ในรายการเที่ยงตรงกับสนธิญาณ ได้นำเสนอในตอน ศึกนอกไม่เท่าไหร่ ลุงตู่ระวังไว้เสี้ยนจะตำเท้า

ในรายการเที่ยงตรงกับสนธิญาณ ได้นำเสนอในตอน ศึกนอกไม่เท่าไหร่ ลุงตู่ระวังไว้เสี้ยนจะตำเท้าโดยคุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ระบุว่า
นับจากนี้ไปภายในหนึ่งเดือนนี้ก็จะได้เห็นโฉมหน้าของคณะรัฐบาลชุดใหม่ จะเห็นหน้าตาของรัฐมนตรี ของแต่ละพรรคที่จะมาเข้าร่วมเป็นคณะรัฐมนตรีในชุดของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาอย่างแน่นอน แต่เรียนท่านผู้ชมว่าระหว่างนี้จะได้เห็นบรรยากาศเดิมๆ คือความวุ่นวายทางการเมืองที่หน้าสะอิดสะเอียนในการต่อรองตำแหน่ง ไม่ใช่จากพรรคร่วมรัฐบาลนะครับ จากพรรคร่วมรัฐบาลจบไปแล้วที่กำลังจะเห็นต่อไปก็จะเห็นในพรรคพลังประชารัฐเอง นี่แหละครับ

พรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆได้มีการเจรจาต่อรองกับพรรคพลังประชารัฐเสร็จไปแล้วพร้อมทั้งได้มีการวางตัวรัฐมนตรีต่างๆ เอาไว้เรียบร้อย ไม่มีปับหาที่ต้องจับตาบ้างนิดหน่อยก็คือพรรคประชาธิปัตย์ที่ คุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ หัวหน้าพรรคประกาศว่าจะใช้ทีมอเวนเจอร์ซึ่งนั่นก็แปลว่าจะมีการรวมพลังทั้งทีมไม่มีใครเก่ง โดดเด่น แต่เพียงคนเดียว

 

ซึ่งนั่นหมายความว่าน่าจะมีการกระจายรัฐมนตรีไปให้กับฝากฝั่งอีกกลุ่มหนึ่งที่เลือกหัวหน้าพรรคแพ้  ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์น่าจะได้ตำแหน่งไปทั้งสิ้นสามว่าการ กับ สี่รัฐมนตรีช่วย ทีมหลักของคณะผู้บริหารก็น่าจะได้รัฐมนตรีว่าการไปสอง รัฐมนตรีช่วย เอาล่ะครับไม่ว่ากัน เพราะดูจะเป็นทีมที่ได้ชัยชนะก็ต้องมีบทบาทหลักในการบริหาร

ส่วนอีกทีมหนึ่งก็น่าได้รัฐมนตรีว่าการไปหนึ่ง รัฐมนตรีช่วยไปสอง ถ้าอย่างนั้นเหตุการณ์ในพรรคประชาธิปัตย์ก็น่าจะสงบเรียบร้อย ข่าวล่าสุดที่ตามมาก็ดูเหมือนว่าได้มีการกระจายกันไปเรียบร้อยแล้ว

ก็ต้องกลับมาที่พรรคพลังประชารัฐที่ได้เรียนว่า ถ้าเกิดความวุ่นวายขึ้นเพราะเกิดการประลองกำลัง โดยส.ส.ในพรรคพลังประชารัฐ เรียกตัวเองว่ากลุ่มสามมิตรและการประลองกำลังในครั้งนี้ ไม่ใช่ไปประลองกำลังกับหัวหน้าพรรคเลขาธิการพรรค จะประลองกำลังกับตัวพล.อ.ประยุทธ์เอง ลุงตู่ได้เจอแน่ๆ ครับ

ลุงตู่เองนะครับจะได้รู้ซึ้งด้วยตัวเองว่านักการเมืองน้ำเน่าเคยออกมาโจมตี เคยว่าเขาไว้เจอกับคนที่อยู่แต่ตัวเองเพราะดังที่เรียนไว้ครับว่านักการเมือง ที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มสามมิตรอยู่ในพรรคพลังประชารัฐในทางการเมือง ใครๆก็รู้กันว่ากลุ่มนี้เป็นอย่างไร เอาตั้งแต่พฤติกรรมเริ่มแรกในการเข้ามาอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ กลุ่มนี้ไปรวมตัวกันภายนอกก่อนชื่อกลุ่มสามมิตรสร้างกระแส คือเรียกว่าเตรียมการต่อลองมาตั้งแต่ก่อนเข้าพรรค

