- 27 เม.ย. 2562
อย่ามองแค่ด้านเดียว!! "นักวิชาการ" ชี้ แจกเงิน 1,500 เที่ยวเมืองรอง ไม่เสียเปล่า เป็นการกระจายความเจริญสู่ท้องถิ่นในระยะยาว!!
วันที่ 27 เมษายน บนเฟซบุ๊ก Kittitouch Chaiprasith ซึ่งเป็นของ ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ อาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้านปรัชญาการเมือง ได้โพสต์ข้อความไว้อย่างน่าสนใจ โดยมีเนื้อหาดังนี้
ทำไมต้องส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง
และการให้เงินผ่านระบบจะช่วยได้จริงหรือ?
และเงินที่สนับสนุน 1,500 บาทจะไม่เสียเปล่า?
-----------------------
ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นประเด็นร้อนแรงอันหนึ่ง ที่หลายคนยังเคลือบแคลงสงสัยว่าภาครัฐทำแคมเปญนี้ เหมาะสมหรือไม่ และเป็นการแจกเงินให้เปล่าทิ้งน้ำโดยไม่มีการพัฒนาอะไรหรือไม่ ซึ่งเราคงต้องมาทำความเข้าใจกันให้ถูกต้องเกี่ยวกันในภาพใหญ่กันก่อน โดยผมแบ่งหัวข้อในโพสท์นี้ไว้ทั้งหมด 7 หัวข้อดังนี้
1. รู้จักกับเมืองรอง
2. ทำไมต้องทำโครงการนี้
3. วัตถุประสงค์ของโครงการ
4. รูปแบบในการดำเนินโครงการ
5. วิสัยทัศน์ของการกระจายความเจริญ
6. ยุทธศาสตร์ในการกระจายความเจริญ
7. การพัฒนาจากบนลงล่างและล่างขึ้นบน
1. รู้จักกับ [เมืองรอง]
-------------------------
#เมืองรอง คือ จังหวัดหรือเขตอำเภอที่ไม่ได้เป็นแหล่งท่องเที่ยว หรือ เมืองใหญ่ ซึ่งมีทั้งหมด 55 จังหวัดด้วยกัน เมืองรองเหล่านี้เป็นเพียงทางผ่านสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะไปแหล่งท่องเที่ยวในเมืองใหญ่ หรือในจุดสำคัญเช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต หัวหิน แต่ระหว่างทางมักจะถูกละเลยไป ทั้งที่ทรัพยากรทางธรรมชาติของเมืองรองเหล่านั้น ไม่แพ้เมืองใหญ่ แต่คนไม่ไปเพราะขาดการกระตุ้น และการจัดการที่เหมาะสม
-------------------------
2. ทำไม่ต้องทำโครงการนี้?
-------------------------
การท่องเที่ยวเมืองรองเพื่อกระจายความเจริญลงสู่ท้องถิ่นนั้น เป็นนโยบายใหญ่ของภาครัฐในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
- ในปาฐกถาของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาของรัฐบาล พูดไว้ชัดเจนตั้งแต่ปี 2017 และ 2018 แล้วว่าสิ่งสำคัญที่ต้องเร่งทำ
เพื่อให้เกิดการพัฒนาส่วนภูมิภาคก็คือ การจัดกลุ่มระเบียงเศรษฐกิจในภาคต่างๆ รวมไปถึงการพัฒนาเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและชุมชน เพื่อให้รายได้กระจายลงไปสู่ท้องถิ่น และให้ชุมชน รวมถึงเกษตรกรรู้จักจัดการตนเอง สร้างเอกลักษณ์ สินค้าของท้องถิ่นให้เข้มแข็ง และต่อไปก็จะได้ส่งออกสินค้าไปขายทั่วโลกได้ ด้วยระบบออนไลน์ในอนาคต https://www.youtube.com/watch?v=HeirActRAY4&fbclid
ทำให้ภาครัฐมีนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองรองมาตลอดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเราลองไปดูข่าวเก่าๆ กันครับ
- ททท.อัดแคมเปญบูมเมืองรอง ตั้งเป้ากระจายรายได้ 3.5 แสนล้านสู่ชุมชน https://www.prachachat.net/tourism/news-97351
- รองนายกฯ สมคิดเร่ง ก.ท่องเที่ยวฯ-ททท.กำหนดโครงการส่งเสริมท่องเที่ยวปี”62 เน้นย้ำยกระดับเศรษฐกิจฐานราก-กระจายรายได้เมืองรองและชุมชนมากยิ่งขึ้น
โดยใน 6 เดือนแรกของปี 2561 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เผยจัวเลขว่า 55 เมืองรองสร้างรายได้ท่องเที่ยวไปแล้วกว่า 1.1 แสนล้านบาท คิดเป็น 10% ของรายได้ท่องเที่ยวรวม
และเตรียมเร่งสร้างแบรนด์เมืองรองรายจังหวัด หวังสร้างเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่นให้เกิดความชัดเจนต่อไป https://www.prachachat.net/tourism/news-205390
.....................
