การเมืองไทยดำเนินมาจนถึงช่วงการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 และคนที่ 2 ผ่านพ้นไปแล้ว แต่กว่าจะผ่านไปได้ นอกเหนือจากการลุ้นว่าใครจะได้แล้ว ยังต้องลุ้นอีกว่าจะมีใครวางมวยขึ้นในสภารึเปล่า เพราะบรรยากาศดุเดือดเหลือเกินค้านกันไป ประท้วงกันมา เด็ดสุดนี่มีการหาเสียงแทนรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ด้วย ก็จะใครซะอีกล่ะค่ะ ถ้าไม่คุณช่อ พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ หาเสียงแทนส.ส.หญิงในพรรคที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง เอาความเพศหญิงมาชี้ให้เห็นว่าไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าใคร ดีค่ะเพราะนี่ก็เห็นด้วยว่าทุกเพศมีความสามารถเท่าเทียมกันหมด แต่จะมาหาเสียงในสภาเนี่ยนะคะ อันนี้ไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไหร่

การเมืองไทยดำเนินมาจนถึงช่วงการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร  และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 และคนที่ 2 ผ่านพ้นไปแล้ว แต่กว่าจะผ่านไปได้ นอกเหนือจากการลุ้นว่าใครจะได้แล้ว ยังต้องลุ้นอีกว่าจะมีใครวางมวยขึ้นในสภารึเปล่า เพราะบรรยากาศดุเดือดเหลือเกินค้านกันไป ประท้วงกันมา เด็ดสุดนี่มีการหาเสียงแทนรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ด้วย ก็จะใครซะอีกล่ะค่ะ ถ้าไม่คุณช่อ พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ หาเสียงแทนส.ส.หญิงในพรรคที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง เอาความเพศหญิงมาชี้ให้เห็นว่าไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าใคร ดีค่ะเพราะนี่ก็เห็นด้วยว่าทุกเพศมีความสามารถเท่าเทียมกันหมด แต่จะมาหาเสียงในสภาเนี่ยนะคะ อันนี้ไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไหร่

เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้ที่ได้รับคัดเลือกคือคุณชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี แห่งพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เกินความคาดหมายค่ะ แต่ช่วงการเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 และคนที่ 2 รู้สึกว่าจะดุเดือดกว่ามาก ซึ่งคุณชัย ชิดชอบ ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมชั่วคราวในครั้งนี้ ต้องยอมรับเลยล่ะค่ะว่าใจเย็นดีมาก แถมยังแทรกมุขตลกให้ได้ผ่อนคลายตลอดการประชุมโดยพรรคพลังประชารัฐ เสนอชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ส่วนพรรคเพื่อไทย เสนอชื่อน.ส.เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่  ชิงตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่ 1 โดยประธานสภาให้ใช้วิธีการลงคะแนนลับในคูหา แต่ว่าก่อนหน้าช่วงก่อนลงมติ คุณพรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคอนาคตใหม่บอกว่ามีเรื่องหารือกับประธานสภา ว่าผู้หญิงได้ทำหน้าที่รองประธานสภาคนที่ 2 ครั้งสุดท้ายคือ ลลิตา ฤกษ์สำราญ ระหว่าง 7 มีนาคม 2548 ถึง 24 กุมภาพันธ์ 2549 และขอให้ผู้หญิงได้ทำหน้าที่รองสภาฯ พร้อมทั้งเสนอว่าให้ผู้สมัครรองประธานสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 2 ฝ่ายได้แสดงวิสัยทัศน์

ทีนี้สภาลุกเป็นไฟค่ะประท้วงกันวุ่นโดยคุณวีระกร คำประกอบ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จ.นครสวรรค์ ถึงกับพูดว่าถ้าพรรณิการ์หาเสียงให้ผู้สมัครได้ ตัวเขาก็จะหาเสียงให้คุณสุชาติ ตันเจริญ เช่นกัน ทีนี้คุณธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.เพื่อไทย กรุงเทพมหานคร ได้อภิปรายสนับสนุนคุณพรรณิการ์ หลังจากนั้นมี ส.ส.หญิงจากพรรคพลังประชารัฐลุกขึ้นอภิปรายตอบโต้ เสียงเรีกท่านชัย ชิดชอบ ดังสนั่นสภาโกลาหลใหญ่โตจนสุดท้าย คุณชัย ชิดชอบ ตัดสินใจสั่งพักการประชุม 5 นาที แต่พักจริงนี่เป็นครึ่งชัวโมงค่ะ ก่อนที่จะกลับมาลงคะแนน คุณพรรณิการ์ ยังไม่หมดบทบาทเท่านั้นนะคะ ยังเรียกร้องให้ ส.ส.เคารพความเท่าเทียมซึ่งกันและกัน บอกว่ามีการเหยียดเพศเกิดขึ้นในรัฐสภา ทั้งต่อกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ กลุ่มสตรี และ ส.ส.ที่ยังมีอายุน้อย ตลอด 2 วันของการประชุม บอกว่าพบพฤติกรรมดังกล่าวจากเพื่อนสมาชิก จึงเรียกร้องให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว ทีนี้ ผลการลงคะแนนปรากฎว่า คุณเยาวลักษณ์ ได้ 246 คะแนน ส่วนคุณสุชาติได้ 248 คะแนน เฉียดฉิวกัน 2 แต้ม จากผู้ลงคะแนนทั้งหมด 494 คน ทำให้คุณสุชาติเป็นรองประธานสภาคนที่ 1 ไป

