นายปิยบุตร ยืนยันว่านายธนาธร ไม่มีหุ้นมาตั้งแต่แรกแล้ว โดยมีเอกสารยืนยันการโอนหุ้นที่ส่งให้ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เเละถึงเเม้จะมีการถือหุ้น

หลังจากครบกำหนดให้ยื่นหลักฐานประกอบการวินิจฉัยการถือครองหุ้นสื่อ อันเป็นความผิดตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ  มาตรา 98 (3)  ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่  

 

"ปิยบุตร" แจงยิบธนาธรถือหุ้นสื่อไม่ผิด  ร้องขอศาลรธน.ยกเลิกคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส.

 

ล่าสุดนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค ได้เปิดแถลงข่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการขั้นตอนการชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยระบุว่า สัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวลือว่าธนาธร เดินทางไปต่างประเทศเเล้วจะไม่กลับมานั้น ต้องขอชี้แจงว่าการเดินทางไปต่างประเทศในครั้งนี้ เป็นการเดินทางไปพักผ่อนกับครอบครัว

 

รวมถึงไปปฏิบัติหน้าที่ เพราะมีกำหนดการพบปะนักการเมืองเเละเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายประเทศในยุโรป และอีกหลายองค์กร ซึ่งตนยืนยันว่า นายธนาธร ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหลบหนีคดี เพราะยังมีภารกิจใหญ่รออยู่ คือความต้องการที่จะเปลี่ยนเเปลงประเทศไทยให้ดีขึ้นในอนาคต

 

 

"ปิยบุตร" แจงยิบธนาธรถือหุ้นสื่อไม่ผิด  ร้องขอศาลรธน.ยกเลิกคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส.

 

ส่วนเรื่องการต่อสู้คดี ภายหลังจากมีการขอขยายเวลายื่นชี้เเจง และศาลรัฐธรรมนูญขยายเวลาให้ 45 วัน   ช่วงบ่ายที่ผ่านมา  ( 8 ก.ค.) ทีมกฎหมายของพรรคอนาคตใหม่ ได้เดินทางไปยื่นเอกสารต่อศาลฯ เพื่อชี้แจงเเล้ว  ประกอบด้วยเอกสารชี้เเจงกว่า 70 หน้ากระดาษเเละเอกสารประกอบคำชี้เเจงอีกกว่า 200 หน้า โดยทางพรรคได้ขอให้ศาลนัดไต่สวนพยานเพิ่ม เเละขอให้พิจารณาแบบเปิดเผย รวมไปถึงขอให้ยกเลิกคำสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ของนายธนาธรด้วย
 

 

"ปิยบุตร" แจงยิบธนาธรถือหุ้นสื่อไม่ผิด  ร้องขอศาลรธน.ยกเลิกคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส.

 

 

นายปิยบุตร กล่าวเพิ่มเติมโดยการยกตัวอย่างกรณีของ นายดอน  ปรมัตถ์วินัย  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ  ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญใช้เวลาพิจารณาคดีถึง 417 วัน  พร้อมระบุว่าในส่วนของนายธนาธร ใช้เวลาทั้งหมดเพียง 53 วันเท่านั้น  

 

หากเปรียบเทียบกับกรณีนี้  เป็นไปไม่ได้ว่าคดีของนายธนาธรจะจบเร็ว ตนจึงขอเรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญ ใช้มาตรฐานเดียวกัน ซึ่งตนยืนยันจะต่อสู้ทุกประเด็น และย้ำว่ากกต.ไม่มีหน้าที่พิจารณาในส่วนของคดีนี้  รวมถึงกระบวนการพิจารณาของกกต.ก็ไม่ถูกต้อง เพราะไม่เคารพการฟังความของทุกฝ่าย  และไม่เปิดโอกาสให้เข้าไปชี้แจงเพียงพอ ทั้งที่มีผู้ถูกร้องไปเป็น 100 กว่าคน แต่มีเพียงนายธนาธรคนเดียวที่ถูกดำเนินคดี

 


ในช่วงท้ายนายปิยบุตร ยืนยันว่านายธนาธร ไม่มีหุ้นมาตั้งแต่แรกแล้ว โดยมีเอกสารยืนยันการโอนหุ้นที่ส่งให้ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เเละถึงเเม้จะมีการถือหุ้น เเต่ บริษัทวี-ลัค มีเดีย ที่ผ่านมาก็ไม่ได้ทำสื่อแล้ว เพราะตามสัญญา  บริษัททำหน้าที่เพียงรับจ้างการผลิต จากบริษัทนกแอร์  เเละเนื้อหาทั้งหมด บริษัท วีลัค ทำหน้าที่แค่พิมพ์ตามคำสั่งเท่านั้น  เเละนิตยสารฉบับสุดท้ายที่ผลิตคือปลายปี 2561 ที่ผ่านมา 


นอกจากนี้บริษัทวีลัค ยังได้มีการยกเลิกการจ้างพนักงานไปกว่า 140 ชีวิต ซึ่งเป็นการเเสดงว่าบริษัทเตรียมยกเลิกกิจการ  โดยมีหลักฐานชัดเจนจากการแจ้งไปที่ประกันสังคมว่าจะเลิกกิจการ ตั้งแต่สิ้นเดือนมกราคม 2562 ด้วย

 

"ปิยบุตร" แจงยิบธนาธรถือหุ้นสื่อไม่ผิด  ร้องขอศาลรธน.ยกเลิกคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส.

 

ดังนั้นตนจึงมั่นใจ ว่าคดีนี้มีข้อเท็จจริงชัด นายธนาธรไม่มีความผิดอย่างแน่นอน  และตนขอย้ำเรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญให้ใช้มาตราฐานเดียวกัน ตามหลักการพิจารณาความอย่างถูกต้อง  ส่วนทางด้านนายธนาธร เท่าที่ได้คุยกันก็ไม่ได้มีความกังวลใจอะไรในเรื่องนี้

 

 

"ปิยบุตร" แจงยิบธนาธรถือหุ้นสื่อไม่ผิด  ร้องขอศาลรธน.ยกเลิกคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส.