สุวินัย แฉหมดเปลือกธนาธร ประกาศต้องการมีอำนาจมากพอที่จะต่อรองกับ xxxx ในหนังสือportrait ธนาธร

สุวินัย แฉหมดเปลือกธนาธร ประกาศต้องการมีอำนาจมากพอที่จะต่อรองกับ xxxx ในหนังสือportrait ธนาธร

บทความพิเศษ ดร. สุวินัย ภรณวลัย

 

วันที่ 11 เมษายน บนเฟซบุ๊ก Suvinai Pornavalai ซึ่งเป็นของ 'ดร. สุวินัย ภรณวลัย' อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  ได้โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ 'นาย ธนาธร จึงรุ่งเรื่องกิจ' หัวหน้า'พรรคอนาคตใหม่' ไว้ดังนี้

 "โดยส่วนตัวผมรู้จักคุณวรพจน์ พันธุ์พงศ์ คนสัมภาษณ์ธนาธรในหนังสือ " Portrait ธนาธร" มานานร่วมยี่สิบปี(ในฐานะที่ผมเคยถูกเขาสัมภาษณ์ไม่ต่ำกว่าสองครั้งในอดีต) เขาเป็นนักสัมภาษณ์มืออาชีพและมือหนึ่งระดับต้นๆที่หาคนทัดเทียมยากมากแม้ในยุคนี้

 

ผลงานหนังสือ " Portrait ธนาธร" (ตุลาคม 2018) คือเครื่องพิสูจน์อย่างดี เขาสัมภาษณ์ได้ดียิ่ง และธนาธรก็เต็มใจเปิดเผยความคิดของเขาแทบทุกเรื่องที่โดนซักถาม นี่เป็นหนังสือสัมภาษณ์ที่เร้าใจที่สุดเล่มหนึ่งที่ผมเคยอ่านมา

 

สุวินัย แฉหมดเปลือกธนาธร ประกาศต้องการมีอำนาจมากพอที่จะต่อรองกับ xxxx ในหนังสือportrait ธนาธร

ผมมีหนังสือเล่มนี้หลายเดือนแล้ว ก่อนทราบผลเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม 2562 ผมจงใจไม่อ่านมัน แต่เลือกอ่านหนังสือเล่มนี้ ในวันที่ธนาธรกำลังจะเจอบททดสอบของจริง ซึ่งเจ้าตัวก็รู้ดีว่าวันนั้นต้องมาถึงอย่างแน่นอน แต่ธนาธรคงคิดไม่ถึงว่ามันจะมาเร็วขนาดนี้  ธนาธรเป็นคนที่ชัดเจนมากในความคิดของตัวเอง เขาบอกว่า "ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่ใช่เป้าหมายสูงสุด เป้าหมายสูงสุดคือการเปลี่ยนประเทศ" (หน้า 270)

 

ธนาธรตระหนักดีว่า สิ่งที่เขาพูด เขาทำ มีคนฟัง มีคนเอาด้วย เห็นด้วยกับเขา (หน้า 272) ธนาธรมองว่า คุณสมบัติสำคัญของผู้นำประเทศ คือต้องมีเจตจำนงทางการเมืองเป็นหลัก เมืองไทยมีคนเก่งกว่าเขาเยอะแยะไปหมด แต่มีตัวเขาคนเดียวเท่านั้นที่มีเจตจำนงทางการเมืองที่ต้องการ "ให้ไทยออกจากวังวนของเผด็จการ วังวนของอำนาจนิยมที่รับใช้ชนชั้นนำให้ได้" (หน้า 273)

 

นาย ธนาธร จึงรุ่งเรื่องกิจ

 

เจตจำนงทางการเมืองของธนาธรในวัยสี่สิบตอนนี้ มีความห้าวและอหังการในระดับเดียวกับเสกสรรค์ ประเสริฐกุลอดีตผู้นำนักศึกษาในวัยก่อนสามสิบหรือในช่วงระหว่างปี 2516-2523 ก็เห็นจะไม่ผิดนัก


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง  -"อ.สุวินัย​" ชำแหละ"อนาคตใหม่" หากขาด"ธนาธร-ปิยบุตร"เป็น​ "มังกรไร้หัว" อาจจบเร็วกว่าที่คิด

ธนาธรไม่เคยมองว่าตำแหน่งนายกฯ คือ ลิมิตสูงสุดของตัวเขา ... ธนาธรเป็นนักผจญภัย เขาต้องการท้าทายลิมิตสูงสุดของตัวเขาเองในทุกเรื่อง
ในฐานะผู้นำทางการเมือง ธนาธรมุ่งเป้าไปที่การทำให้ตัวเขา "มีอำนาจมากพอที่จะไปต่อรอง (กับ)××××"
(หน้า 277)

เขายอมรับว่าในการเคลื่อนไหวสร้างพรรคหาเสียง เขาพูดความจริงได้แค่ครึ่งเดียว ที่เขาพูดออกไปให้สังคมรับรู้ "ไม่เป็นความจริง มันเป็นความจริงแค่ครึ่งเดีบว เราถึงโดนฝ่ายก้าวหน้าด่า" (หน้า 277)

 

นาย ธนาธร จึงรุ่งเรื่องกิจ

"ถามว่าเรารู้มั้ย รู้ ... เหี้ย มันก็รู้เหมือนกันหมดแหละ ปัญหาคือใครจะทำยังไง   เราคิดว่า วิธีการของเราคือต้องมีอำนาจและต่อรอง (กับ)××××   นี่ต่างหากคือเป้าหมาย ถ้าจัดการเรื่องนี้ไม่ได้ เอาทหารออกจากการเมืองไม่ได้หรอก  จัดการเรื่องนี้ไม่ได้ จัดการเรื่องศาลไม่ได้หรอก  จัดการเหี้ยห่าอะไรไม่ได้


ถามว่าเรารู้มั้ย สิ่งที่เราพูดโดยไม่พูดเรื่องนี้ มะนไม่จริง มันเป็นไปไม่ได้  ถามว่ารู้มั้ย รู้ แต่มันพูดไม่ได้ ยังมีข้อจำกัด " (หน้า 277  ตรงนี้แหละ คือ ความจริงอย่างที่สุดในความคิดและตัวตนของธนาธร เพราะเขาคือนักปฏิวัติที่มีเจตจำนงแรงกล้าที่ต้องการสานต่อภารกิจการปฏิวัติ 2475ให้สมบูรณ์

 

จึงไม่แปลกที่เมื่อธนาธรเป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ปิยบุตรจึงต้องเป็นเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่เพราะมีอุดมการณ์ปฏิวัติ 2475 เหมือนกัน  ธนาธรคือผู้นำทางการเมืองคนเดียวในประทศนี้ตอนนี้ ที่ขีดเส้นแบ่งชัดเจนให้ประชาชนต้องตัดสินใจเลือกข้างว่าจะเลือกอยู่ฝั่งเดียวกับเขาแล้วช่วยกันผลักดันการปฏิวัติ 2475 ให้สำเร็จต่อไปหรือไม่ ... 

 

สุวินัย แฉหมดเปลือกธนาธร ประกาศต้องการมีอำนาจมากพอที่จะต่อรองกับ xxxx ในหนังสือportrait ธนาธร
 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-ดร.สุวินัย ให้ปิยบุตร ออกมาเคลียร์6ปมคาใจสังคม ถามคนเลือกรู้ไหมเขาคิดแบบนี้???
-"สุวินัย" เตือน "การปฏิวัติเงียบ" กับ "สัญญาณเตรียมลุกฮือของคนแดนไกล" !