เปิดทุกปมความจริง คดียุบพรรค “อนาคตใหม่”  หลัง “ธนาธร-ปิยบุตร-ช่อ พรรณิการ์” ผนึกกำลัง...บลั๊ฟศาลรธน.??

เปิดทุกปมความจริง คดียุบพรรค “อนาคตใหม่” หลัง “ธนาธร-ปิยบุตร-ช่อ พรรณิการ์” ผนึกกำลัง...บลั๊ฟศาลรธน.??

@รอลุ้นกันแบบตามติด กับเส้นทางการเมืองของ  นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และพรรคอนาคตใหม่  เพราะโดนฟ้องคดีสำคัญ ๆ  ที่อาจทำให้เกิดปัญหา ทั้งกรณีการถือหุ้น บริษัทวี-ลัค มีเดีย  ซึ่งเป็นข้อห้ามตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ และอาจมีความเกี่ยวโยงกับความผิดทางอาญาได้  หากตรวจพบว่ามีการแก้ไขเอกสารเพื่อประโยชน์อย่างหนึ่งอย่างใดต่อกกต. รวมถึงมูลเหตุฟ้องร้องในเรื่องการยุบพรรค  ว่าด้วยความผิดเรื่องการล้มล้างการปกครอง

ทั้งนี้กับประเด็นของนายธนาธรและพรรคอนาคตใหม่  เพื่อความเข้าใจ  สนข.ทีนิวส์  ขอแยกเป็นทีละประเด็นดังนี้   เนื่องด้วย  นายปิยบุตร แสงกนกกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่  อ้างผ่านโครงข่ายข่าวสารส่วนตัว  ระบุใจความสำคัญว่า   กระแสข่าวยุบพรรคอนาคตใหม่มาจากไหน   เพราะขณะนี้มีเพียงคดีเดียวที่อยู่ในศาลรัฐธรรมนู ญ คือคดีที่กล่าวหาว่าพรรคล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

 

เปิดทุกปมความจริง คดียุบพรรค “อนาคตใหม่”  หลัง “ธนาธร-ปิยบุตร-ช่อ พรรณิการ์” ผนึกกำลัง...บลั๊ฟศาลรธน.??


"ช่วงนี้มีกระแสว่า  อนาคตใหม่  จะถูกยุบไปประชุมสภา ส.ส. จากพรรคอื่นก็พูดกับ ส.ส. เราว่าถูกยุบแน่ เพื่อไทยก็วิเคราะห์ว่าหากอนาคตใหม่ถูกยุบ จะถูกวิธีพิสดารตัด ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ออก ตอนนี้อนาคตใหม่ มีคดี 'อิลลูมินาติ' คดีเดียวที่ถูกร้องไปศาลรัฐธรรมนูญ และคดีนี้ก็ไม่มีบทให้ยุบพรรคด้วย เพราะอะไรจึงมีกระแสข่าวแบบนี้"  

 

 


สำคัญเลยถ้อยคำที่นายปิยบุตรเลือกใช้ ว่า   "ผมเชื่อมั่นว่าพรรคอนาคตใหม่จะไม่ถูกยุบ  ในที่ประชุม  ส.ส. ของเรา   ผมพูดเสมอว่า   ในทางกฎหมายก็สู้เต็มที่แต่ปากกาไม่ได้อยู่ที่เราเราไม่ใช่คนตัดสิน"    ถูกตั้งคำถามอย่างหนัก ว่าเข้าข่ายชี้นำหรือกดดันกระบวนการยุติธรรมหรือไม่??    

 

 


ขณะที่ลำดับความเกี่ยวกับคดีความของพรรคอนาคตใหม่  ก่อนหน้านั้น นายปิยบุตร   เคยสรุปปริมาณคดีของทั้งนายธนาธร  และพรรคอนาคตใหม่   ว่ามียอดรวมอยู่ที่  22  สำนวนคำร้อง   แต่มีเพียงคดีเดียวที่เข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินการของศาลรัฐธรรมนูญ  คือ  ข้อกล่าวหาว่าพรรคล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย  อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  

 

 


@แน่นอนว่ากับคำอธิบายของนายธนาธร  กรณีความเป็นรูปธรรมของการฟ้องเอาผิดกรณียุบพรรค จะว่าไปแล้วเป็นเรื่องถูกต้อง  แต่ไม่ใช่ถูกทั้งหมด เพราะยังมีคำร้องการกระทำผิดอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องอาจนำไปสู่การยุบพรรคได้

 

 

 


