"กรณ์"พร้อมแล้วนั่งหัวหน้าพรรค ปลุกพลังปชป. ขอเป็นสะพานข้ามความขัดแย้ง

ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวจากทางฝั่งของนายกรณ์ ได้โพสต์เฟซบุคส่วนตัว Korn Chatikavanij  ระบุว่า...เป็นที่ชัดเจนแล้วครับว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะมีการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ในวันที่ 15 พฤษภาคม และครั้งนี้มีผู้ลงสมัครทั้งหมด 4 คนด้วยกัน นั่นคือคุณจุรินทร์ คุณอภิรักษ์ คุณพีระพันธุ์ และผมเอง ‘กรณ์ จาติกวณิช’

เปิดหน้าเป็นที่เรียบร้อย สำหรับ แคนดิเดตผู้ท้าชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ จากเดิมคาดการณ์กันว่าจะมี ระหว่างนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รักษาการหัวหน้าพรรค, นายกรณ์ จาติกวณิช รักษาการรองหัวหน้าพรรค และ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน แกนนำคนสำคัญของพรรค อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  และท้ายสุด นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อดีต รมว.ยุติธรรม พรรคประชาธิปัตย์ ตัดสินใจในโค้งสุดท้ายประกาศตัว อย่างเป็นทางการลงศึกชิงหัวหน้าพรรค..เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา (08 พ.ค.62)  อย่างสดๆท่ามกลางกระแสข่าวลือ การสนับสนุนของกลุ่มนายถาวร เสนเนียม โดยจะมีการประชุมใหญ่วิสามัญของ พรรคในวันที่ 15 พ.ค.62 ที่มีวาระสำคัญคือ การเลือก หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ และ กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่

 

ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวจากทางฝั่งของนายกรณ์ ได้โพสต์เฟซบุคส่วนตัว Korn Chatikavanij  ระบุว่า...เป็นที่ชัดเจนแล้วครับว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะมีการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ในวันที่ 15 พฤษภาคม และครั้งนี้มีผู้ลงสมัครทั้งหมด 4 คนด้วยกัน นั่นคือคุณจุรินทร์ คุณอภิรักษ์ คุณพีระพันธุ์ และผมเอง ‘กรณ์ จาติกวณิช’

 

"กรณ์"พร้อมแล้วนั่งหัวหน้าพรรค ปลุกพลังปชป. ขอเป็นสะพานข้ามความขัดแย้ง



ผมเข้ามาทำงานการเมืองเป็นปีที่ 15 ผมเรียนจบปรัชญา เศรษฐศาสตร์ และการเมือง จากมหาวิทยาลัย Oxford ประเทศอังกฤษ วิชาหลักคือเศรษฐศาสตร์ ทำงานในวงการการเงินวาณิชธนกิจมาตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ จากนั้นกลับมาเปิดบริษัทหลักทรัพย์ที่ไทยตอนอายุ 24 ซึ่งเป็นบริษัทแรกที่มีฐานลูกค้าเป็นนักลงทุนจากทั่วโลก จนถึงอายุ 35 ผมขายบริษัทให้ JP Morgan Chase และรับตำแหน่งประธานบริษัทต่อจนอายุ 39 ปี เมื่อถึงจุดอิ่มตัวในโลกธุรกิจ ผมจึงตัดสินใจเลือกที่จะรับใช้สังคมด้วยการเป็น “นักการเมืองอาชีพ” ในพรรคที่ผมศรัทธาที่จะเข้ามาทำงานเพื่อประชาชน นั่นคือ “พรรคประชาธิปัตย์”


ตั้งแต่วันนั้นที่ตัดสินใจทำงานการเมือง จนถึงวันนี้ ผมผ่านมาทั้งบทบาทการเป็นฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล 

 

"กรณ์"พร้อมแล้วนั่งหัวหน้าพรรค ปลุกพลังปชป. ขอเป็นสะพานข้ามความขัดแย้ง


ตอนเป็นฝ่ายค้าน ผมทำหน้าที่ตรวจสอบในรัฐสภาด้วยสาระ เนื้อหา ข้อมูล และหลักฐาน จนนำมาสู่การพิจารณาคดีใหญ่ๆ จนบรรลุผลสำเร็จหลายเรื่องด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น คดีซุกหุ้นของอดีตนายกฯ จนนำไปสู่การยึดทรัพย์ คดีพรบ.กู้เงินนอกระบบงบประมาณ 2 ล้านล้านที่เป็นการยืนยันหลักการเรื่องวินัยทางการคลังที่สำคัญ