ขับเคี่ยวกันดุเดือดขนาดนี้ โปรไฟล์ของทั้ง 2 คน ย่อมไม่ธรรมดาค่ะ คุณสุชาติ เป็น ส.ส. จากเมืองแปดริ้ว เคยดำรงตำแหน่งรองประธานสภา 2 สมัย เริ่มตั้งแต่เมื่อปี 2545 และ 2548 ในยุครัฐบาลทักษิณ ชินวัตร และเป็น ส.ส. มาทั้งหมด 8 สมัยผ่านการเป็นผู้แทนฯ มาหลายสมัย สังกัดพรรคการเมืองหลายพรรค ทั้ง พรรคประชาธิปัตย์ พรรคไท พรรคชาติไทย พรรคไทยรักไทย เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในปี 2535 และ 2538 ต่อมาได้ดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคทั้ง พรรคชาติไทย และพรรคไทยรักไทย จน ปี 2550 ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ในการเลือกตั้ง 2562 คุณสุชาตินำสมาชิกกลุ่มบ้านริมน้ำ 40 คน มาเข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ส่วน คุณเยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ เข้าสู่การเมืองเป็นครั้งแรกในการเลือกตั้งปี 2562 เธอเป็นกรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภูมิภาค ภาคเหนือ เป็นคน จ. เชียงใหม่ ก่อนเข้าเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ คุณเยาวลักษณ์ เป็นหัวหน้าภาควิชาและอาจารย์ประจำภาควิชาบริหารธุรกิจ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ จบการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาวิชาจิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์การ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
 

ส่วนรองประธานสภาคนที่ 2 มีผู้ถูกเสนอชื่อ 2 คน คือ คุณศุภชัย โพธ์สุ หรือครูแก้ว ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย และ นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ หรือหมอสงค์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ผลปรากฎว่าคุณศุภชัย โพธิ์สุ ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 2 ชนะ นพ.ประสงค์ ไปด้วยคะแนน 256 ต่อ 239 เสียง อันนี้ชนะแบบขาดลอย แต่ในช่วงการเลือกรองประธานสภาฯ คนที่ 2 ไม่ใช่ว่าจะราบรื่นค่ะเกิดเหตุความวุ่นวายขึ้นด้วยเหมือนกันโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นประท้วงว่า มีข้อสังเหตุว่าบัตรใบแรกมีการเขียนชื่อ นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ไม่ใช่ นายศุภชัย โพธิ์สุ ผู้ถูกเสนอชื่อเป็นรองประธานสภาฯ จึงอยากให้มีการตรวจสอบบัตรลงคะแนนใหม่เพื่อวินิจฉัยว่า เป็นบัตรดีหรือบัตรเสีย ส่วนการใช้กล้องคลิปวิดีโอขณะการลงคะแนนนั้น ตนเกรงว่าจะผิดรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้ลงคะแนนลับ ตนยอมไม่ได้หากจะทำให้สภาฯ เสื่อมเสีย ทีนี้ก็เกิดข้อคัดค้าน ข้ออภิปรายขึ้นมามากมาย แต่สุดท้ายแล้วก็ได้รองประธานสภาฯคนที่ 2 คือคุณ ศุภชัย โพธิ์สุ

มีเรื่องฮาในสภาอีกนิดนึงค่ะเมื่อคุณมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคศรีวิไลย์ ลุกขึ้นเสนอหลังจากที่นั่งเป็นผู้ฟังมานาน ก็นึกว่าจะมีไม้เด็ดอะไร แต่คำพูดที่ได้มาจากคุณมงคลกิตติ์ คือ "วันนี้ก็นั่งตั้งแต่เช้า ฟังพี่ๆ ว่าที่ฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล ก็ฝากบอกพี่ๆ ฝ่ายค้านทุกคน ไม่ต้องเสียใจ ยังมีเวลาครับ และก็เกมจบแล้วครับ" พูดยังไม่ทันจบประโยค คุณจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย โต้กลับทันทีว่า "เลอะเทอะครับ ท่านประธานครับ ประท้วงเลอะเทอะครับ เพิ่งเข้ามานี่เลอะเทอเลยครับ จะพูดทั้งที ท่านประธานต้องวินิจฉัยตามข้อบังคับข้อ 61 ไม่ใช่ว่าสักแต่มีไมค์แล้วพูดไปเรื่อย อย่างนี้ไม่ค่อยเท่เท่าไร กำลังหารือเรื่องสาระ" ปู่ชัย ที่ทำหน้าที่ประธาน ยังอดขำไม่ได้เลย