ความจริงในพรรคพลังประชารัฐ ควรที่จะสลายไม่มีกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดเป็นการรวมพลังของคนที่รักชาติบ้านเมืองสนับสนุนลุงตู่ แต่กลุ่มนี้ออกข่าวในกลุ่มสามมิตรมาโดยตลอด แรกเริ่มเดิมที่ลุงตู่ไม่อยากได้กลุ่มนี้มาเข้าพรรค แต่มีบางคนในคณะรัฐมนตรีลุงตู่ ซึ่งมีบทบาทในการจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ ออกอาการงอน และลุงตู่เกรงใจจึงยอมรับ จึงยอมรับซึ่งเรียนว่าการยอมรับให้กลุ่มสามมิตรเข้ามานั้น เป็นผิดแรกที่ตั้งต้นผิดและผิดยาวมาถึงทุกวันนี้

ความเคลื่อนไหว ของกลุ่มสามมิตร ในขณะนั้นจะเห็นว่า แต่ละคนออกมาสัมภาษณ์แต่ละดอกแต่ละเรื่องแต่ละราว ทำเอารัฐบาลลุงตู่วุ่นมาตลอด จะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะเป็นประกาศนโยบายนู้นนี่ ของกลุ่มตัวเองไม่ผ่านการกลั่นกรองของพรรค จนลุงตู่ต้องออกมาเบรก และเอาที่สำคัญไปพูดว่าร่างรัฐธรรมนูญนี้เพื่อพวกเรา

เห็นไหมละครับอีกฝั่งหนึ่งโจมตีเรื่องรัฐธรรมนูญ เอาไปพูดในลักษณะความคิดของนักการเมืองเก่าๆ  และเมื่อเข้ามาอยู่ในพรรคได้มีการกระจายตำแหน่งเป็นคณะกรรมการบริหารบ้าง เป็นประธานยุทธศาสตร์ ภาคบ้าง แต่กลุ่มสามมิตรก็ยังปล่อยข่าวออกข่าวในนามกลุ่มสามมิตรมาโดยตลอด

คำว่าปล่อยข่าวออกข่าวผมจะเรียนท่านผู้ชมแบบนี้นะครับ ในแหล่งข่าวของนักข่าวเขาจะมีนักข่าวที่สนิทสนมเป็นคนๆ เพราะฉะนั้นเวลาคนปล่อยข่าวผ่านทางไหนเราก็จะรับทราบถึงสถานการณ์ ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวและมีวัตถุประสงค์ต้องการอะไร ปล่อยผ่านใคร

 

หลังเลือกตั้งเข้ามาแล้วก็ใช้วิธีคิดและการเมืองแบบเดิมๆ กลุ่มสามมิตรมีการเมืองปลุกระดมเข้ามาพ่ายแพ้เลือกตั้งได้เป็นส.ส.เข้ามาน้อย แต่จะทำอย่างไรให้มีฤทธิ์ หลังการเลือกตั้งเสร็จก็เรียกว่า ตกเบ็ดในพรรคไปกว้านซื้อไปติดต่อไปหา ไปเชื่อมไปโยงกับ ส.ส.หน้าใหม่ ให้มาเข้ากลุ่ม มีการรับปากว่าจะดูแล ใครมาสังกัดแล้วก็เห็นชัดเจน

ก่อนหน้าโหวตนายกฯ ในระหว่างที่มีการเจรจาตั้งรัฐบาล แกนนำเจรจาตั้งรัฐบาลเสร็จแล้วก็ออกมาเคลื่อนไหวว่าพรรคพลังประชารัฐจะไม่เหลืออะไร แล้วจะเอาอะไรไปหาเสียง ความจริง ก็คืออยากได้กระทรวงเกษตรและกระทรวงคมนาคม สองกระทรวงนี้ถือว่าเป็นหลักที่กลุ่มสามมิตรอยากได้ แต่สมศักดิ์ เทพสุทิน ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้ต้องการกระทรวงเกษตร แต่จะเอาไว้ให้พรรคพลังประชารัฐไว้ใช้หาเสียง

ส่วนคุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่มีข่าวว่าต้องการกระทรวงคมนาคมก็ไม่ได้พูดอะไร แต่ก็ทำให้การตั้งรัฐบาลต้องชะงัก

พรรคประชาธิปัตย์จึงออกฤทธิ์ สั่งสอนพรรคพลังประชารัฐด้วยการไม่ออกมติพรรคมา ทำเอาวุ่นวายกันไป พรรคประชาธิปัตย์โดนด่าไปเปล่าๆว่าเล่นตัว แต่โดยข้อเท็จจริงรู้กันว่ามาจากปัญหานี้ แล้วก็ชัดเจนนะครับ ก่อนจะมีการโหวตนายก มีการไปเรียกประชุมส.ส.ในนามกลุ่มสามมิตร ให้เหตุผลว่าจะเอาไว้ซักซ้อม ติว ในการรับมือในสภาเพื่อช่วยเหลือลุงตู่ ถ้าจะทำอย่างนั้น

