ในรายการเที่ยงตรงกับสนธิญาณ ได้มีการนำเสนอในตอน จับตาเกมถล่ม"ลุงตู่"ให้คาสภาฯและการตัดสินใจครั้งสำคัญของอภิสิทธิ์ ลาออกจาก ส.ส.หรือไม่

ในรายการเที่ยงตรงกับสนธิญาณ ได้มีการนำเสนอในตอน จับตาเกมถล่ม"ลุงตู่"ให้คาสภาฯและการตัดสินใจครั้งสำคัญของอภิสิทธิ์ ลาออกจาก ส.ส.หรือไม่  ซึ่งคุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม วันนี้เป็นวันที่ 5 มิถุนายน 2562 วันที่รอคอย วันที่จะได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่ชื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ลุงตู่แน่นอน ไม่มีทางที่จะเป็นอย่างอื่น แต่จะเป็นนายกรัฐมนตรีในรูปแบบไหน และจะฝ่าฝันนำพาประเทศไปสู่เป้าหมายที่ต้องการได้หรือไม่ เป็นเรื่องที่จะต้องติดตามและดูรายละเอียดเบื้องลึกในการประชุมรัฐสภาวันนี้ครับ รับรองยืนยันได้ว่าเละๆๆๆ และ เละตุ้มเป๊ะแน่นอนครับ

 

 เพราะไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านที่เตรียมการในการขับเคลื่อนโจมตีและขยายผลในการที่จะทำลายภาพพจน์ของพลเอกประยุทธ์ หรือแม้แต่ความขัดแย้งภายในของว่าที่พรรคฝ่ายค้านซึ่งนำโดยพรรคเพื่อไทยเองก็มีอยู่ ไม่ต้องนับล่ะครับว่าในพรรคร่วมรัฐบาลก็มีความขัดแย้งอยู่ในหลายระดับไม่ว่าจะเป็นในพรรคประชาธิปัตย์หรือในพรรคพลังประชารัฐซึ่งเป็นพรรคแกนหลักเองนะครับ ไปดูทางด้านฝ่ายค้านนะครับ แน่นอนครับจะฉวยโอกาสนี้นะครับขยายผล ขยายสถานการณ์ ใช้การอภิปรายการเล่นเกมในสภานะครับโจมตีและก็ซ้ำเติมพลเอกประยุทธ์ โจมตีวุฒิสมาชิกนะครับเพื่อที่จะขยายผลความชอบธรรมของตัวเองตามยุทธศาสตร์ต้านเผด็จการ หยุดการสืบทอดอำนาจนะครับ 

นี่เป็นเกมที่ว่าที่ฝ่ายค้านที่นำโดยพรรคเพื่อไทยและพรรคอนาคตใหม่เดินหน้าอย่างเต็มที่แน่นอน ว่าที่ฝ่ายค้านโดยพรรคเพื่อไทยนี่นะครับยอมที่จะเสนอชื่อนายธนาธรเป็นนายกรัฐมนตรีแทนคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ตัวเต็งที่ใช้หาเสียงมาโดยตลอดนะครับ เหตุผลก็เพื่อต้องการขยายแนวร่วมในการโจมตีพลเอกประยุทธ์นะครับ รู้อยู่แล้วว่าไม่ชนะ 

น่าสนใจตรงที่ว่าทำไมพรรคเพื่อไทยถึงไม่เสนอชื่อคุณหญิงสุดารัตน์ เพราะในแง่ของคุณหญิงสุดารัตน์ก็ได้แสดงบทบาทและยืนยันในการต่อต้านพลเอกประยุทธ์ โจมตีเผด็จการมาโดยตลอดเหมือนกันนะครับ เปรียบเทียบกันชั้นต่อชั้นในทางการเมือง 

