ในรายการเที่ยงตรง กับสนธิญาณ ได้นำเสนอในตอน ขั้วพลังประชารัฐวุ่นไม่จบสักที เชียร์ "ลุงตู่" ถึงเวลาแตกหักนักการเมือง ทำเพื่อชาติ แผ่นดิน!!

ในรายการเที่ยงตรง กับสนธิญาณ ได้นำเสนอในตอน ขั้วพลังประชารัฐวุ่นไม่จบสักที  เชียร์ "ลุงตู่" ถึงเวลาแตกหักนักการเมือง ทำเพื่อชาติ แผ่นดิน!!  โดยคุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรมเที่ยงตรงถึงวันนี้ไม่รู้ว่าจะทันสถานการณ์แล้วหรือไม่สำหรับข่าวที่ออกมาว่าลุงตู่จะไปนั่งเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ โดยมีณัฎฐพล ทีปสุวรรณ เป็นเลขาธิการพรรคคู่ใจ เพราะร่องรอยความแตกแยกในพรรคพลังประชารัฐวันนี้ดูเหมือนว่ายากเกินที่จะเยียวยาครับ

 

 คงต้องทวนความกันให้ฟังนะครับว่าพรรคพลังประชารัฐนี่นะครับ ผู้ที่คิดและก่อตั้งขึ้นมาคือ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เพื่อหวังจะส่งลุงตู่ขึ้นนั่งเก้าอี้นายกที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งการคิดตั้งพรรคในครั้งนี้นะครับก็ได้ให้ 4 รัฐมนตรีซึ่งเป็นลูกน้องสายตรงของ ดร.สมคิด ลาออกจากรัฐมนตรีมาบริหารพรรคนี้นะครับ นั่นก็ได้แก่ ดร.อุตตม คุณสนธิรัตน์ ดร.สุวิทย์ คุณกอบศักดิ์ 4 คนนี้เป็นสายตรง ดร.สมคิด ถือว่าเป็นรัฐมนตรีน้ำดี เป็นคนที่มีชื่อเสียงมีผลงาน ออกมาทำงานก็หวังจะเรียกเรตติ้งพรรคพลังประชารัฐนะครับให้ขึ้นกระแส

แต่ปรากฏว่านะครับเมื่อเริ่มก่อตั้งพรรค อีกด้านหนึ่งก็กลับปรากฎกายของสามขุนพล กปปส.ที่เคียงคู่กับสุเทพ เทือกสุบรรณ แต่ไม่ได้มาในนามสุเทพ เทือกสุบรรณนะครับ การมาปรากฏตัวจั้ม สกลธี ภัททิยกุลในฐานะรองผู้ว่ากรุงเทพมหานคร มีพุฒิพงศ์ ปุณณกัณฑ์มาเป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแทนเสธ.ไก่อู ซึ่งนั่นเท่ากับว่ามายืนอยู่เคียงข้างหรืออยู่ข้างกายของลุงตู่ และสุดท้ายก็คือณัฎฐพล ทีปสุวรรณ ไปมีบทบาทบริหารอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ ชัดเจนครับว่าทั้งสามคนนี้ ไม่ได้มาจากสายของ ดร.สมคิด แต่เป็นสายตรงมาจากลุงตู่นั่นเอง

และทั้งสามคนก็ทำงานใกล้ชิดกับบิ๊กป้อม หรือพี่ใหญ่ในสาม ป. นะครับ ชัดเจนว่าพรรคพลังประชารัฐเริ่มก่อตั้งขึ้นด้วยสายสองสาย กอดรูปกอดร่างกันเป็นพรรค และสิ่งที่น่าสังเกตได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าณัฎฐพลจะเคลื่อนกายเหยียบย่างไปที่ตรงไหน จะมีนายทหารที่ชื่อ เสธ.นิมิตรอยู่เคียงข้างเสมอ เสธ.นิมิตรเป็น ฝ่ายเสธ.ประจำตัวของลุงตู่ นั่นยิ่งแสดงให้เห็นว่าทั้งสามคน อดีตขุนพล กปปส. เป็นสายตรงของลุงตู่และบิ๊กป้อม ย้อนกลับไปอีกด้านหนึ่งครับ หลังจากที่สี่กุมารรัฐมนตรีนะครับคนสนิท ดร.สมคิดเข้ามาบริหารพรรคในตำแหน่งหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคแล้วนะครับ