ส่วนในบทบาทรัฐบาลนั้น ผมเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นระยะเวลาประมาณ 2 ปีกว่า เข้ามาบริหารเศรษฐกิจของชาติในช่วงที่มีวิกฤติการเงินระดับโลก หรือที่เรียกกันว่า วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ทีมเศรษฐกิจของเราทุ่มเททำทุกวิถีทางจนประเทศไทยรอดพ้นจากวิกฤติได้เร็วเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และยังมีรางวัล “รัฐมนตรีคลังโลก” ที่เป็นความภูมิใจติดตัวมาเป็นเครื่องสะท้อนถึงความสำเร็จภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ภายใต้การนำโดยคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่สามารถแก้วิกฤติเศรษฐกิจได้อีกครั้งหนึ่ง



ตลอดจนการทำงานในอีกหลายๆ กิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆ ในพรรค เช่นการรื้อฟื้นโครงการเยาวชนของพรรค และปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น การทำหน้าที่เป็นประธานร่างนโยบาย รวมไปถึงโครงการที่เกี่ยวข้องกับการนำร่องทำนโยบายในภาคปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็น ข้าวอิ่ม, การปลูกพืชระบบน้ำหยด, English For All และการเปิดสตาร์ทอัพ FinTech ร่วมกับคนรุ่นใหม่


 

มาถึงวันนี้.. พรรคมาถึงจังหวะการเปลี่ยนแปลงอันสำคัญอีกครั้ง

ผมจะปลุกพลังของพรรคฯ ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ผมจะบริหารพรรคอย่างสร้างสรรค์ โปร่งใส และทันต่อยุคสมัย ผมจะขอความร่วมมือและให้โอกาสคนทุกรุ่น ทุกกลุ่ม และทุกภาค รวมไปถึงการเชิญชวนคนมีความสามารถระดับประเทศเข้ามาทำงานร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป

 

"กรณ์"พร้อมแล้วนั่งหัวหน้าพรรค ปลุกพลังปชป. ขอเป็นสะพานข้ามความขัดแย้ง

 

และที่สำคัญ ผมตระหนักดีว่าการจะทำงานใหญ่ให้สำเร็จได้ เราต้องมี Teamwork ที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน สส. ผู้สมัครสส. และทีมงานของพรรคฯ ที่พลาดไปต้องมีที่ยืน ผมจะนำจุดเด่นของทุกคนกลับมาทำงานร่วมกันเพื่อพี่น้องประชาชน



ภารกิจสำคัญในวันนี้ ผมขอเป็นสะพานข้ามความขัดแย้ง ที่จะเชื่อมทุกคนไปสู่ก้าวใหม่ เดินหน้าต่อไปด้วยกัน เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์ที่เรารัก กลับมาเป็นความหวังของประเทศไทยอีกครั้งหนึ่งให้ได้

ด้วยทุกความสามารถ ทุกสรรพกำลังที่ผมมี ทุกการตัดสินใจในการกระทำของผม เป้าหมายของการทำงานครั้งสำคัญครั้งนี้คือ 1. เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน 2. เพื่อความก้าวหน้าของประเทศและ 3. เพื่อความมั่นคงของแผ่นดิน 



ผมพร้อมแล้วครับ ที่จะยกเครื่องพรรคประชาธิปัตย์ให้เป็นเครื่องมือในการทำงานให้แก่ประชาชน และเป็นตัวแทนของคนไทยทั้งประเทศ 



ผมอาสาเข้ามาเป็นตัวเลือกให้สมาชิกพรรคได้พิจารณา  เพื่อเป็น "หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์" คนต่อไปครับ

#ทีมกรณ์ #ทีมปชป #ไปด้วยกรณ์ไปด้วยกัน#ประชาธิปัตย์ #หัวใจสีฟ้า #Democratis#เศรษฐกิจเข้มแข็ง #ประเทศไทยเข้มแข็ง

 

"กรณ์"พร้อมแล้วนั่งหัวหน้าพรรค ปลุกพลังปชป. ขอเป็นสะพานข้ามความขัดแย้ง