คุณหญิงสุดารัตน์เหนือกว่าธนาธร แสดงว่ามีมิติที่ล้ำลึก ที่ว่าที่พรรคฝ่ายค้านได้คิดกลและเกมในการที่จะเดินในสภาและการขยายผลต่อเนื่อง ซึ่งอีกด้านหนึ่งนะครับทำให้เกิดปัญหาในพรรคเพื่อไทยเหมือนกัน เพราะ สส.อีสานส่วนหนึ่งออกมายืนยันว่าจะต้องเสนอชื่อคุณหญิงสุดารัตน์ เพราะมิฉะนั้นจะกลับไปพูดกับพี่น้องประชาชนคนอีสานไม่ได้เพราะตอนหาเสียงพูดถึงชื่อคุณหญิงสุดารัตน์ตลอดมา นี่ก็ต้องจับตาดูล่ะครับว่าจะเกิดเป็นประเด็นปัญหาภายในว่าที่พรรคฝ่ายค้านกันเองหรือไม่

 ส่วนบรรดาพรรคที่จะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐซึ่งแน่นอนล่ะครับจะต้องโหวตโดยเปิดเผย สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นนายกรัฐมนตรี อันนี้มีมติแล้วทุกพรรคล่ะครับ โดยเฉพาะล่าสุดคือมติของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีการประชุมร่วม สส.และคณะกรรมการบริหาร มีผู้เข้าร่วมประชุมทั้งสิ้น 81 คนครับ เป็น สส. 53 และคณะกรรมการบริหาร 28 คน ผลการลงมตินะครับ 61 คนเห็นว่าควรที่จะเข้าร่วมรัฐบาล 16 คน ไม่เห็นด้วย งดออกเสียง 2 คน และหนึ่งคนเป็นบัตรเสีย 

มีคุณจุรินทร์ ลักษณะวิสิต หัวหน้าพรรคนั่งเป็นประธาน ไม่ออกเสียงเหมือนกัน ก็ต้องจับตาดูล่ะครับว่า 16 เสียงนี่นะครับที่ไม่เห็นด้วยซึ่งแน่นอนว่าน่าจะเป็นคนในเครือข่ายของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สิ่งที่จะต้องจับตาก็คือใน 16 เสียงนี้เป็น สส. กี่คน และในบรรดา สส.เหล่านี้เมื่อขานชื่อแล้วนะครับจะปฏิบัติตามมติพรรคสนับสนุนพลเอกประยุทธ์หรือไม่นะครับ 

ส่วนแน่ๆนะครับสองคนที่แสดงบทบาทไม่เห็นด้วยคืออภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และเทพไท เสนพงษ์ ก็ต้องจับตาดูล่ะครับว่าเมื่อถึงเวลาจะตัดสินใจอย่างไร ผู้สื่อข่าวถามอภิสิทธิ์เรื่องนี้ อภิสิทธิ์ตอบสั้นๆเมื่อวานครับว่า  ถ้าอภิสิทธิ์บอกว่าปฏิบัติตามมติพรรคก็น่าจะตอบออกไปง่ายๆแบบว่าต้องปฏิบัติตามมติพรรค นั่นแสดงว่ามีแง่มุมทางการเมืองบางประการแน่นอน แง่มุมทางการเมืองที่ว่านะครับมีข่าวลือตลอดช่วงเย็นของเมื่อวานที่ผ่านมาว่า ถ้าไม่งดออกเสียงก็เป็นไปได้ที่อภิสิทธิ์จะอภิปรายในสภาถึงเหตุผลที่ไม่เอาพลเอกประยุทธ์แล้วก็ทิ้งบอมบ์ลาออกจากการเป็น สส. เพื่อแสดงจุดยืนในอุดมการณ์ของตัวเอง ซึ่งแน่นอนล่ะครับเละตุ้มเป๊ะ จะเละทั้งตัวอภิสิทธิ์ เละทั้งพรรคประชาธิปัตย์นะครับหรือเละทั้งคนทั้งพรรคก็ต้องจับตาดูล่ะครับ

