น่าสนใจใคร่ครวญ! ไพศาลโพสต์ให้คิด สื่อโลกตีข่าวโทษรบ.ทั้งที่ไม่รู้ใครทำจ่านิวชี้ประเทศเสียหาย

จากกรณีนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว นักเคลื่อนไหวกิจกรรมทางการเมือง อายุ 27 ปี ถูกทำร้ายร่างกายอาการสาหัสย่านพระยาสุเรนทร์ ซึ่งน.ส.พัฒน์นรี ชาญกิจ หรือหนึ่งนุช "แม่จ่านิว" แจ้งว่า เมื่อเวลา 11.00 น.  สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ มีกลุ่มชายฉกรรจ์ จำนวน 4 นายรุมทำร้าย ที่หน้าปากซอยพระยาสุเรนทร์ ซอย 2 ทั้งนี้อาการได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยวินจักรยานยนต์รับจ้าง พบเห็นเหตุการณ์ และได้แจ้งกู้ภัยร่มไทร ก่อนจะนำตัวส่งโรงพยาบาลนวมินทร์ 1 และล่าสุดได้ย้ายมารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลมิชชั่นแล้วนั้น

 

ไพศาลโพสต์ให้คิด สื่อโลกตีข่าวโทษรบ.ทั้งที่ไม่รู้ใครทำจ่านิว

 

ต่อมาสำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่ง อาทิ เอพี เอเอฟพี รอยเตอร์ วอชิงตันโพสต์ ได้รายงานเหตุการณ์ดังกล่าวไปทั่วโลก โดย นางพัฒน์นรี ชาญกิจ มารดานายสิรวิชญ์ เปิดเผยกับเอเอฟพีว่า เชื่อว่ากลุ่มที่ทำร้ายจ่านิว เป็นกลุ่มเดิมกับที่เคยทำร้ายไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะจ่านิวไม่มีศัตรูที่ไหน ยกเว้นเรื่องการเมือง เพราะจ่านิวเป็นนักเคลื่อนไหวต้านรัฐบาล คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา

 

ไพศาลโพสต์ให้คิด สื่อโลกตีข่าวโทษรบ.ทั้งที่ไม่รู้ใครทำจ่านิว

 

 

 

ขณะที่วอชิงตัน โพสต์ และรอยเตอร์ รายงานว่า นางพัฒน์นรี ชาญกิจ มารดาของจ่านิว ได้เปิดเผยกับบรรดานักข่าวว่า จ่านิว บุตรชาย อายุ 27 ปี เพิ่งโทรศัพท์หาเธอเมื่อคืนวันพฤหัสฯที่ 27 มิ.ย.บอกว่ามีคนเตือนจะโดนทำร้ายอีก ก่อนวันรุ่งขึ้น บุตรชายจะถูกทำร้ายร่างกายจนหมดสติ ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยคณะแพทย์รู้สึกกังวลเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บที่ดวงตาของบุตรชายเพราะอาจกระทบต่อเส้นประสาทตา ซึ่งตอนนี้ บุตรชายลืมตาได้แล้ว แต่ยังไม่สามารถตอบสนองใดๆได้

 

ไพศาลโพสต์ให้คิด สื่อโลกตีข่าวโทษรบ.ทั้งที่ไม่รู้ใครทำจ่านิว

 

ล่าสุดวันนี้(29 มิ.ย.62) นายไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี(พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ถึงกรณีดังกล่าวด้วย โดยมีเนื้อหาที่น่าสนใจในการตั้งข้อสังเกตุดังนี้

 

ผมยึดมั่นในสันติวิธี

คัดค้านการสร้างความแตกแยก แตกความสามัคคีและความรุนแรง

กรณีการทำร้ายจ่านิวครั้งนี้ สะเทือนใจผู้คนจำนวนมาก เพราะเขาจะไปเรียนต่างประเทศอยู่แล้ว

 

ไพศาลโพสต์ให้คิด สื่อโลกตีข่าวโทษรบ.ทั้งที่ไม่รู้ใครทำจ่านิว

 

และที่สำคัญ ลุงตู่เดินทางไปประชุม สุดยอดผู้นำของโลกคือกลุ่ม g20 ที่โอซาก้า ไม่ควรจะให้เกิดเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น เพราะกระทบต่อชื่อเสียงของประเทศ และเกียรติภูมิความเชื่อมั่นของนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย เกิดความเสียหายต่อชาติบ้านเมืองโดยรวม

ไม่เห็นหรือว่า ทันทีที่มีข่าวนี้เกิดขึ้น องค์กรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศ ประสานเสียงกันก้องกระหึ่ม และกล่าวหารัฐบาล

ทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่าใครทำ!!!

ตั้งสติไตร่ตรองกันสักหน่อยก็อาจจะเห็นอะไรมากขึ้น

 

ไพศาลโพสต์ให้คิด สื่อโลกตีข่าวโทษรบ.ทั้งที่ไม่รู้ใครทำจ่านิว