พล่านขนาดนี้..จะให้เข้าใจว่างัย!! กรณี “ธนาธร” พาดพิงศาลรธน. ส่อปลุกระดมต้าน เตือนระวังไว้เลย ชะตากรรม “ทักษิณ” คือแบบอย่าง?

กลับมาเปิดปากพูดถึงคดีการถือครองหุ้นสื่ออีกรอบ สำหรับ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ด้วยเหลือเวลาไม่มาก จากกำหนดวันที่ 8 กรกฎาคม 2562 และศาลรัฐธรรมนูญไม่อนุญาตให้ขยายเวลาส่งเอกสารชี้แจงไปอีก 15 วันตามคำร้องขอ

 กลับมาเปิดปากพูดถึงคดีการถือครองหุ้นสื่ออีกรอบ  สำหรับ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ  หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่  ด้วยเหลือเวลาไม่มาก  จากกำหนดวันที่ 8  กรกฎาคม  2562  และศาลรัฐธรรมนูญไม่อนุญาตให้ขยายเวลาส่งเอกสารชี้แจงไปอีก 15 วันตามคำร้องขอ

 

เพียงแต่ครั้งล่าสุดนี้  ดูเหมือนว่านายธนาธร  ออกอาการชัดเจนว่า  หวั่นไหวในข้อกล่าวหาของกกต.   ตามคำร้องที่มีการยื่นไว้ โดย นายศรีสุวรรณ จรรยา   เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย  อยู่ไม่น้อย  แม้ว่าปากจะยืนยันไม่กังวล 

 

โดยการระบุว่าปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญ    คือ ถ้าส.ส.คนอื่นไม่ถูกตัดสินว่าผิด เพราะแค่จดทะเบียน ไม่ได้ทำสื่อจริง  กรณีของตนก็ต้องไม่ผิด  เนื่องจากบริษัทวี-ลัค มีเดีย  ที่ตนถือหุ้นสื่ออยู่หยุดทำสื่อ  ไม่มีพนักงาน  เนื่องจากมีการเลิกจ้าง  และเตรียมการปิดบริษัทไปตั้งแต่ 25 พฤศจิกายน  2561 แล้ว

 

ไม่เท่านั้นนายธนาธร ยังพูดถึงแนวโน้มคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญด้วยว่า  ถ้าทุกคนรอดหมด  ผมผิดคนเดียวก็จะทำให้ประชาชนตาสว่าง  เห็นองคาพยพในสังคมว่า องค์กรไหนหนุนการสืบทอดอำนาจของคสช.

พล่านขนาดนี้..จะให้เข้าใจว่างัย!! กรณี “ธนาธร” พาดพิงศาลรธน. ส่อปลุกระดมต้าน เตือนระวังไว้เลย ชะตากรรม “ทักษิณ” คือแบบอย่าง?

คงไม่ต้องอธิบายความว่าในสิ่งที่นายธนาธร  ต้องการจะสื่อสารกับสังคมหรือบรรดาแฟนคลับทางการเมืองของพรรคอนาคตใหม่ เพื่อจุดประสงค์อะไร

ย้อนกลับไปล่าสุด   นายธนาธร ก็เพิ่งไปพูดในช่วงจังหวะเข้าร่วมกิจกรรม "ดนตรีประชาธิปไตย 24 มิถุนา วันอะไร?"   แล้วพูดถึงกรณีนายสิรวิชญ์  หรือ จ่านิว  ว่า  จะต้องไม่ปล่อยให้เขาต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว 

นายธนาธร  เอ่ยพูดในบางช่วงบางตอนว่า  ถึงเวลาที่จะต้องมาเรียกร้องและรณรงค์นำคนผิดมาลงโทษ  แต่กรณีนี้จะทำไม่ได้เลยถ้าประชาชนไม่ให้ความสนใจ   จึงถึงเวลาแล้วที่ความสนใจของประชาชนกับการทำงานของพรรคการเมืองต้องประสานกัน เพราะต่างมีบทบาทหน้าที่  ไม่ให้เรื่องนี้ผ่านไป

