10​  ข้อเท็จจริงจากจุดกำเนิด​ Animal Farm​ หนังสือ​แซะ​ "ขบวนการล้มเจ้า" เล่มแรกๆของโลก

1.​ ชื่อเดิม​ คือ​ Animal Farm: A Fairy Story​ แต่ในการพิมพ์ฉบับอเมริกัน​ ตัดชื่อรองออกเหลือแค่​ Animal Farm​ (เหลือเพียงฉบับเดียวที่ใช้ชื่อรองนี้)​ 2.​ ชื่อรองอื่นๆคือ​ เรื่องเสียดสี​ (แซะ)​ "A Satire" และ​ เรื่องเสียดสี​ร่วมสมัย​ "A Contemporary Satire"

จากกรณีพล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.โดยช่วงหนึ่งระบุว่านายกฯฝากแนะนำให้อ่านหนังสือ Animal Farm ซึ่งเป็นหนังสือน่าอ่านที่ให้ข้อคิดเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตได้เป็นอย่างดี สำหรับหนังสือ Animal Farm การเมืองเรื่องสรรพสัตว์ เขียนโดย จอร์จ ออร์เวลล์ นักเขียนชาวอังกฤษ และต่อมาเป็นประเด็นร้อนแรงเมื่อโลกโซเชียลฯและสังคม ได้พูดถึงหนังสือเล่มดังกล่าว โดยเฉพาะฝ่ายต่อต้านรัฐประหารที่มองว่าวรรณกรรม ที่กล่าวกันนี้เสียดสีโจมตีการยึดอำนาจทั้งยังเชื่อมโยงมาถึงพล.อ.ประยุทธ์ด้วย

1.​ ชื่อเดิม​ คือ​ Animal Farm: A Fairy Story​ แต่ในการพิมพ์ฉบับอเมริกัน​ ตัดชื่อรองออกเหลือแค่​ Animal Farm​ (เหลือเพียงฉบับเดียวที่ใช้ชื่อรองนี้)​

 

2.​ ชื่อรองอื่นๆคือ​ เรื่องเสียดสี​ (แซะ)​ "A Satire" และ​ เรื่องเสียดสี​ร่วมสมัย​ "A Contemporary Satire"

 

10​  ข้อเท็จจริงจากจุดกำเนิด​ Animal Farm​ หนังสือ​แซะ​ "ขบวนการล้มเจ้า" เล่มแรกๆของโลก

3.​ สิ่งที่​ George Orwell ต้องการแซะ​จากปากคำของเขาเองคือ​ การปฏิวัติรัสเซีย​ ในปี​ 1917 และ​ สตาลิน​ ดังปรากฏในจดหมายที่​ Orwell เขียนถึง​ Yvonne Davet ซึ่งอธิบายว่า​ Animal Farm คือ​ นิทานเรื่องแซะ​ (a satirical tale)​ที่ต่อต้าน​สตาลิน เปรียบเทียบ การลุกฮือของสัตว์ต่อนายโจนส์เจ้าของฟาร์ม​ = การปฏิวัติบอลเชวิก​ ตุลาคม​ 1917 สงครามที่​ Cowshed = การบุกรัสเซียในปี​ 1918​ และการพ่ายแพ้ของ​ รัสเซียขวา​ (White Russians)​ ในสงครามกลางเมือง​ (เป็นรัสเซียฝ่ายที่เป็นปฏิคอมมิวนีสต์)

หมู​ = ผู้มีอำนาจในระบบสตาลิน

หมูนโปเลียน​ = สตาลิน

หมูสโนว์บอล​ = ทรอตสกี้

แผนการสร้างกังหันลม​ = แผนการห้าปี​ (Five​ Year​s​ Plan)

ลูกสนัขของหมูนโปเลียน​ = ตำรวจลับของสตาลิน

 

4.​ หนังสือ​พิมพ์ครั้งแรกในอีงกฤษ 17 สิงหาคม 1945​ ก่อนสงครามโลกครั้งที่​ 2​ ยุติในวันที่​ 2​ กันยายน​ 1945​ ประมาณ​ 15​ วัน

 

5.​ Orwell เขียนเรื่องนี้​ในช่วงเดือนพฤศจิกายน​ 1943 ถึง​เดือน​ กุมภาพันธ์​ 1944 ใช้เวลา​ 4​ เดือน​ ในช่วงนั้น​อังกฤษ​ อเมริกา​ ยังเป็นพันธมิตรกับรัสเซีย​ ซึ่งนำโดย​สตาลิน​ ในการต่อสู้กับฮิตเล่อร์และกองทัพนาซี​

6.​ หลายสำนักพิมพ์ในอังกฤษและอเมริกา​ปฏิเสธต้นฉบับของ​ Animal Farm​ แม้แต่สำนักพิมพ์​เอียงซ้ายของเซอร์ Victor Gollancz ที่ตีพิมพ์งานเขียนของ​ Orwell อยู่แล้วก็เลื่อนการตีพิมพ์ให้ล่าช้า

 

7.​ ในตอนนั้น​ กองทัพและผู้มีอำนาจในอังกฤษในขณะนั้นยังยกย่องสตาลิน​ในฐานะพันธมิตรร่วมรบกับฝ่ายอักษะ

 

8.​ Orwell เป็นสังคมนิยมสายประชาธิปไตย​ และเป็นความเชื่อของ​ Orwell ในขณะนั้นเองว่าสหภาพโซเวียตจะกลายเป็น​ "รัฐเผด็จการ" ภายใต้​ "ลัทธิบูชาตัวบุคคล" และเกิด​ "ยุคทมิฬ​" ภายใต้การเข่นฆ่าทำลายล้างคนที่เห็นต่างอย่างรุนแรง​

 

9.​ หนังสือประสบความสำเร็จอย่างทันที​ เพราะความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างฝ่ายสัมพันธมิตรที่กลายมาเป็นการแบ่งขั้วระหว่างโลกเสรี​ กับ​ โลกสังคมนิยม​ และนำพาโลกเข้าสู่ยุค​ "สงครามเย็น"

 

10.​ Orwell กล่าวไว้ในปี​ 1946 ว่า "แน่นอนผมตั้งใจแต่แรกที่จะให้หนังสือเสียดสี​ (แซะ)​การปฏิวัติรัสเซีย​ และ​ การปฏิวัติในรูปแบบนั้น​ (คือ​การปฏิวัติที่สบคบคิดกัน(ล้มเจ้า?)​โดยใช้ความรุนแรง​ที่นำโดยอำนาจของคนยากคนจนที่พวกเขาไม่ตระหนักว่าตนเองมี)​ จะนำไปสู่​การเปลี่ยนแบบแผนการปฏิวัติทั้งมวลที่จะส่งผลของการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงก็ต่อเมื่อมวลชนมีความตื่นตัว​ (ไม่ถูกผู้นำขบวนการหลอกใช้?)​ เท่านั้น"

(การปฏิวัติล้มเจ้าของพรรคบอลเชวิกคือการปฏิวัติที่ฉ้อฉล​ และ​ ระบบสังคมนิยมรัสเซียคือระบบที่เน่าใน)​

 

11​ (แถม)​และในคำนำ​ ฉบับ​ภาษายูเครน​ 1947 ว่า

"สิบปี​ที่ผ่านมา​ (หลังจากกลับมาจากสเปน)​ ผมมั่นใจว่า​การทำลายล้าง​ "ภาพมายาของการปฏิวัติรัสเซีย" (Russians​ Myth)​ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดถ้าเราต้องการรื้อฟื้นการเคลื่อนไหวของขบวนการสังคมนิยม"