ปิยบุตรประชดให้ศาลรธน.จัดลต. บอกอะไรถึงที่สุดหมดจะกลายเป็นซูเปอร์รธน.

ปิยบุตรประชดให้ศาลรัฐธรรมนูญจัดเลือกตั้ง บอกอะไรถึงที่สุดหมดจะกลายเป็นซูเปอร์รัฐธรรมนูญจะมีกกต.ไว้ทำไม

จากกรณีวันนี้(20 เม.ย.) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ได้กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสูตรการคิดจำนวนส.ส.แบบปาร์ตี้ลิสต์ว่า รัฐธรรมนูญที่ออกแบบให้ทุกองค์กรมีอำนาจใช้และตีความรัฐธรรมนูญด้วยกันทั้งหมด การใช้และตีความไม่ได้ผูกขาดอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ การใช้และตีความมาตรานี้อยู่ในอำนาจของกกต. ดังนั้นกกต.ต้องบอกเอง ตัดสินใจเองว่า คำนวณแล้วจะได้กี่คะแนนกี่ที่นั่ง ศาลรัฐธรรมนูญไม่ใช่ที่ปรึกษาขององค์กรไหน ต้องมีข้อพิพาทเกิดขึ้นก่อน กรณีนี้ส่งไปถาม ข้อแรกจึงเห็นว่าอันนี้ผิด

 

“ถ้าทำแบบนี้กันต่อไป ศาลรัฐธรรมนูญจะกลายเป็นซูเปอร์รัฐธรรมนูญโดยตัวเอง เพราะจะเป็นคนบอกว่า รัฐธรรมนูญแต่ละข้อหมายความว่าอะไร ทุกองค์กรสงสัยอะไรก็ถามศาลรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญบอกอะไรก็ถึงที่สุดหมด จะกลายเป็นซูเปอร์รัฐธรรมนูญผู้ผูกขาดการตีความรัฐธรรมนูญทั้งหมด ซึ่งผิดระบบ สภาจะใช้รัฐธรรมนูญ ก็ต้องตีความเองใช้เอง กกต.จะใช้มาตรนี้ก็ต้องตีความเองใช้เอง รัฐบาลจะใช้ก็ตีความเองใช้เอง ไม่ใช่ทุกๆเรื่องบอกไม่รู้ ถามศาล แบบนี้ก็เท่ากับว่าศาลรัฐธรรมนูญใหญ่ที่สุดในรัฐธรรมนูญ พอชี้แล้วก็เป็นที่สุด ผูกพันทุกองค์กร อันนี้เสียระบบการแบ่งแยกอำนาจมาก”

 

ปิยบุตรประชดให้ศาลรธน.จัดลต. บอกอะไรถึงที่สุดหมดจะกลายเป็นซูเปอร์รธน.

 

 

 

นอกจากนี้ นายปิยบุตร ยังกล่าวอีกว่า ข้อสองมาตรานี้ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย หากอ่านตามรัฐธรรมนูญจะพบว่า มาตรานี้เขียนชัดแล้ว กฎหมายประกอบก็เขียนชัด ใครจะบอกมีสูตรไหนอีก ตนยืนยันมันไม่มีสูตรอื่น คำนวณแบบนี้ก็จบ จึงอยากให้ปิดตาก่อนอย่ามองพรรคไหนได้เท่าไร คุณเดินตามวงเล็บก็จะออกมาแบบนี้เลย ถ้วนกันแล้ว 7.1 หมื่นจะมีส.ส. พรรคที่ไม่ถึงก็ตัดออกจากการคำนวณ  ปัญหาคือมันต้องเกิดก่อน แล้วมีคนไปร้องศาลรัฐธรรมนูญว่าขัดแต่นี่เล่นไปถาม กกต.ที่มีอำนาจคุมการเลือกตั้งยังไม่วินิจฉัยเลย ต้องวินิจฉัยก่อนจะเอาแบบไหน ถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่รู้จะมีกกต.ไปทำไม ก็ให้ศาลรัฐธรรมนูญจัดการเลือกตั้ง

 

ปิยบุตรประชดให้ศาลรธน.จัดลต. บอกอะไรถึงที่สุดหมดจะกลายเป็นซูเปอร์รธน.

 

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ นายปิยบุตร พร้อมทนายความได้เข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามอาชญารรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. ตามหมายเรียก เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ภายหลังถูกฝ่ายกฎหมายของ คสช. ร้องทุกข์กล่าวโทษ ให้ดำเนินคดี 2 ข้อหา คือ ข้อหาดูหมิ่นศาล กรณีพิจารณาพิพากษายุบพรรคไทยรักษาชาติ เมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา และข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยนายปิยบุตร เปิดเผยด้วยว่าการสอบปากคำไม่รู้สึกกังวลใจที่ถูกแจ้งข้อหาดำเนินคดี เพราะที่ผ่านมาตัวเองยอมรับว่าได้วิจารณ์ทางการเมืองมาตลอด ยืนยันไม่มีถ้อยคำที่ทำให้มีลักษณะดูหมิ่น มั่นใจกระบวนการยุติธรรม

 

ปิยบุตรประชดให้ศาลรธน.จัดลต. บอกอะไรถึงที่สุดหมดจะกลายเป็นซูเปอร์รธน.

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-นครพลอดปาก!หากไม่ตายพร้อมทอดร่างเป็นทรายปูทางให้ปิยบุตร
-19อนค.สมัครจิตอาสางานพระราชพิธี ไร้เงาธนาธร ปิยบุตร
-"ปิยบุตร" หน้าระรื่น พิมพ์ลายนิ้วมือรับทราบข้อหา พร้อมพฤติกรรมประหลาด ปลุกปั่นโซเชียล ชวนติดแฮชแท็ก SavePiyabutr ?