เริ่มต้นกับข้อมูลแรก  จากการที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเมื่อวันที่ 19  กรกฎาคม  2562   กรณี  นายณฐพร โตประยูร (ผู้ร้อง ) ได้ยื่นคำร้องเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่า การกระทำของพรรคอนาคตใหม่ ผู้ถูกร้องที่ 1. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่   ผู้ถูกร้องที่ 2. นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ผู้ถูกร้องที่ 3 และคณะกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ ผู้ถูกร้องที่ 4 เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่

 

 


และศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4   เห็นว่า ผู้ร้องได้ใช้สิทธิร้องต่ออัยการสูงสุด  เพื่อร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสองแล้ว แต่อัยการสูงสุดมิได้ดำเนินการภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอกรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสาม ที่ผู้ร้องจะยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ จึงมีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย แจ้งให้ผู้ร้องทราบ ส่งสำเนาคำร้องให้ผู้ถูกร้องทั้ง 4 ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง

 

 

 


@ถามว่าอะไรคือมูลเหตุที่ทำให้  นายณฐพร  เลือกตัดสินใจฟ้องยุบพรรคอนาคตใหม่ เพราะมีพฤติกรรมเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง  ตรวจค้นพบว่ามีรายละเอียดสำคัญ ๆ ดังนี้


ผู้ร้องเห็นว่าผู้ถูกร้องมีพฤติการณ์ กระทำ และมีแนวคิด ทัศนคติ  คลั่งไคล้  ปรัชญาตะวันตก  และเป็นขบวนการปฏิกษัตริย์นิยม ที่มองว่า การดำรงอยู่ของสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างที่เป็นมาโดยตลอด ในสังคมไทยไม่สามารถไปด้วยกันได้กับการเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

 

 

 


และจากการติดตามพฤติกรรมกลุ่มผู้ถูกร้อง ตั้งแต่ครั้งก่อตั้งเป็นกลุ่มนิติราษฎร์  จนมารวมตัวเป็นพรรคการเมือง  มีข้อสรุปว่ากลุ่มบุคคลเหล่านี้ มีแนวความคิดวัตถุประสงค์ที่จะล้มล้างระบอบการปกครองอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

 

 

เปิดทุกปมความจริง คดียุบพรรค “อนาคตใหม่”  หลัง “ธนาธร-ปิยบุตร-ช่อ พรรณิการ์” ผนึกกำลัง...บลั๊ฟศาลรธน.??

อาทิเช่น   1.กรณีการจดแจ้งชื่อจัดตั้งพรคต่อกกต. โดยใช้ชื่อว่าพรรคอนาคตใหม่ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2561  ผู้ถูกร้องไม่แสดงข้อความถึงการยอมรับว่า ประเทศไทยต้องมี "การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข" โดยใช้คำว่า "หลักประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ" แทน

 

เปิดทุกปมความจริง คดียุบพรรค “อนาคตใหม่”  หลัง “ธนาธร-ปิยบุตร-ช่อ พรรณิการ์” ผนึกกำลัง...บลั๊ฟศาลรธน.??

 


2.กรณีการตรวจพบว่าผู้ถูกร้อง หรือ นายธนาธร  เป็นนายทุนของเว็บไซด์และนิตยสาร "ฟ้าเดียวกัน" เจ้าของสื่อที่เน้นการเผยแพร่เนื้อหาโจมตี และลดความน่าเชื่อถือของสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างรุนแรงตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา   


รวมทั้งยังแสดงข้อความอีกหลายโอกาส ในลักษณะของการกระทำที่มิบังควรอย่างยิ่ง  ทั้งการหาเสียงว่าด้วยความจำเป็นต้องนำภารกิจของการปฏิวัติ 2475 ที่ทำไม่สำเร็จมาทำให้สำเร็จ  หรือ การกล่าวพาดพิงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นวาทกรรม   


@ต้องย้ำว่าบทคำพูดของผู้ถูกร้องถูกบันทึกไว้ในสำนวนคำฟ้องอย่างละเอียดทั้งเนื้อหา ช่วงเวลาที่เกิดขึ้น แต่ไม่จบเท่านั้น

โดยปรากฎในคำร้องยังมีการอ้างอิงถึงพฤติการณ์ว่าด้วยการการแสดงเจตนาบทบาทพระมหากษัตริย์  โดยประกาศเรื่องผลักดันให้ประเทศไทยลงนามรับรองธรรมนูญกรุงโรม ว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศ  


ซึ่้งผู้ร้องเห็นว่าผู้ถูกร้องมีเจตนา ต้องการลดความคุ้มกัน การปกป้องสถานะประมุขของประเทศ เนื่องจากธรรมนูญกรุงโรม มีสาระสำคัญว่าด้วยการใช้บังคับกฎหมายบุคคลทุกคนอย่างเท่าเทียม ไม่เว้นแม้กระทั่งสถาบันพระมหากษัตริย์  


