ในรายการเที่ยงตรงกับสนธิญาณ ได้นำเสนอในตอน "ลุงตู่" เดินหน้าประเทศไทย เขี่ยทิ้งนักการเมืองน้ำเน่า เอาประชาชนเป็นหลังพิง โดยคุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม

ในรายการเที่ยงตรงกับสนธิญาณ ได้นำเสนอในตอน "ลุงตู่" เดินหน้าประเทศไทย เขี่ยทิ้งนักการเมืองน้ำเน่า เอาประชาชนเป็นหลังพิง โดยคุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ได้ระบุเอาไว้ว่า  เรียบร้อยโรงเรียนลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 สมบูรณ์แบบตามขั้นตอนของกฎหมายทุกประการนับจากนี้ไปก็คือจับตาตัวคณะรัฐมนตรีที่จะมาร่วมรัฐบาลกันครับ ซึ่งในขณะนี้นะครับโผปลิวว่อนไปตามสื่อต่างๆ โผเหล่านี้มาจากไหนครับ มาจากพวกที่กระสันอยากจะเป็นรัฐมนตรีก็ปล่อยโผเชียร์ตัวเองนะครับ ทำลายฝ่ายตรงข้ามก็เคลื่อนไหวกันไป แต่ในข้อเท็จจริงแล้วนะครับ การตั้งคณะรัฐมนตรียังไม่จบง่ายๆ ครับ ยังมีหลายขั้นตอนโดยเฉพาะขั้นตอนสำคัญคือขั้นตอนของพรรคการเมืองแต่ละพรรคเองนะครับ ที่จะต้องพิจารณาตัวบุคคล แน่นอนในทางลับพิจารณากันเสร็จเรียบร้อยแล้วแต่ก็ต้องเข้าสู่ขั้นตอนการผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหาร นะครับ ที่สำคัญนะครับ ถึงเวลานี้เนี่ยนะครับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นะครับ ในฐานะนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันว่า ได้คุยกับพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดแล้วข้อตกลงที่ทำไว้แต่เดิมเป็นไปตามนั้น นี่ล่ะครับเป็นสิ่งที่ยืนยันในสิ่งที่ผมพูดมาตลอดว่าการเจรจาในการจัดตั้งรัฐบาลที่ผ่านมานั้นมันเรียบร้อยแล้วไอ้ที่ไม่เรียบร้อยเพราะกลุ่มสามมิตรมาเคลื่อนไหวในพรรคพปชร. และผู้บริหารพรรคนะครับก็ไปขยับตามกลุ่มสามมิตรจึงทำให้เกิดปัญหาขึ้นทั้งๆ ที่โดยข้อเท็จจริง ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้รับการยืนยันจากบุคคลสำคัญจะไม่มีทางที่จะโหวตให้ลุงตู่เป็นนายกฯ แน่นอนดังนั้นการออกมายืนยันของลุงตู่ในวันนี้ นะครับก็เท่ากับว่าก่อนหน้านี้นะครับไม่ว่าจะเป็นตัวลุงตู่เองหรือใครที่มอบหมายให้ไปเจรจา การเจรจานั้นเป็นเรื่องที่เบ็ดเสร็จ เด็ดขาดแล้ว นับจากนี้ไปนะครับสิ่งที่จะต้องจับตาดูก็คือรายชื่อคณะรัฐมนตรีพรรคอื่นเนี่ยนะครับ หมายถึงพรรคร่วมรัฐบาลอื่น ไม่น่าจะมีปัญหา ได้มีการพูดคุยจัดสรรกันค่อนข้างที่จะลงตัวแม้แต่พรรคปชป.นะครับซึ่งต้องเรียกว่าเป็นพรรคอกแตก แบ่งออกเป็นสองส่วนข่าวก็ค่อนข้างยืนยันว่ามีการจัดสรรคให้กับฝ่ายที่เลือกตั้งหัวหน้าพรรคแพ้ เพราะเห็นถึงความสำคัญว่าเวลาอยู่ในสภาส.ส. สำคัญกว่าคณะกรรมการบริหารเพราะเป็นผู้ที่มีอำนาจในการยกมือมีสิทธิที่จะชี้รัฐบาลเป็นหรือตายได้ ดังนั้น การเฉลี่ยการเกลี่ยตำแหน่งจึงค่อนข้างที่จะลงตัวในพรรคปชป. สำคัญนะครับอีกพรรคที่จะมีปัญหาแล้วก็ต้องมีอย่างแน่นอนก็คือพรรคพปชร.ที่เป็นแกนนำสำคัญเองเนี่ยครับ ปัญหาก็คือ 1.