ด่วน! ศาลฏีกานัดพิพากษาแกนนำนปช.บุกบ้านสี่เสาฯหลังอุทธรณ์ยืนจำคุก

ด่วนถึงเวลาแล้ว! ศาลฏีกานัดพิพากษาแกนนำนปช.บุกบ้านสี่เสาฯหลังอุทธรณ์ยืนจำคุก

จากกรณีศาลอาญาอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล , นายวีระศักดิ์ เหมะธุลิน , นายวันชัย นาพุทธา , นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ( นปช.) , นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. , นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นพ.เหวง โตจิราการ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. เป็นจำเลยที่ 1-7 ในความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป กรณีนำขบวนผู้ชุมนุมไปยังบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เพื่อเรียกร้องกดดันให้ พล.อ.เปรม ลาออกจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 22 ก.ค.50

 

โดยคดีนี้ศาลชั้นต้น พิพากษาให้จำคุก นายนพรุจ จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 2 ปี 8 เดือน ส่วนนายวีระกานต์ , นายณัฐวุฒิ , นายวิภูแถลง และ นพ.เหวง จำเลยที่ 4-7 ให้จำคุกคนละ 4 ปี 4 เดือน และให้ยกฟ้อง นายวีระศักดิ์ และนายวันชัย จำเลยที่ 2-3 พร้อมให้ริบของกลางทั้งหมด ต่อมาจำเลยที่ 1 , จำเลยที่ 4-7 ยื่นอุทธรณ์ ส่วนจำเลยที่ 2-3 อัยการโจทก์ไม่ได้ยื่นอุทธรณ์

 

ศาลอุทธรณ์ พิพากษาให้จำคุก จำเลยที่ 4-7 ฐานเป็นผู้สนับสนุน ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ตามมาตรา 138 ให้จำคุกคนละ 1 ปี และฐานเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการ มั่วสุมตั้งแต่10 คนขึ้นไปฯ ตามมาตรา 215 วรรคสาม ซึ่งเป็นบทหนักสุด อีกคนละ 3 ปี แต่คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษ 1ใน 3 คงจำคุก จำเลยที่ 4-7 คนละ 2 ปี 8 เดือน ส่วน นายนพรุจ จำเลยที่ 1 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นจำคุก 2 ปี 8 เดือน ซึ่งภายหลังฟังคำพิพากษา นายวีระกานต์ , นายณัฐวุฒิ , นายวิภูแถลง และ นพ.เหวง จำเลยที่ 4-7 ได้มอบอำนาจให้ทนายความยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างฎีกา

 

ด่วน! ศาลฏีกานัดพิพากษาแกนนำนปช.บุกบ้านสี่เสาฯหลังอุทธรณ์ยืนจำคุก

 

 

 

ล่าสุดวันนี้(29 ก.ค.62)  ได้มีรายงานว่าวันที่ 31 ก.ค. นี้ ในช่วงเช้า ศาลอาญา ได้นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีชุมนุมล้อมบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เมื่อปี 2550 หมายเลขดำ อ.3531/2552 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายนพรุจ หรือนพรุฒ วรชิตวุฒิกุล แกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006, นายวีระศักดิ์ เหมะธุลิน, นายวันชัย นาพุทธา, นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.), นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช., นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. และ นพ.เหวง โตจิราการ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. เป็นจำเลยที่ 1-7

 

ในข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยมีอาวุธ โดยเป็นหัวหน้า หรือผู้มีหน้าที่สั่งการ, ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลังขู่เข็ญ และเมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้ผู้ที่มั่วสุมเลิกไปแล้วไม่เลิก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 วรรคสอง ,215 , 216 , 297 , 298ประกอบมาตรา 33 , 83 และ 91

 

ด่วน! ศาลฏีกานัดพิพากษาแกนนำนปช.บุกบ้านสี่เสาฯหลังอุทธรณ์ยืนจำคุก

 

กรณีเมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2550 แกนนำและแนวร่วม นปช. นำขบวนผู้ชุมนุมหลายพันคนจากเวทีปราศรัยเคลื่อนที่สนามหลวง ไปยังบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม เพื่อเรียกร้องกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งระหว่างเหตุการณ์ดังกล่าว ได้มีการต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลังขู่เข็ญ ซึ่งนายนพรุจ จำเลยที่ 1 ได้ใช้ไม้เสาธงตีประทุษร้ายร่างกาย ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ นามจันทร์เจียม เป็นเหตุให้กระดูกข้อมือแตกเป็นอันตรายสาหัส

 

ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษาเมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2560 แก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานฯ ตามมาตรา 138 วรรคสอง ให้จำคุกคนละ 1 ปี และมีความผิดฐานมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายโดยเป็นหัวหน้าสั่งการ ซึ่งเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก ตามมาตรา 215 วรรคหนึ่งและวรรคสาม, มาตรา 216 ประกอบมาตรา 83 ซึ่งเป็นการกระทำกรรมเดียว แต่ผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 215 วรรคสาม 1 กระทง ให้จำคุกคนละ 3 ปี รวมจำคุกคนละ 4 ปี แต่คำให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีอยู่บ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 4-7 คนละ 2 ปี 8 เดือน นอกเหนือจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ซึ่งในส่วนของนายนพรุจ จำเลยที่ 1 คงจำคุก 2 ปี 8 เดือน

 

หลังศาลอุทธรณ์พิพากษา ศาลอนุญาตให้ประกันตัวจำเลยทั้งห้า โดยตีราคาประกันคนละ 500,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขเดิมคือ ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่ได้รับอนุญาต

 

ด่วน! ศาลฏีกานัดพิพากษาแกนนำนปช.บุกบ้านสี่เสาฯหลังอุทธรณ์ยืนจำคุก