ทายาทการเมืองคนสำคัญอย่างคุณโอ๊ค พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายคนโตของคุณทักษิณ ชินวัตร และหลานชายของคุณยิ่งลักษณ์ อดีตนายกฯทั้งสองคน พ่อก็หนีคดีไปต่างประเทศ อาก็ยังมาโดนคดีต้องหนีไปกบดานต่างประเทศเช่นเดียวกันเรียกว่าบ้านแตก็ไม่ผิด แต่ระดับคุณโอ๊คแล้วโตมาจนถึงป่านนี้เรื่องปัญหาครอบครัวก็คงไม่ต้องกังวลหรอกนะคะ แต่สิ่งที่เป็นห่วงก็คือคดีฟอกเงินทุจริตปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทยฯ กับกลุ่มกฤษดามหานคร นั่นล่ะค่ะแต่ดูเจ้าตัวไม่ค่อยกังวลสักเท่าไหร่ยังเห็นโพสต์เหน็บคนโน้นคนนี้ จนอาจจะลืมไปว่าทั้งพ่อและอาตัวเองก็สร้างเรื่องไว้ใช่เล่น

ทายาทการเมืองคนสำคัญอย่างคุณโอ๊ค พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายคนโตของคุณทักษิณ ชินวัตร และหลานชายของคุณยิ่งลักษณ์ อดีตนายกฯทั้งสองคน พ่อก็หนีคดีไปต่างประเทศ อาก็ยังมาโดนคดีต้องหนีไปกบดานต่างประเทศเช่นเดียวกันเรียกว่าบ้านแตก็ไม่ผิด แต่ระดับคุณโอ๊คแล้วโตมาจนถึงป่านนี้เรื่องปัญหาครอบครัวก็คงไม่ต้องกังวลหรอกนะคะ แต่สิ่งที่เป็นห่วงก็คือคดีฟอกเงินทุจริตปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทยฯ กับกลุ่มกฤษดามหานคร นั่นล่ะค่ะแต่ดูเจ้าตัวไม่ค่อยกังวลสักเท่าไหร่ยังเห็นโพสต์เหน็บคนโน้นคนนี้ จนอาจจะลืมไปว่าทั้งพ่อและอาตัวเองก็สร้างเรื่องไว้ใช่เล่น

 

ข้อความที่คุณโอ๊ค ได้โพสต์ไว้เมื่อวันที่ 29 พ.ค.62 ตั้งหัวข้อสวยงามเลยค่ะ บอกว่า...“ชื่อนั้นสำคัญไฉน” เนื้อหาบอกว่า “คนโบราณ ที่อยากจะให้ลูกหลาน มีสามัญสำนึกที่ดี ตามที่บรรพบุรุษมุ่งมั่นตั้งใจไว้ มักจะใช้ “กุศโลบาย” ในการตั้งชื่อ มีทั้งตั้งชื่อเป็น “สิริมงคล” และตั้งชื่อเพื่อ “แก้เคล็ด” เราจึงมักได้ยินชื่อ.. นายรวย แต่ยากจน นายมี พึ่งขัดสน นายบุญ ใฝ่บาป นายมานะ เกียจคร้าน อยู่เสมอๆ” “คนยังมีชื่อ ไม่ตรงกับ สันดานตัวเองได้ แล้วพรรคที่นิยามตัวเองมา 70 กว่าปี ว่าตัวมี “อุดมการณ์”ประชาธิปไตย และ มีอุดมการณ์ในการก่อตั้งพรรคฯ จะกระทำขัดอุดมการณ์ของตัวเองได้หรือไม่?” “หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนก่อน พูดไว้ชัดเจนว่า “การไม่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ และการไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่สืบทอดอำนาจ คืออุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์” และพูดต่อไปอีกว่า “ไม่มีมติของพรรคการเมืองใด ขัดต่ออุดมการณ์ของพรรคตัวเอง” พูดปั๊บพอเลือกตั้งเสร็จก็ลาออกเหมือนเลือกตั้งครั้งก่อน แต่ครั้งนี้ออกแล้วออกเลย ไม่ยอมสมัครกลับมาเป็นหัวหน้าเหมือนเคย”

“พรรคประชาธิปัตย์ กำลังจะมีมติออกมาว่า จะเข้าร่วมรัฐบาลพลเอกประยุทธ์หรือไม่ อาจเป็นเสียงสะท้อนได้ว่า พรรคเก่าแก่กว่า 70 ปี จะยิ่งแก่ก็ยิ่งขลังในบทบาทประชาธิปไตย หรือการสู้เพื่อประชาธิปไตย ได้เลือนหายตายจากพรรคการเมืองนี้ไปแล้ว เนื่องจากผู้ยึดมั่นในประชาธิปไตย ไม่ควร #ตระบัดสัตย์ต่อประชาชน #ยอมจำนนต่อเผด็จการ #เสียสัจจะเพื่อร่วมสืบทอดอำนาจ” “มติในครั้งนี้ อาจเป็นคำตอบว่า... ชื่อ “พรรคประชาธิปัตย์” คือ ชื่อที่เป็น “สิริมงคล” ต่อระบอบประชาธิปไตยของไทย หรือ เป็นเพียงวิสัยทัศน์ที่ “บรรพบุรุษ” พรรคฯ คิดชื่อพรรคขึ้นมา เพื่อ “แก้เคล็ด” ให้กับสมาชิกพรรคฯ ใน 70 ปีข้างหน้า จะได้มีสามัญสำนึกถึง “ประชาธิปไตย” กันบ้าง” โอ้โห เจ็บแสบ แต่เอ๊... ดูเหมือนช่วงนี้คุณโอ๊คจะสนใจพรรคประชาธิปัตย์มากอยู่นะคะเห็นพูดถึงอยู่บ่อยๆ แล้วที่บอกว่าตั้งชื่อประชาธิปัตย์แก้เคล็ด แล้วชื่อพรรคเพื่อไทยนี่ตั้งแก้เคล็ดด้วยรึเปล่าค่ะ เพื่อไทย เพื่อประเทศไทย หรือเพื่อใครกันแน่ ก็เห็นคุณอายิ่งลักษณ์ของคุณโอ๊คสมัยพรรคเพื่อไทยแล้วได้มาเป็นนายกฯ บริหารประเทศเจริญยับเยินเลยค่ะ