กลุ่มสามมิตร ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่พอใจที่การเจรจาจัดตั้งรัฐบาลไปยกกระทรวงที่ตัวเองหมายมั่้นปั้นมืออยากได้เคลื่อนไหวจนปั่นป่วนไปหมด วันนี้เมื่อลุงตู่ยืนยันว่าเจรจาจบแล้ว ก็ต้องดูละครับว่าเข็มเนี่ยของกลุ่มสามมิตรจะเบนไปทางไหน นะครับ ตอนนี้ที่เป็นกระแสข่าวปล่อยออกมาผ่านสื่อมวลชนต่างๆ ก็คือกระทรวงพลังงาน และกระทรวงยุติธรรมครับ แหม น่าสนใจทั้งสองกระทรวง นะครับ ถ้ามีรายชื่อของแกนนำกลุ่มสามมิตรไปนั่งทั้งสองกระทรวงนี้ก็คิดว่าจะดูไม่จืดและที่สำคัญกระทรวงพลังงานก่อนหน้านี้นะครับมีชื่อของณัฐพล ทีปสุวรรณ ปรากฎออกมาก่อนหน้าแล้ว

แสดงว่าจะต้องมีการประลองกำลังกันขนานใหญ่เพราะใครๆ ก็รู้ว่าณัฐพลเป็นสายตรงของลุงตู่ นั่นเอง ดังนั้นนะครับกระแสการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีนะครับยืนยันได้ว่าที่อื่นค่อนข้างจะเรียบร้อยไอ้ที่จะเป็นปัญหาหลักก็ในพรรคพปชร.นี่ล่ะครับ เมื่อเป็นนายกฯถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมายเรียบร้อยแล้วนี่นะครับ วันนี้รัฐบาลของลุงตู่จะอยู่สั้นหรือยาวไม่ใช่สาระสำคัญแล้วครับจะต้องมีการจัดตั้งรัฐบาลขึ้นอย่างแน่นอน ดังนั้นเนี่ยนะครับ ปัญหาที่ผมได้เรียนมาโดยตลอดว่ารัฐบาลเสียงปริ่มน้ำเนี่ยนะครับเสถียรภาพความมั่นคงมันยากเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ลุงตู่จะต้องคิดและก็ใคร่ครวญ เพราะเสียงจะปริ่มน้ำก็ไม่มีปัญหานะครับถ้าลุงตู่เลือกที่จะยืนข้างประชาชนเหมือนที่เคยยืนมาเสียงสนับสนุนที่เลือกพรรคพปชร.แปดล้านยันว่าไม่ได้มาจากความนิยมต่อนักการเมืองในพรรคพปชร.แต่มาจากตัวนายกฯ มาจากตัวของลุงตู่โดยตรง ดังนั้นนะครับการตั้งครม.ในครั้งนี้ลุงตู่จะต้องยึดเอาประชาชนเป็นหลัก จะต้องยืนเคียงข้างประชาชน และประชาชนรู้สึกได้ว่าลุงตู่ยังเป็นที่หวังของประชาชนต่อไป เอาศัพท์ฝ่ายซ้ายไปเพิ่มเติมเป็นกำลังใจกันสักหน่อยว่าต้องเอาประชาชนเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็ก เพื่อที่จะแก้ปัญหาของประเทศชาติซึ่งเป็นเรื่องสำคัญไม่ใช่เรื่องของการแบ่งแยกหรือแก่งแย่งตำแหน่งนะครับ ไม่ต้องกลัวนักการเมืองหน้าไหน ใครป่วนนะครับก็จัดการถ้าเริ่มต้นด้วยคณะรัฐมนตรีที่หน้าตาดีเป็นที่ยอมรับของประชาชนหน้าตาดีไม่ใช่หล่อนะครับ หมายถึงว่ามีความสามารถนะครับ เป็นที่ยอมรับไม่มีข่าวทุจริตคอรัปชั่นไม่มีประวัติเลวร้ายมาก่อนเนี่ยนะครับแน่นอนครับประชาชนก็จะสนับสนุน และถ้ายิ่งทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตนะครับ ปรากฎผลต่อประชาชนนักการเมืองหน้าไหนมากเรื่องก็ยุบสภาทิ้งแล้วก็เขี่ยนักการเมืองเหล่านี้ไปให้พ้นทางนะครับ เดินหน้าทางการเมืองต่อประชาชนก็จะเลือกลุงตู่ต่อไป และนักการเมืองเหล่านี้นะครับก็จะจบสิ้นบทบาทหลุดออกจากเส้นทางทางการเมือง ดีครับจะได้จบๆ ไปซะที