*** ปีที่ผ่านมาเม็ดเงินกระจายลงไปยังเมืองรองถึง 1.1 แสนล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และในปีนี้ต้องทำให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวไม่ไปกระจุกตัวอยู่แค่จังหวัดใหญ่
*** ความเจริญและการพัฒนาท้องถิ่น ต้องลงไปถึงทุกจังหวัด ทุกภูมิภาค ไม่ใช่เจริญกันแต่เมืองใหญ่อีกต่อไป!!!
--------------------------
3. วัตถุประสงค์ของโครงการ
--------------------------
3.1 เพื่อกระจายความเจริญลงไปสู่จังหวัดที่เป็นเมืองรองต่างๆ ด้วยการกระตุ้นให้เกิดเศรษฐกิจการท่องเที่ยว และ สินค้าชุมชนในเขตเมืองรอง 55 จังหวัด
3.2 เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ห้างร้าน โชห่วยต่างๆ ต้องเข้าสู่ระบบดิจิตัล คือ ทุกอย่างเป็นออนไลน์ รับซื้อ-ขาย ส่งสินค้าออนไลน์ เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยที่เป็น
(ด้วยการรับชำระด้วยระบบเครื่อง EDC หรือรับสแกนผ่าน QR Code และรู้จักใช้ระบบดิจิตัล ระบบออนไลน์ เพื่อเป็นประตูสำคัญการค้าขายและบริการในอนาคต)
3.3 กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในช่วง Low-Season เพื่อให้เม็ดเงินลงไปสู่ธุรกิจการท่องเที่ยว การจับจ่ายใช้สอยของคนในระดับกลางและระดับล่าง
-------------------------
4. รูปแบบการดำเนินงาน
-------------------------
สิ่งที่ต้องเข้าใจกันก่อนสำหรับแคมเปญล่าสุดของกระทรวงการคลังและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยก็คือ
4.1 แคมเปญนี้ไม่ได้มีการแจกเงินสด แต่ใส่เงินไว้ในระบบออนไลน์ผ่านแอพฯ (โดยใช้ระบบเหมือนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คือ ให้เงินในบัตรเพื่อเข้าร้านโชห่วยที่เข้าโครงการร้านธงฟ้าประชารัฐ ซึ่งมีการใช้เครื่อง ECD และเตรียมยกระดับเข้าสู่การค้าออนไลน์)
4.2 ใส่เงินไว้ให้ในแอพริเคชั่นท่องเที่ยว 1,500 บาท เพื่อให้นำไปใช้โดยการจ่าย่ผานระบบออนไลน์ในพื้นที่ "เมืองรอง" ที่กำหนดและสำหรับกิจการที่กำหนดไว้
4.3 สามารถใช้ใบเสร็จการท่องเที่ยวหรือการจัดกิจกรรม การสัมมนาที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ไปลดหย่อนภาษีประจำปีได้ ถ้าใครเสียภาษีของปีนี้แล้ว จะทราบว่าในช่องลดหย่อนมีช่อง [ท่องเที่ยวเมืองรอง] ให้กรอกด้วย คือคุณสามารถนำบิลหรือใบเสร็จจากการท่องเที่ยวในเมืองรองไปลดหย่อนภาษีได้ด้วยนะครับ :)
...........................
*** โดยสามารถตรวจสอบการลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ (10 ล้านราย) การดาวโหลดและวิธีใช้แอพริเคชั่น รวมถึงจังหวัด/เมืองรองที่สามารถใช้งบสนับสนุนเศรษฐกิจท่องเที่ยวเมืองรองทั้ง 55 จังหวัดได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้
https://bit.ly/2GKDJTG
https://bit.ly/2DvLMRV
*** นอกจากนี้ ล่าสุด ดร.สมคิดได้หารือกับผู้ประกอบการสายการบินโลว์คอส เพื่อขอให้เริ่มการลงทุนสายการบินในจังหวัดเมืองรอง ที่เริ่มมีการเติบโตทางการท่องเที่ยว เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีความสะดวกในการเลือกไปจังหวัดต่างๆ ได้มากขึ้นด้วย
5. วิสัยทัศน์ของการพัฒนาในอนาคต
--------------------------
- เนื่องจากคนไทยอยู่ในประเทศมีความอุดมสมบูรณ์ ไม่ร้อนเกิน(มั้ง) ไม่หนาวเกินไป ทำให้เราเป็นคนสบายๆ แต่ซีเรียสเกินไป เราจึงเป็นคนง่ายๆ และมีหัวใจในการบริการที่ดีกว่าอีกหลายชาติ
- ในปาฐกถาของดร.สมคิด ได้ยกตัวอย่างภาคใต้ว่า เกษตรกรภาคใต้รอความหวังแต่การปลูกยางและปาล์ม ซึ่งนับวันความต้องการของตลาดจะลดลงเรื่อยๆ เอาความแน่นอนในตลาดโลกไม่ได้
ทั้งที่ภาคใต้มีหัวใจสำคัญคือ แหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามที่สุดแหล่งหนึ่งของโลก แต่คนไม่เคยสนใจ การท่องเที่ยวในเมืองรอง เพราะมัวแต่ไปกระจุกกันในเมืองใหญ่
- ต่อไปนี้ต้องเปลี่ยนใหม่ สินค้าเกษตรต้องนำไปแปรรูปให้เป็นสินค้าสมัยใหม่ และต้องรู้จักหาตลาดที่จะส่งขาย อย่ามองแค่ง่ายเพียงให้คนมารับซื้อที่สวน แต่เกษตรกรต้องรู้จักพัฒนาด้วยเป็นเกษตรกรมืออาชีพ ที่ทำได้ครบวงจร
- นอกจากอุตสาหกรรม [การเกษตรแปรรูป] เพื่อผลักดันสินค้าเกษตรยุคหน้าแล้ว การท่องเที่ยวจะเป็นหัวใจสำคัญ เพราะประเทศไทยมีทำเลที่ตั้งดี ธรรมชาติสวยงาม ดังนั้นต่อไปทุกแหล่งท่องเที่ยวและจังหวัดต่างๆ จะต้องมี
- จัดตั้งวิสาหกิจชุมชน
- สินค้าชุมชนที่มีเอกลักษณ์
- การท่องเที่ยวในชุมชนเกษตร
- การทำสวนผลไม้เพื่อนำไปแปรรูป
--------------------------
6. ยุทธศาสตร์ของการพัฒนา
--------------------------
6.1 ในอนาคต ภาคอุตสาหกรรมจะใช้ระบบอัตโนมัติ (Automation) ซึ่งทำให้แรงงานในระบบอุตสาหกรรมถุกจ้างน้อยลง (ต่อไปต้องเป็นแรงงานฝีมือเท่านั้นถึงจะอยู่ได้อย่างมีเงินเดือนดี)
6.2 การนำ [สินค้าเกษตร] และ [การจัดการวัฒนธรรมชุมชน] มาผนวกกับ [การท่องเที่ยว] จะเป็นความหวังของการท่องเที่ยวในยุคต่อไป