@เหล่านี้เป็นบางส่วนที่มีการนำเสนอไว้ในสำนวนคำฟ้อง แต่ที่ผ่านๆมา นายธนาธร  พร้อมด้วยเครือข่าย และผู้สนับสนนพรรคอนาคตใหม่   หยิบฉวยเหตุผลบางข้อไปวิพากษ์วิจารณ์ กรณีคำฟ้องยุบพรรค ในลักษณะของการทำให้สังคมมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ


โดยเหตุผลประเด็นดังกล่าว ก็คือ การมองว่าสัญลักษณ์ของพรรคอนาคตใหม่ ที่มีลักษณะสามเหลี่ยมด้านเท่ากลับหัว  มีความเหมือนกับสมาคมอิลลูมิเนติ  ซึ่งก่อตั้งขึ้นที่เมืองอินกอลสตาดท์  ประเทศเยอรมนี  เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 1776  


และผู้ที่แสดแนวคิดดังกล่าวก็คือ  อดัม ไวส์ฮอพ ผู้ยึดถือปรัชญา ความคิดอิสระ ไม่ยึดติดกับความเชื่อเก่า  ว่าด้วยระบบการปกครองและศาสนา เพื่อก้าวสู่ยุคการปกครองใหม่  และเชื่อกันว่าสมาคมอิลลูมิเนติ  อยู่เบื้องหลังการปกครอง ด้วยระบบกษัตริย์ของหลาย ๆ ประเทศในทวีปยุโรป  รวมถึงการประกาศอิสรภาพของอเมริกาในปี ค.ศ. 1776 


ซึ่งจากหลักคิดดังกล่าว ก็นำตามมาด้วยการรณรงค์ให้เกิดความคิดในแง่มุมต่าง ๆ  เช่น การล้มเลิกการกราบไหว้ เคารพครูอาจารย์ตามประเพณี  ,  การล้มเลิกการยิ้มของคนไทย  , การเสนอแนวคิดยกเลิกการมอบกราบ โดยระบุว่าไม่ต้องหมอบกราบพระเจ้าองค์ไหน  เพราะพระเจ้าองค์เดียว ที่จะช่วยเราได้ในอุตสาหกรรม ระดับโลก คือ พระเจ้าแห่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


@ ต้องยอมรับว่าตามเนื้อหาคำฟ้องมีรายละเอียดที่ สนข.ทีนิวส์ไม่อาจมานำมาเสนอได้อย่างครบถ้วนทั้งหมด แต่นั่นคือหนึ่งสำนวนคำฟ้องที่ศาลรัฐธรรรมนูญรับวินิจฉัยแล้ว แต่ขณะเดียวกันก็มีอีกหลายคำร้อง  อาจเกี่ยวเนื่องกรณีการยุบพรรคที่อยู่ในชั้นการสอบสวนของหน่วยงานต่าง ๆ 

 
อาทิเช่น  กรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือต่อ กกต. เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2562  แสดงรายละเอียดว่าด้วย  เหตุสืบเนื่องจากการที่  นายธนาธร  แถลงข่าวโอนทรัพย์สินไปให้กองทุน หรือ  Trust เป็นผู้ดูแล  ซึ่งเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 73 (5) ในเรื่องการจูงใจ หลอกลวง ให้เข้าใจ ในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง สร้างประเด็นเพื่อให้เกิดความนิยมในตัวนายธนาธร

 

กรณี นายบุญถาวร ปัญญาสิทธิ์  ทนายความอิสระ  ยื่นคำร้องผ่าน กกต. เมื่อวันที่  8 มีนาคม   2562 ให้ยุบพรรคอนาคตใหม่   เนื่องจากการกระทำของนายธนาธร และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค มีพฤติการณ์เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย  อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  เพราะมีการใช้วาทกรรมว่าจะสานต่อภารกิจของคณะราษฎร  2475 ให้สำเร็จลุล่วง โดยไม่ได้ขยายความให้ชัดเจนว่าการสานต่อภารกิจนั้นรวมถึงการยังคงซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่หรือไม่

 

กรณี ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล  เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต. เมื่อวันที่  29 มีนาคม  2562 ให้ยุบพรรคการเมือง จากกรณีที่นายธนาธร  จึงรุ่งเรืองกิจ  ให้สัมภาษณ์วิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญ ผ่านการนำเสนอข้อมูล   ทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดว่าการดำเนินคดีกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  เป็นการกลั่นแกล้ง 
 