ก็ได้มีการขับเคลื่อนเอากลุ่มสามมิตรเข้ามาร่วมกับพรรค กลุ่มสามมิตรก็ประกอบไปด้วย สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และสมศักดิ์ ชัดเจนนะครับ ทั้งสองคนที่ปรากฏกายขึ้นมายังมีอีกหนึ่งมิตร ซึ่งทุกคนพุ่งเป้าไปที่ ดร.สมคิด หลังจากที่กลุ่มสามมิตรเข้ามาร่วมในพรรคพลังประชารัฐแล้วนะครับ สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นข่าวกระแสภายในก็คือ นายกลุงตู่ไม่มีความสบายใจ เพราะตนเองโจมตีหรือกล่าวหานักการเมืองน้ำเน่าเอาไว้เยอะ การเอากลุ่มสามมิตรเข้ามา ภาพพจน์ก็เป็นที่รู้กันว่าเป็นอย่างไร ตั้งแต่การร่วมทำงานกับทักษิณ ชินวัตร จนแยกออกมาตั้งพรรค ทำการเมืองเอง ไปหักคนโน้นหักคนนี้ ล้วนแต่ประวัติไม่ดี แต่จะด้วยบารมีของ ดร.สมคิดหรือไม่ก็ตามแต่

 

ท้ายที่สุดนะครับ สามมิตรก็เข้ามาสังกัดพรรคพลังประชารัฐอย่างเต็มภาคภูมิ และดูเหมือนว่าจะทำงานได้เป็นเนื้อเดียวกับผู้บริหารพรรคและเลขาธิการพรรคนะครับ พรรคพลังประชารัฐจึงเหมือนมีสองกลุ่มอยู่ในพรรคครับ ตรึงกำลังกันอยู่ นั่นก็คือ 4 อดีตรัฐมนตรีกับกลุ่มสามมิตร ส่วนอีกฝั่งหนึ่งก็คือสามขุนพล กปปส. บวกกับเสธ.นิมิต หมายถึงสายตรงของลุงตู่และบิ๊กป้อม ถ้าเป็นแบบนี้นี่นะครับบรรยากาศภายในพรรคท่านผู้ชมคิดว่าจะเป็นอย่างไร ก่อนการเลือกตั้งก็ไม่เท่าไหร่นะครับ เพราะมีความร่วมไม้ร่วมมือประสานกันที่จะช่วยให้ชนะการเลือกตั้ง แต่ปรากฏว่าหลังจากที่ผลการเลือกตั้งออกมาแล้ว สายของลุงตู่กับบิ๊กป้อมทำงานเข้าเป้านะครับ และจะเรียกว่าเกินเป้าก็เป็นไปได้ ไม่ว่าจะเป็นที่เหนือ กลาง กทม. และใต้ โดยเฉพาะ กทม. และใต้นั้นถือว่าเกินเป้า ส่วนที่อีสานล้มเหลวไม่เป็นท่านะครับ การต่อสู้ในภาคอีสานมันเหมือนกับเป็นกระดานหกนะครับ หากชนะในภาคอีสานก็จะทำให้เพื่อไทยลดที่นั่งลงนะครับ

แต่นี่ไปชนะที่กลาง ใต้ กทม. ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งต้องเรียกว่าเป็นพรรคแนวร่วมกลายๆนะครับ แม้อภิสิทธิ์จะประกาศว่าไม่เอาลุงตู่ก็ตามแต่ เสียงประชาธิปัตย์จึงลดลงนะครับ ความล้มเหลวในอีสานถูกพุ่งเป้าไปที่ใคร สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์หาเสียงภาคอีสาน เรียกว่าหน้าแตกนะครับ แต่บรรยากาศเหล่านี้ก็ยังไม่ปรากฎต่อภายนอกว่ามีความแตกแยกนะครับหรือแยกกันออกเป็นสองกลุ่มอย่างชัดเจน จนจะโหวตนายก ชัดเสียยิ่งกว่าชัด เพราะ สส.กลุ่มหนึ่งได้ไปประชุมกันก่อนจะโหวตนายก แล้วประกาศว่าตัวเองเป็นกลุ่มสามมิตรนะครับ ก็นำด้วยสมศักดิ์ สุริยะ นี่แหละครับ อ้างว่ามี สส.อยู่ในมือเกือบ 30 คน มีรายชื่อเรียบร้อย ถามว่าไปประชุมก่อนเลือกนายกเพื่ออะไร เพื่อต้องการแสดงพลัง เพื่อต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีหรือไม่ ปากบอกว่าไม่ แต่การไปประชุมก่อนนะครับไม่ว่าจะอ้างด้วยเหตุผลกลใดก็ตามแต่ โดยเฉพาะมาอ้างว่าเตรียม สส.ให้พร้อมก่อนการประชุม มันก็น่าจะเป็นการประชุมพรรค ไม่ใช่ประชุมกลุ่ม