6.3 การกระจายความเจริญต้องอาศัยโครงการกระตุ้นเขตเศรษฐกิจเป็นส่วนภูมิภาค โดยการจัดความสัมพันธ์ของกลุ่มจังหวัดที่สามารถพึ่งพากันได้ เช่น
- EEC ในภาคตะวันออกที่กำลังดดำเนินโครงการอยู่,
- SEC ในภาคใต้ที่ผ่านการอนุมัติงบไปแล้ว และเริ่มจากลงมือทำงานอยู่ตั้งแต่ต้นปลายปีที่ผ่านมา
- NEC ในภาคเหนือ และ NEEC ในภาคอีสาน ที่จะตามมาในอนาคต
6.4 กลุ่มจังหวัดเหล่านี้จะพัฒนาเป็นแหล่งเศรษฐกิจ แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ไม่ได้เลย หากไม่มีระบบสาธารณูปโภคที่ดีพอ เช่น ถนนไม่ครอบคลุม การขนส่งลำบาก น้ำไม่พอ ไฟฟ้าไม่พอ เป็นต้น
นี่คือสาเหตุที่ภาครัฐในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาเร่งพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น รถไฟทางคู่ รถไฟฟ้าในเมืองใหญ่ตามจังหวัดต่างๆ การเพิ่มสนามบินในทุกจังหวัด
เพราะการพัฒนาจะเกิดไม่ได้หาก ระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานยังไม่รองรับความเจริญที่จะกระจายตัวในส่วนภูมิภาค
6.5 การกระจายความเจริญให้กับภาคส่วนต่างๆ ของสังคม จะเกิดขึ้นไม่ได้หากคนยังกระจุกความสนใจแต่ในเมืองใหญ่ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่เมืองรองคนแทบจะไม่เคยให้ความสนใจ
จึงต้องมีการพัฒนาชุมชนและท้องถิ่นจัดการตนเอง สร้างสินค้าและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวและการรู้จักใช้ระบบนิเวศอย่างยั่งยืนของชุมชน รวมทั้งการสนับสนุนและสร้างแรงจูงใจ ให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และการจัดการชุมชน ด้วยนโยบายของภาครัฐไปพร้อมๆ กัน
--------------------------
7. ต้องทำทั้ง "ล่างขึ้นบน" และ "บนลงล่าง"
--------------------------
การกระจายความเจริญลงสู่ภูมิภาค สู่จังหวัด สู่ท้องถิ่นและชุมชนนั้น ต้องทำพร้อมกันทั้งสองทาง คือ ทั้งจากล่างขึ้นบน และจากบนลงล่าง แล้วมาผสานกันตรงกลาง
#ล่างขึ้นบน
- ที่ผ่านมาภาครัฐมีการสนับสนุนการรวมตัวของวิสาหกิจชุมชน เพื่อให้ชุมชนรู้จักจัดการตนเอง ทั้งในแง่ของการสร้างชุมชนให้มีความยั่งยืน การรู้จักสร้างงานและผลิตสินค้าท้องถิ่น
- รวมไปถึงเรื่องการสร้างวินัยทางการเงิน การทำบัญชีรายรับรายจ่าย ซึ่งปัจจุบันได้มีการอนุมัติโครงการนักบัญชีชุมชน
https://www.thaipost.net/main/detail/15434
http://www.dbd.go.th/ewt_news.php?nid=469411315
https://bit.ly/2ZwZOMR
- รวมถึงโครงกาปรระชารัฐ ที่ทางธนาคารออมสินนำลงไปทำ อย่างโครงกาปรระชารัฐสีชมพู ที่เข้าสู่ปีที่ 4 แล้ว ปีแรกจัดประกวดชุมชนต้นแบบ 10 ชุมชนจากทั่วประเทศ