แต่ไฮไลต์สุด ก็คือการที่นายธนาธรเปิดปากพูดว่า  เพื่อนร่วมอุดมการณ์ผม  ถูกทำร้ายจากการปฏิบัติการที่วางแผนมาดี แยบยล   ดังนั้นถึงเวลาที่ประชาชนจะต้องออกมายืนเคียงข้างกัน แสดงความสมานฉันท์กัน  ไม่อย่างนั้นอำนาจทมิฬเช่นนี้จะคอยคุกคามประชาชนอยู่เรื่อยไป  เราต้องลุกขึ้นแล้วบอกว่าพอได้แล้วกับการข่มขู่คุกคาม ใช้ความรุนแรงมากำจัดคนเห็นต่าง

พล่านขนาดนี้..จะให้เข้าใจว่างัย!! กรณี “ธนาธร” พาดพิงศาลรธน. ส่อปลุกระดมต้าน เตือนระวังไว้เลย ชะตากรรม “ทักษิณ” คือแบบอย่าง?

 

แน่นอนว่ากับคำพูดในลักษณะแนวๆ นี้  หลายคนคงคุ้นหู  เพราะได้ยินบ่อยครั้งมาก  ในช่วงเกิดเหตุการณ์ทางการเมือง  ในปี 2552 และ ปี 2553  กับสิ่งที่นายทักษิณ ชินวัตร ปลุกระดมให้คนเสื้อแดงออกมาชุมนุม  ต่อต้านรัฐบาลนายอภิสิทธิ์  จนสุดท้ายก็กลายเป็นเหตุเผาเมือง  มีกองกำลังชุดดำออกมาไล่ยิงทหาร และประชาชน

 

พล่านขนาดนี้..จะให้เข้าใจว่างัย!! กรณี “ธนาธร” พาดพิงศาลรธน. ส่อปลุกระดมต้าน เตือนระวังไว้เลย ชะตากรรม “ทักษิณ” คือแบบอย่าง?

 

พล่านขนาดนี้..จะให้เข้าใจว่างัย!! กรณี “ธนาธร” พาดพิงศาลรธน. ส่อปลุกระดมต้าน เตือนระวังไว้เลย ชะตากรรม “ทักษิณ” คือแบบอย่าง?

 

ถึงตรงนี้ไม่ต้องอธิบายซ้ำ ๆ ว่าทำไมเราจึงเชื่อว่า นายธนาธร หวั่นไหว กับผลการตัดสินคดีถือหุ้นสื่ออยู่ไม่น้อย แม้ปากจะว่าไปอีกแบบหนึ่ง

ประเด็นนี้น่าสนใจ  เพราะ  อ.ชูชาติ  ศรีแสง   อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ได้แสดงความเห็นเกี่ยวโยงกับหลักฐานทางกฎหมาย   ที่ถูกนำมาใช้ต่อสู้ทางคดี  จากสิ่งที่นายธนาธร   หยิบยกมากล่าวอ้างก่อนหน้า

......ไม่กังวล ว่ากันไปตามกระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญ ถ้า ส.ส.คนอื่นไม่ถูกตัดสินว่าผิด เพราะแค่จดทะเบียนไม่ได้ทำสื่อจริง ของตนก็ไม่ผิด เพราะบริษัทที่ตนถือหุ้นสื่ออยู่หยุดทำสื่อ ไม่มีพนักงาน เลิกจ้างเตรียมปิดบริษัทตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2561 แล้ว

......คำตอบของนายธนาธรดังกล่าว หมายความว่า  ผู้ที่ไม่เคยประกอบกิจการเกี่ยวสื่อเลยกับตนเองที่ประกอบกิจการสื่อและมีรายได้จากการทำสื่อ แต่หยุดไม่ได้พิมพ์หนังสือแล้วต้องได้รับการพิจารณาและผลการวินิจฉัยชี้ขาดของศาลรัฐธรรมนูญต้องเหมือนกัน