จะด้วยข่าวนี้หรือไม่ก็ตามแต่นะครับ เราต้องมาติดตามและดูเนื้อหาจากหน้าสามของไทยรัฐ ซึ่งก็เป็นการวิเคราะห์ข่าวการเมือง เรียกว่าล้วงลึก มีข่าวลึก เฉียบคมล่ะครับ หน้าสามไทยรัฐก่อนหน้านี้เชียร์รัฐบาลลุงตู่มาโดยตลอดนะครับ จะเชียร์ด้วยเหตุผลกลใดจากภายในรัฐบาลก็ตามแต่ แต่ไม่น่าจะมาจากลุงตู่หรือบิ๊กป้อมแน่นอน เพราะถึงวันนี้นะครับหน้าสามไทยรัฐทิ่มแทงไปที่ 2 น. ซึ่งหมายถึงณัฐพล หรือเสธ.นิมิตรหรือไม่ก็ตามแต่ล่ะครับ แต่แน่นอนว่าเป็นการกระทบชิ่งไปยังนายกลุงตู่และบิ๊กป้อมนะครับ ในเนื้อหาข่าวดังกล่าวได้ระบุว่าบิ๊กป้อมได้พยายามโทรไปเคลียร์กับคนในพลังประชารัฐซึ่งถูกหักหลังโดย 3 ป. เดินเกมกับ 2 น. คนในพรรคพลังประชารัฐถามว่าสายที่โทรมานั้นประวิตร ประวิตรไหนเหรอ ถ้าเป็นแบบนี้ต้องถือว่ามันไม่ดูดำดูดีล่ะครับ

 

 คนที่ข่าวไทยรัฐระบุว่าคนที่บิ๊กป้อมโทรไปหานั้นจะเป็นสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจหรือไม่ ไม่มีใครรู้หรอกครับ แต่มันเคยมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นมาครั้งหนึ่งแล้วในสภา ดังนั้นนะครับวันนี้ไม่ต้องแปลความหรอกครับ มันหนักเสียยิ่งกว่าหนักในพรรคพลังประชารัฐ ลุงตู่จะอยู่กับพวกนี้แบบลิงพันแหต่อไปนะครับ ยิ่งมีปัญหายิ่งแก้ยิ่งพันไป ผมก็เรียนว่าเหมือนกับการใส่เสื้อติดกระดุมเม็ดแรกผิด มันก็ผิดไปทุกเม็ด วิธีแก้นะครับตั้งรัฐมนตรีในครั้งนี้อย่าสนใจพวกนี้ เอาคนที่มีภาพพจน์ เอาคนที่เป็นน้ำดีนะครับ ตั้งเป็นรัฐมนตรี อัปเปหิพวกนี้ออกไปจากพรรค แล้วก็เตรียมการยุบสภา ตั้งฐานให้ดี ทำให้ประชาชนเข้าใจว่าลุงตู่ตั้งใจอย่างไร จะมาสร้างพรรคใหม่สร้างพรรคที่ดีๆให้ประชาชนตัดสินใจเลือก วัดใจประชาชนไปเลย อยู่กับพวกนี้มีแต่ยิ่งพัง สวัสดีครับ

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

หมอพรทิพย์โพสต์ถึงใคร??? ใส่เสื้อเหลือง ขอโทษแก้ตัว

อุ๊จัดหนักคลิปช่อครั้งเป็นพิธีกร พูดถึงการหมอบคลานไทย

ถอดรหัสร้อนการเมือง!! “อนาคตใหม่” เปิดเกมส์ ล้ม 41 ส.ส.ถือหุ้นสื่อ ดูชัดๆข้อกม.ทำได้แค่ไหน เขย่ารัฐบาล ”บิ๊กตู่”??

มีเสียว??!!! ช่อ พรรณิการ์ หายต๋อมไปนาน หลังFBทำพิษ หากผิดจริยธรรม มีสิทธิ์หลุด ส.ส