- ปีที่สองให้ชุมชนต้นแบบลงไปเป็นบัดดี้กับชุมชนอื่นเพื่อให้เกิดเป็น 20 ชุมชนต้นแบบ แล้วกระจายต่อออกไป ปีที่สามคือการประกวดชุมชนจัดการโฮมสเตย์ต้นแบบ
(และออมสินก็จะมีเงินสนับสนุนให้สำหรับชุมชนหรือโฮมสเตย์ต้นแบบที่ผ่านการคัดเลือก รวมถึงชุมชนที่ต่อไปเห็นแล้วว่าในอนาคต การพัฒนาและจัดการชุมชนแบบไหนที่ดี และมีเงินทุนให้) http://www.gsb-pracharat.com/project25…/…/detail.5.1.0.html…
- ยังไม่นับรวมการแก้ไขกฎหมายโฮมเตย์ การยกเว้นภาษีเพื่ออุดหนุนการท่องเที่ยวแบบเชิงนิเวศและผู้ประกอบการท่องเที่ยวรายย่อยซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ช่วงปีที่แล้ว (2561) https://www.thairath.co.th/content/1354831
- ต่อไปชุมชนเหล่านี้จะยืนได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องมารอความช่วยเหลือจากรัฐ พวกเข้าจะเรียนรู้ว่าเขามีดีอะไร มีทรัพยากรอะไรที่น่าสนใจ หรือถ้ายังไม่มีอะไรเด่น จะสร้างจุดขายจากของที่มีอยู่ได้อย่างไร
......................
#บนลงล่าง
- ในเวลาเดียวกันนั้น ภาครัฐก็ต้องมีนโยบายในภาพรวมเพื่อส่งเสริมและกระตุ้นให้เกิดการขับเคลื่อนในภาพใหญ่ไปพร้อมกับชุมชนในท้องถิ่นใยทุกมิติ
- ทั้งการแก้ไขกฎหมายที่ล้าหลังและเป็นอุปสรรคต่อการจัดการชุมชน วิสาหกิจชุมชน การท่องเที่ยวขนาดย่อม เหล่านี้เป็นต้น (ซึ่งที่ผ่านมาก็แก้ไขไปจนเกือบจะหมดแล้ว)
https://www.ryt9.com/s/iq03/2871056
- การช่วยกระตุ้นที่สำคัญคือ การสร้างแรงจูงใจให้กับนักท่องเที่ยว ด้วยมาตรลดหย่อนภาษี ให้ทั้งผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยว และล่าสุดก็คือ โครงการสนับสนุนเงิน 1500 บาทสำหรับการท่องเที่ยวในเมืองรองที่กำลังจะดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน
- นอกจากนี้ยังรวมถึงการสร้างระบบสาธารณูปโภค การตัดถนนใหม่ การสร้างรถไฟทางคู่ การพัฒนาโรงไฟฟ้าและระบบประปาให้รองรับกับความต้องการของเมืองรองที่จะเติบโตขึ้นในอนาคต
---------------------
สุดท้ายเมื่อทำได้เช่นนี้แล้ว ทั้งท้องถิ่นและภาครัฐร่วมมือกัน ทั้งจากบนลงล่าง และ ล่างขึ้นบน การพัฒนาและกระจายความเจริญ ลงไปสู่ท้องถิ่น ผ่านการท่องเที่ยว ก็จะเกิดขื้นได้แน่นอนครับ ^_^
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดวิธีรับเงิน 1,500 บาท เที่ยวเมืองรอง ก่อนพลาดสิทธิ พร้อมจังหวัดที่ไปได้
- "รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา" เปย์หนัก เตรียมแจกปชช.คนละ 1,500 บาท เที่ยวเมืองรองกระตุ้นเศรษฐกิจ!