มีวิธีการครับท่านผู้ชมครับที่ลุงตู่จะคัดเลือกนักการเมืองหน้าตาดีเป็นที่รู้สึกว่าพึ่งพิงของประชาชนได้เพราะมาตรา 160 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยเนี่ยนะครับได้กำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะเป็นรัฐมนตรีเอาไว้ 8 ข้อครับ มี 3 ข้อสำคัญที่จะต้องมาดูกันนะครับ ข้อแรกเนี่ยนะครับก็คือวงเล็บ 4 ครับ รัฐธรรมนูญกำหนดว่าผู้ที่จะเป็นรัฐมนตรีต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ย้ำนะครับซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ประจักษ์ของใคร ของสาธารณชนใครที่เคยมีประวัติไม่ดี ประวัติที่เคยอึมครึมเป็นสีเทาหรืออยู่ในขั้นตอนของปปช.ที่กำลังตรวจสอบอยู่นะครับ พวกนี้อย่าเอามาเป็นรัฐมนตรีนะครับ วงเล็บ 5 ครับบอกว่า ไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง แหม ข้อนี้ก็เป็นเครื่องมือของลุงตู่อย่างดีที่จะใช้คัดกรองนักการเมืองที่จะมานั่งเป็นรัฐมนตรีที่สำคัญนะครับ ยังมีข้อ 7 จะต้องไม่เป็นผู้ต้องคำพิพากษาจำคุกแม้คดีนั้นจะยังไม่ถึงที่สุดหรือมีการรอการลงโทษ เว้นแต่เป็นความผิดที่กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ หรือความผิดหมิ่นประมาท นะครับ และสุดท้ายคือวงเล็บ 8 นะครับ ไม่เป็นผู้เคยพ้นจากตำแหน่งเพราะกระทำการเป็นเหตุต้องห้ามตามมาตรา 186 หรือ 187 มาแล้วไม่ถึง 2 ปี ตั้งแต่วันแต่งตั้ง ในมาตรานี้นะครับความหมายก็คือว่า การขัดกันแห่งผลประโยชน์นั่นเอง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นะครับ นายกฯ คนที่ 29 ลุงตู่ในคำเรียกขานของประชาชน นะครับ ครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งก่อนอำนาจครั้งก่อนมาจากการรัฐประหารมีกองทัพเป็นหลังพิง มีมาตรา 44 เป็นเครื่องมือ วันนี้นะครับหลังพิงของพล.อ.ประยุทธ์ คือประชาชนเท่านั้น ประชาชนเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็ก เครื่องมือไม่ใช่กองทัพครับ เครื่องมือที่สำคัญคือความซื่้อสัตย์สุจริตและผลงานที่จะทำให้เป็นที่ประจักษ์ของประชาชน อย่าไปห่วงกระแสการวิพากษ์วิจารณ์การโจมตีโดยเฉพาะจากนักการเมืองที่แฝงตัวอยู่ในพรรคพปชร.หรือใกล้ตัว นะครับ นักการเมืองเหล่านี้เห็นแก่ผลประโยชน์ของตัวเองเท่านั้นนะครับ แต่ลุงตู่เป็นที่ประจักษ์ และยอมรับกันว่าเหตุที่อาสาตัวมา ต้องฝ่าฟันการทำงาน เป็นรัฐบาลในครั้งนี้จะเหนื่อยยากกว่าเดิมนับเป็นร้อยๆ เท่าก็เพื่อประเทศชาติและที่สำคัญนะครับ ก็คือตามปณิทานที่ได้ประกาศไว้ผ่านเฟซบุ๊กประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า อันนี้เป็นถ้อยคำของลุงตู่นะครับ "ผมขอยืนยันว่าจะทุ่มเทและทำงานตามมาตรฐานจริยธรรม ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ ผมพร้อมจะปกป้องรักษาไว้ซึ่งเกียรติภูมิแห่งสถาบัน ชาติ ศาสนา ตลอดจนจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัติรย์อันเป็นที่รักยิ่งของประชาชนชาวไทย" เดินหน้าประเทศไทย ครับผม เดินหน้าประเทศไทยเอาประชาชนเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็ก กล้าในการที่จะจัดการนักการเมืองน้ำเน่า สวัสดีครับ