นพลตำรวจเอกศรีวราห์ เป็นแคนดิเดตในตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแทนนั้น พลตำรวจเอกศรีวราห์ ระบุว่า เป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชาในการพิจารณา แต่มองว่า ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งแทน ไม่จำเป็นต้องเป็นลูกหม้อของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

 

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่

 

 

 

นอกจากนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังเปิดเผยถึงการดำเนินคดีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกดำเนินคดีฐานยุยงปลุกปั่นให้เกิดความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ตามมาตรา 116 / ช่วยเหลือผู้ต้องหาหลบหนี ตามมาตรา 189 และชุมนุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามมาตรา 215

 

ศรีวราห์ชี้ธนาธร ยื่นขอศาลทหารโอนคดีมาศาลพลเรือนได้ เหมือนคดีเสือดำ

 

“ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และหากพบประเด็นต้องสงสัยก็จะออกหมายเรียกให้มาสอบสวน เนื่องจากพบว่า คดีมีผู้เกี่ยวข้อง 15 คน แต่บางคนได้ออกหมายเรียก และส่งทนายความมาชี้แจงไปแล้ว ส่วนกรณีที่ตั้งข้อสงสัยเหตุที่ต้องดำเนินคดีนี้ในชั้นศาลทหารนั้น เนื่องจากเป็นคดีความมั่นคงที่เกิดขึ้นระหว่างประกาศของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่มีการระบุไว้ชัดเจน แต่ขณะนี้ได้ยกเลิกคำสั่งไปแล้ว ซึ่งนายธนาธรสามารถยื่นคำร้องต่อศาลทหารให้โอนคดีมาพิจารณาที่ศาลพลเรือนได้ เช่นเดียวกับคดีเสือดำ ที่มีการยื่นคำร้องให้พิจารณาในศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง  แต่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลทหารว่าจะสามารถโอนคดีไปได้หรือไม่”

 

อย่างไรก็ตาม พลตำรวจเอก ยังกล่าวถึงกรณีวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่จากสถานทูต และองค์กรระหว่างประเทศมาร่วมสังเกตการณ์ที่สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ว่า สามารถทำได้และได้ชี้แจงข้อสงสัยกับเจ้าหน้าที่จากสถานทูตต่าง ๆ ไปทั้งหมดแล้ว

 

ศรีวราห์ชี้ธนาธร ยื่นขอศาลทหารโอนคดีมาศาลพลเรือนได้ เหมือนคดีเสือดำ

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

-ตำรวจส่งธนาธรขึ้นศาลทหาร โดนแจ้งข้อหาเพิ่ม! เจ้าตัวยอมรับอยู่ในพื้นที่จริง
-"ศรีวราห์" ขู่ หลังนับคะแนนลต. แล้วมีประท้วง เจอดีแน่!
-พล.ต.อ.ศรีวราห์ สั่งห้ามอมงบประมาณ ใช้ให้หมด อย่าให้ได้ยินมาถึงหู