ทำไมไม่ประชุมส.ส.ทั้งพรรค ทำไมประชุมแค่กลุ่มเดียว หรืออยากให้ลึงตู่รู้ หรืออยากให้สังคมรู้ว่า มีส.ส.อยู่ในมือ 30 นะ นั่นคือเหตุการณ์ก่อนวันโหวตนายกรัฐมนตรี หลังโหวตแล้วมาดูท่าทีของส.ส.หน้าใหม่พรรคประชาธิปัตย์คนหนึ่ง นั่นก็คือ นายสิระ เจนจาคะ ออกมาขย่มลุงตู่ แต่ให้สัมภาษณ์ ดูเหมือนจะพุ่งเป้าไปที่อุตตมและสนธิรัตน์ หัวหน้าพรรคและเลขาพรรคว่าจะต้องดูแลหน่วยงานหรือกระทรวงที่ดูโครงสร้างพื้นฐานทางการคมนมคมขนส่ง แปลง่ายๆคือพรรคพลังประชารัฐต้องดูแลกระทรวงคมนาคม ไม่เท่านั้นยังขยายความต่อไปอีกว่าการแก้ไขปัญหาพืชผลของเกษตรกรก็สำคัญ ก็ต้องดูแล ความหมายก็คือ อยากได้กระทรวงเกษตรอีกนั่นแหละ

 

นายสิระ เจนจาคะ พูดเหมือนกับกลุ่มสามมิตรพูดทุกประการ น่าสนใจตรงที่เคยบเป็นส.ส.กทม.สมัยแรก เคยลงส.ส.มาแล้ว ในนามพรรครักษ์สันติ ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 ได้คะแนนมา 2,437 คะแนน สอบตก แพ้สุรชาติ เทียนทอง จากพรรคเพื่อไทย ที่ได้คะแนน 27,424 คะแนน และสกลธี จากพรรคประชาธิปัตย์ รองผู้ว่ากทม.คนปัจจุบัน ที่ได้ 24,689 คะแนน สองหมื่นกับสองพันต่างกันเยอะ แต่ลงเลือกตั้งครั้งนี้คะแนนกวาดมาถึง 33,321 คะแนน ได้เป็นส.ส.สมใจ สุรชาติ เทียนทอง เที่ยวนี้พ่ายแพ้ไปด้วยคะแนนแค่ 30,564 คะแนน

 

 ก็อยากจะถามนายสิระว่าที่ได้เป็นส.ส.เที่ยวนี้ เพราะพปชร. ได้บริหารกระทรวงดีๆ ทำงานเพื่อประชาชนหรือ ไม่นะครับ ผลวานทั้งหมด ที่คนเค้าเลือก เพราะเค้าเลือกพล.อ.ประยุทธ์ เลือกลุงตู่ อยากให้มาแก้ไขปัญหาประเทศ ตัวเองได้เป็นส.ส.เพราะบารมีของลุงตู่ ถ้ามาเป็นส.ส.สมัยแรกมีพฤติกรรมอย่างนี้แล้ว ประชาชนจะมีความหวังได้มั้ยครับ โดยข้อเท็จจริงแล้ว การบริหารบ้านเมืองต่อไปจะประสบความสำเร็จ ประชาชนก็จะให้ความสำเร็จนั้นพุ่งเป้าไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ หรือลุงตู่ คุณสังกัดพปชร. ได้รับผลเต็มๆอยู่แล้ว

 

จากการที่นายกรัฐมนตรี มาจากการเสนอชื่อจากพปชร. แต่พฤติกรรมแบบนี้น่าแปลกใจ เป็นส.ส.กทม. ลงสมัครรับเลือกตั้งได้ น่าจะได้รับการคัดเลือกมาจากทีมกทม. แต่ออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกับกลุ่มสามมิตรซึ่งเป็นคนละทีมกับทีมกทม. นี่แหละคือเหตุผลว่าปัญหาจะต้องเกิดขึ้น สนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อในตน ลุงตู่อย่าไปยอมคนพวกนี้

 

 

อ่านข่าวที่อาจจะเกี่ยวข้อง :

ชูชาติโพสต์ให้คิด ทักษิณติดคุกว่าถูกแกล้ง-ธนาธรแพ้โหวตหาโดนปล้น

-พวกประชาธิปไตยจอมปลอม เดือดร้อน!! "เสรี"ซัดอย่ายัดเยียดเผย "ผมชอบเผด็จการประชาธิปไตย"

ถึงมือกกต. เรียกช่อ13อนค.เค้นหางูเห่า หากสอบแล้วเท็จต้องเอาผิด

ปั้นจั่นครั้งพบลุงตู่ ผมรักนายกฯ เลือกตั้งผมรอได้