 เพราะว่าที่ฝ่ายค้านและขบวนการในโลกโซเชียลนะครับจะถล่มในกรณีของอภิสิทธิ์นี้อย่างแน่นอน และแม้แต่การไปเชียร์อภิสิทธิ์นะครับก็คือการสร้างความแตกแยกนะครับในระยะยาวของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะอย่าลืมว่าอภิสิทธิ์ก็ยังมีคนที่เชียร์อยู่อีกจำนวนหนึ่งในพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นนะครับ มติของพรรคร่วมรัฐบาลชัดเจน นั่นก็คือพลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน เพียงแต่ว่าจะออกมาในรูปแบบไหน ก็จะขยายความให้ดูกันต่อไปนะครับ 

แต่ที่สำคัญนี่นะครับสรุปสุดท้ายนี่นะครับถ้างูเห่ากล้าเปิดตัวโดยเปิดเผยนะครับ ก็ถือว่ามีความกล้าหาญและรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ก็จะมั่นคง แต่ถ้างูเห่าไม่เปิดเผยนะครับ รัฐบาลยังเสียงปริ่มน้ำต่อไป เหตุผลที่งูเห่าไม่กล้าเปิดเผย เพราะเป็นการลงมติด้วยการขานชื่อ พลเอกประยุทธ์ก็จะหนัก หนักจากไหนล่ะครับ ก็หนักจากคนในพรรคพลังประชารัฐนะครับ มาจาก สส.น้ำเน่านั่นเอง เมื่อวานเกิดปรากฎการณ์ที่สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่ม 3 มิตร ไปเชิญประชุม สส. ให้เหตุผลว่าเพื่อมาปรึกษาหารือการเตรียมการที่จะรับมือในสภา

 ถามว่าถ้าจะเตรียมการอย่างนั้นทำไมไม่ประชุมทั้งพรรค ทำไมไม่ประชุม สส.ทั้งพรรค ทำไมเกณฑ์เฉพาะในกลุ่มตัวเอง เพื่อแสดงพลังให้เห็นว่าตัวเองมี สส. อยู่ในสังกัด 30 คน เพราะท้ายของคำพูดก็คือการบอกว่าพรรคพลังประชารัฐไม่ควรให้กระทรวงเกรดดีๆให้กับพรรคร่วมรัฐบาลอื่นไปหมด ควรที่จะเอาไว้เองบ้าง เพราะไม่อย่างนั้นในสมัยหน้าจะหาเสียงกับประชาชนได้อย่างไร

 นี่แหละครับสิ่งที่ต้องจับตา เพราะพฤติกรรมของ สส. พวกนี้นะครับ ประวัติศาสตร์อดีตที่ผ่านมาพร้อมหักทุกคน หากตนเองไม่ได้ประโยชน์ตามต้องการ ก็เหมือนการประชุมกลุ่มของตัวเองสามมิตรนะครับที่บอกว่าต้องการซักซ้อมนี่ ไม่รู้ว่าจะมาประชุมหาสวรรค์วิมานอะไร มีประสบการณ์เยอะๆก็ต้องประชุม สส.ทั้งพรรค ต้องการกดดัน 

ต้องการแสดงให้พลเอกประยุทธ์เห็นว่ามีเสียงอยู่ในมือ 30 และเสียงนี้สอดคล้องนะครับกับข่าวที่ว่าจะไปรวมกับพรรคเพื่อไทยก่อนหน้านี้นะครับ นี่แหละครับปัญหาที่แท้จริงของพลเอกประยุทธ์ รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำไม่น่ากลัวเท่ากับรัฐบาลที่มีคลื่นใต้น้ำ โดยเฉพาะกับ สส.น้ำเน่าทั้งหลาย นี่แหละครับที่หนักใจแทนลุงตู่เสมอมาและเสนอให้ตั้งรัฐบาลไปได้ระยะหนึ่งแล้วก็ยุบสภา 

 

คืนอำนาจให้ประชาชน ลุงตู่ออกมาตั้งพรรคเอง ขอโอกาสกับประชาชนเป็นหัวหน้าพรรคเองนะครับ สลัดทิ้งบรรดา สส.เหล่านี้ไปให้หมดนะครับ ติดตามหลังจากผลการประชุมออกมาปิดการประชุมรัฐสภาแล้วนี่นะครับ ผมจะขยายผลให้ทราบในรายละเอียดต่อๆไป