 

จนศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต้องอ่านคำพิพากษาลับหลังในคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว พิพากษาจำคุก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเวลา 5 ปี โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รอลงอาญา ศาลฎีกาฯ ยังมีคำสั่งให้ออกหมายจับ คุณยิ่งลักษณ์ เพื่อให้บังคับคดีตามคำพิพากษาของ ในวันพิพากษาเจอแต่ทนายล่ะค่ะคุณนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ซึ่งพฤติการณ์ที่นำมาสู่คำพิพากษาก็คือว่า เป็นผลสืบเนื่องจากโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ซึ่งศาลฎีกาฯ มีคำวินิจฉัยว่า เป็นการขายที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากมีการแอบอ้างสัญญาจีทูจี เพื่อนำข้าวมาเวียนขายแก่ผู้ค้าข้าวในประเทศ เป็นการแสวงหาผลประโยชน์โดยทุจริต ที่ผ่านมามีข้อมูล ทั้งการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน การตั้งกระทู้ถามในสภา และข่าวจากสื่อมวลชน แต่คุณยิ่งลักษณ์ กลับไม่ระงับยับยั้งจนเกิดความเสียหาย 5.19 แสนล้าน นำไปสู่คำพิพากษา

แล้วคุณอาคุณโอ๊คทำยังไงต่อคะ ในวันนัดฟังคำพิพากษา อ้างว่าป่วยด้วยโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน จนถูกออกหมายจับ และปรับนายประกันเต็มสัญญา 30 ล้านบาท ใช่มั๊ยคะ หักหลังพวกพ้องให้ต้องติดคุกชดใช้กรรมหักหลังมวลชนฝ่ายสนับสนุน คุณยิ่งลักษณ์ด้วยเพราะวันนั้นเดินทางไปให้กำลังใจประมาณ 300 คนได้ ก็ทำมาแล้วอย่านี้ยังเรียกว่าทำเพื่อไทยอยู่อีกมั๊ยคะ ตั้งชื่อแก้เคล็ดรึเปล่าแล้วถ้าเพื่อไทยจริงตอนโดนคดีทำไมไม่สู้ล่ะค่ะไหนว่าตัวเองไม่ได้ผิด หนีทำไมเอ่ย งงไปหมดแล้ว คุณโอ๊คงงมั๊ยคะ แต่อย่างงนานค่ะเป็นห่วงเรื่องคดีของคุณโอ๊คงวดเข้ามาแล้ว โดยเมื่อ 23 พ.ค. คุณโอ๊คเดินทางไปที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตามที่ศาลนัดตรวจหลักฐานคดีฟอกเงินทุจริตปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทยฯ กับกลุ่มกฤษดามหานคร เป็นเช็ค 1 ฉบับ จำนวนเงิน 10 ล้านบาท วันนั้นคุณโอ๊คบอกว่าศาลกำหนดวันนัดสืบพยานคู่ความทั้งสอง วันที่ 24-26 ก.ย. รวม 3 วัน พร้อมกำหนดวันอ่านคำพิพากษาล่วงหน้าไว้ก่อนในวันที่ 25 พ.ย. เวลา 10.00 น. คุณโอ๊คยังมั่นอกมั่นใจและนำพยานหลักฐานเข้าสู่การพิจารณา บอกว่าทุกอย่างอยู่ในกระบวนการอยู่เเล้ว ศาลนัดมาเมื่อใหร่ก็พร้อมมาทุก ส่วนเรื่องการฟังคำพิพากษาในวันที่ 25 พ.ย. ตนไม่หวั่นใจ

 

จะหวั่นใจได้ไงล่ะค่ะ ก็มีทั้งคุณอายิ่งลักษณ์ และคุณพ่อทักษิณ เป็นไอดอลซะขนาดนั้นลองไปเช็คดูสิค่ะในคุกมีนามสกุลชินวัตรปรากฎอยู่บ้างรึเปล่า แต่ถึงแม้จะรู้ว่าไม่มีใครทำอะไรตัวเองได้ก็อยากให้คิดไตร่ตรองสักนิดนะคะก่อนจะว่าเหน็บแนมใครเอาให้มันพ้นตัว พ้นญาติตัวหน่อย น่าจะเท่กว่านี้เยอะ

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

คุณงามความดีของรัฐบุรุษ!! "พญ.ชัญวลี" เล่าเรื่องพี่สาว จาก นศ.ป่าแตก 6ตุลา กลับคืนสู่อิสรภาพได้เพราะนโยบายของ "ป๋าเปรม"

เผ็ดร้อนการเมือง หักแต่ไม่ยอมงอ ย้อนรอย "สมศักดิ์ สามมิตร " เคยทำใครมาบ้าง ???

"ทยา"สั่งสอนมารยาทเด็กเมื่อวานซื่น "ไฮโซลูกนัท" แสดงความไร้วุฒิภาวะ-อยากดังในเวทีการเมือง

มองบน : โอ๊ค ใจเย็น!! ก่อนเหน็บคนชื่อไม่ตรงสันดาน ปชป.แก้เคล็ด ดูอาตัวเองก่อนทำเจ๊งแสนล้านเชิดหน้าอยู่ตปท.