@เหตุกรณีข้างต้น  อ.ชูชาติ ศรีแสง   อดีตหัวหน้าผู้พิพากษาศาลฎีกา  เคยให้ความเห็นในเชิงข้อกฎหมาย  เพื่อแสดงข้อเท็จจริงอีกมุมด้านให้สังคมไทยได้เข้าใจหลักการที่ถูกต้อง หลังจากแกนนำพรรคอนาคตใหม่ดาหน้า ออกมากดดันศาลรัฐธรรมนูญว่าไม่มีอำนาจยุบพรรคตามคำร้องหรือข้อกล่าวหาใด ๆ ตามสาระสำคัญดังนี้


"นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และนางสาว พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ แถลงต่อสื่อมวลชนยืนยันว่าไม่มีบทกฎหมายใดที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำชี้ขาดให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ได้ .....นายปิยบุตรและนางสาวพรรณิการ์ลืมหรือแกล้งลืมเรื่องที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงิน 110 บ้านบาท ที่นายธนาธรและนางสาวพรรณิการ์เป็นผู้เปิดเผยต่อสื่อมวลเอง


เรื่องดังกล่าวนายศรีสุวรรณ จรรยา ได้ไปร้องต่อ กกต. เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2562 และ กกต.ได้มีหนังสือนัดนายศรีสุวรรณ ไปไต่สวน สอบสวนแล้ว เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2562   ขณะที่ตาม พรป.พรรคการเมือง 2560 มาตรา 62  ไม่อนุญาตให้พรรคการเมืองกู้ยืมเงิน ซึ่งเมื่อพรรคการเมืองกู้ยืมเงินไม่ได้ การที่นายธนาธรอ้างว่าให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินจำนวน 110  ล้านบาท ย่อมไม่อาจกระทำได้


จึงต้องถือว่าเงิน  110  ล้านบาท เป็นเงินที่นายธนาธรให้แก่พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งก็คือเป็นการบริจาคให้แก่พรรคอนาคตใหม่นั่นเอง  ทั้งนี้เป็นไปตามคำนิยามในมาตรา  4  ที่ว่า "บริจาค" หมายความว่า การให้เงินหรือทรัพย์สินแก่พรรคการเมือง

 

มาตรา 66  วรรคหนึ่ง ห้ามมิให้บุคคลใดบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมืองใด มีมูลค่าเกิน 10 ล้านบาทต่อปี  และวรรคสอง ห้ามไม่ให้พรรคการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดซึ่งมีมูลค่าเกิน 10 ล้านบาทต่อปี


การที่พรรคอนาคตใหม่รับเงินจำนวน 110  ล้านบาท ที่นายธนาธรมอบให้มาใช้ใช้จ่ายเพื่อดําเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าเป็นการรับเงินบริจาคที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะเกินจำนวนตามมาตรา 66 จึงเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืน มาตรา 72   

 

โดยมาตรา  72  ห้ามมิให้พรรคการเมืองและผู้ดํารงตําแหน่งในพรรคการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่า มีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย


ขณะที่มาตรา 92 เมื่อคณะกรรมการมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดกระทําการ อย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น ( 3 ) กระทําการฝ่าฝืนฯลฯ มาตรา 72  หรือมาตรา 74
เมื่อศาลรัฐธรรมนูญดําเนินการไต่สวนแล้ว มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองกระทําการตามวรรคหนึ่ง ให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมือง และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น

 

นอกจากนี้บทบัญญัติของพรป.พรรคการเมือง ให้อำนาจ กกต.ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้มีคำสั่งยุบพรรคการเมือง   และศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ได้ 


การที่นายปิยบุตรและนางสาวพรรณิการ์อ้างว่าไม่มีกฎหมายใดให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอนาคตใหม่ได้เพราะ ไม่รู้หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้   ถ้าศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ทั้งนายปิยบุตรและนางสาวพรรณิการ์ซึ่งเป็นกรรมการบริหารพรรคต้องถูกเพิกถอนสิทธิสมัครเลือกตั้งคือนอกจากจะสิ้นสมาชิกภาพการเป็น ส.ส.แล้วต้องถูกตัดสิทธิไม่ให้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ตลอดไปอีกด้วย

 

เปิดทุกปมความจริง คดียุบพรรค “อนาคตใหม่”  หลัง “ธนาธร-ปิยบุตร-ช่อ พรรณิการ์” ผนึกกำลัง...บลั๊ฟศาลรธน.??

 

คลิกอ่านข้อมูลประกอบ : รายละเอีดยคำร้องยุบพรรคอนาคตใหม่ 1  ,  รายละเอียดคำร้องยุบพรรคอนาคตใหม่ 2