ตรรกะของนายธนาธรก็เปรียบเหมือนกรณีที่นายแดงกับนายเหลืองถูกฟ้องต่อศาลในข้อหาจำหน่ายยาเสพติด ข้อเท็จจริงได้ความว่านายแดงเป็นผู้จำหน่ายยาเสพติดในช่วง ปี 2559-2560 แต่นายเหลืองไม่เคยจำหน่ายยาเสพติดมาก่อนเลย ศาลต้องพิพากษาเหมือนกันคือถ้าลงโทษก็ต้องลงโทษทั้งสองคน ถ้ายกฟ้อง ก็ต้องยกฟ้องทั้งสองคน

แต่ประเด็นสำคัญต้องไม่ลืมว่า.....ก่อนหน้านี้นายธนาธรได้กล่าวตลอดมาว่า ตนเองได้โอนหุ้นของบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ให้นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ  ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2562

แต่ล่าสุดกลับอ้างเหตุว่าหยุดประกอบกิจการสื่อแล้ว  แสดงให้เห็นว่านายธนาธรสับสนเอาแน่นอนไม่ได้ว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรและจะสู้คดีอย่างไร เพราะความจริงเป็นอย่างไร นายธนาธรย่อมรู้อยู่แก่ใจตนเองแล้ว

 

พล่านขนาดนี้..จะให้เข้าใจว่างัย!! กรณี “ธนาธร” พาดพิงศาลรธน. ส่อปลุกระดมต้าน เตือนระวังไว้เลย ชะตากรรม “ทักษิณ” คือแบบอย่าง?

 

ชัด ๆ เลยประเด็นนี้  ถ้านายธนาธรมั่นใจว่าไม่ผิด  ก็ไม่ต้องออกอาการขนาดนี้  ไม่ต้องขอยืดระยะเวลายื่นหลักฐานครั้งแล้วครั้งเล่า แต่กรณีนี้มีสัญญาณว่าเจ้าตัวกังวล

ทั้งหมดก็ด้วยเหตุผลสำคัญ ว่าโอกาสที่นายธนาธรจะถูกตัดสินชี้มูลผิดมีสูง  และในกรณีถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามีความผิดตามข้อกล่าวหา  ผลกระทบทางการเมืองต่อหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ อาจจะถึงขั้นติดคุกติดตารางกันเลยทีเดียว

เริ่มต้นจากการที่สมาชิกภาพ ส.ส.ของนายธนาธรจะสิ้นสุด  ด้วยความผิดเรื่อง การต้องห้ามมิให้สมัครรับเลือกตั้ง  เป็น ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3)  คือ เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ

นอกจากนี้ในกรณีถ้าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยชี้มูลความผิด  นายธนาธรก็อาจถูก กกต. ดำเนินคดีตาม พรป.เลือกตั้ง มาตรา  151  ซึ่งบัญญัติว่า ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง   เนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกต้ังเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร  ได้สมัครรับเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 1  ปีถึง 10 ปี

และปรับตั้งแต่ 20,000  บาทถึง  200,000   บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนด 20 ปี

@ อย่างไรก็ตามไม่ว่าสุดท้ายกรณีการพิจารณาคดีการถือครองหุ้นสื่อของนายธนาธร  จะจบลงในรูปแบบไหน อย่างไร  สิ่งสำคัญสูงสุดคือการเคารพในกระบวนการยุติธรรม  ในทางตรงข้ามหากคำวินิจฉัยเป็นผลลบ แล้วนายธนาธรทำในสิ่งที่ทักษิณเคยทำไว้ ก็คอยดูกันต่อไปว่าอะไรจะเกิดขึ้น

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :


หม่อมเต่านาโพสต์ถึงธนาธร หรือเลือดและกงสีจะข้นกว่าน้ำลาย

บิ๊กตู่ไม่ใช่ตัวปัญหา !!! ธนกรจวกธนาธรมีอคติ เลิกใช้วาทกรรมสืบทอดอำนาจ

ธนาธรเคลื่อนไหวพูดถึงจ่านิว ฟังแล้วนี่ไม่ใช่ไฮปาร์คปลุกระดมใช่ไหม

อย่าว่าแต่นายกรัฐมนตรีเลย "ธนาธร" ความรู้ที่มีเป็นรัฐมนตรีช่วยยังไม่ได้เลย