ปปช.จับมือดีเอสไอ  ฟื้นคดีบิ๊กธรรมกาย นำเงินโกงสหกรณ์เล่นหุ้น  จับตา เช็คบิลผิดอาญา  “พระทัตตชีโว” !?

กลับมาเป็นข่าวใหญ่ทันที กับเหตุกรณีที่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ออกมาเปิดเผยว่ามี 2 คดีสำคัญ ได้รับมาจาก คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ให้ดำเนินการสืบสวน สอบสวน เพื่อจัดการกับผู้กระทำผิด และเกี่ยวข้องกับวัดธรรมกายอีกด้วย

กลับมาเป็นข่าวใหญ่ทันที  กับเหตุกรณีที่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ออกมาเปิดเผยว่ามี 2 คดีสำคัญ  ได้รับมาจาก  คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ  หรือ ป.ป.ช. ให้ดำเนินการสืบสวน สอบสวน  เพื่อจัดการกับผู้กระทำผิด  และเกี่ยวข้องกับวัดธรรมกายอีกด้วย

ทั้งนี้ประเด็นที่ถูกนำเปิดเผย ก็คือ  การให้ข้อมูลของ  พ.ต.อ.ไพสิฐ  วงศ์เมือง  อธิบดีดีเอสไอ   โดยการระบุว่า  ทางด้านป.ป.ช. มีมติให้ส่ง  2 สำนวนคดีฟอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น และเกี่ยวพันกับวัดพระธรรมกาย  มาให้ดีเอสไอดำเนินการ  ประกอบด้วย 1.คดีวัดพระธรรมกายและผู้บริหารสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น  นำเงินที่ได้รับจากวัดพระธรรมกาย  มาซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ  2 . คดีพระเผด็จ ทัตตชีโว หรือเผด็จ ผ่องสวัสดิ์ รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และรองประธานมูลนิธิธรรมกาย  มีส่วนช่วยเหลือพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย  ไม่ให้ถูกดีเอสไอเข้าตรวจค้นจับกุมตัวมาดำเนินคดีในข้อหาฟอกเงิน

 

DSI

 


โดยหลังจากนี้ดีเอสไอจะเร่งพิจารณามอบให้กองคดีใดเป็นผู้รับผิดชอบการสอบสวน   แต่เบื้องต้นเข้าใจว่าคดีของพระทัตตชีโว เกี่ยวพันกับหลายหน่วยงาน   อาจต้องประสานสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พ.ศ.)  ให้เข้าร่วมดำเนินการบางส่วนที่อยู่นอกอำนาจ   แต่ยอมรับว่าคดีดังกล่าวมีความละเอียดอ่อน   เพราะเกี่ยวข้องกับการที่พระทัตตชีโวถูกถอดสมณศักดิ์ไปก่อนหน้านี้ด้วย  


@ ประเด็นน่าสนใจ ก็คือ  นอกเหนือจาก 2  คดีล่าสุดที่ป.ป.ช.มีมติ ส่งเรื่องให้ดีเอสไอดำเนินการแล้ว  ตรวจสอบย้อนกลับไป   พบว่าคดีที่เกี่ยวเนื่องกับวัดธรรมกาย  ในความผิดชอบของดีเอสไอมีอีกถึง 27  คดี


ทั้งนี้จากข้อมูลของดีเอสไอ   คดีที่มีการร้องทุกข์กล่าวโทษวัดธรรมกาย  ,  บุคคลในวัดธรรมกาย  และ ประเด็นที่เกี่ยวโยงกับการทุจริต ภายในสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น จำกัด  ที่มี นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตผู้บริหารสหกรณ์ฯ กับพวก ตกเป็นจำเลย  ในมูลฐานกระทำความผิดฐานยักยอกทรัพย์  ฉ้อโกงประชาชน  


แยกเป็นคดีในความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งมีการสอบสวนเสร็จและส่งสำนวนคดีไปยังพนักงานอัยการแล้ว  จำนวน 12  คดี และมี  1 คดี  ที่เป็นอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และ อีก 10  คดีที่อยู่ระหว่างการสอบสวน  นอกจากนี้ดีเอสไอ  ยังรับผิดชอบสำนวนคดีอื่น ๆ   ทั้งในส่วนของ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร  ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ของสหกรณ์ฯ  จำนวน 27 ล้านบาทเศษ   เป็นคดีพิเศษที่  64/2557   โดยคดีนี้ศาลอาญาพิพากษาจำคุกนายศุภชัย  13 ปี  และ  ปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำบางขวาง

 

 

วัดธรรมกาย

 

ส่วนการติดตามตรวจสอบทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกง ดีเอสไอให้ข้อมูลว่ามีการดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว   299   รายการ   คิดเป็นมูลค่าประมาณกว่า 3,000 ล้าน และได้มีส่งมอบคืนให้กับสหกรณ์  เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น  เพื่อนำเข้าสู่แผนการฟื้นฟูกิจการไปแล้ว  โดยยังคงเหลือทรัพย์สินอยู่ระหว่างตรวจสอบอีกกว่า  1,000  ล้าน  

 

 

สรุปโดยรวมตั้งแต่ดีเอสไอเข้าไปรับผิดชอบดำเนินการ   มีคดีที่ผ่านขั้นตอนการสอบสวนโดยดีเอสเอสไอ  รวมทั้งสิ้น  27 คดี   สอบสวนเสร็จ 17 คดี  อยู่ระหว่างการสอบสวน 10 คดี    ประกอบด้วย   1. คดีพระธัมมชโยรับเช็คบริจาคในนามวัดและส่วนบุคคล  2. คดีนำเงินวัดธรรมกายไปซื้อหลักทรัพย์  3. คดีนำเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น  โอนให้พระลูกวัดนำไปซื้อที่ดินในจังหวัดต่างๆ และ  4.นำเงินสหกรณ์โอนเข้ามูลนิธิอุบาสิกาจันทร์หางนกยูง

 

พระธัมมชโย


@ ขณะที่ 2 สำนวนคดีล่าสุด  ซึ่งป.ป.ช.มีมติส่งเรื่องให้ดีเอสไอ  สืบสวนในเชิงลึกเพื่อนำไปสู่ตั้งข้อหาและนำผู้กระทำผิดมาลงโทษ  มีข้อมูลเดิมจากการสืบค้นที่น่าสนใจหลายประเด็น
   

 


ประเด็นแรกว่าด้วยการนำเงินจากวัดธรรมกาย  ที่เกี่ยวเนื่องกับ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น  ไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์   ก่อนหน้านี้   นายขจรศักดิ์  พุทธานุภาพ อัยการพิเศษสำนักการสอบสวน   ได้เคยให้ข้อมูลเรื่องการตรวจสอบข้อมูล พระทัตตชีโว หรือเผด็จ ทัตตชีโว  นำเงินวัดพระธรรมกายไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์  ว่า   จากเส้นทางธุรกรรมทางการเงิน  ในช่วงปี 2553-2559   พระทัตตชีโว  ในช่วงดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาส  ได้มีการนำเงินกว่า 1,000 ล้านบาท  ออกไปกระจายให้บุคคลและพระสงฆ์นำไปลงทุน 

 

 

 โดยปรากฎหลักฐานชัดเจนว่า  นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ได้โอนจากสหกรณ์เงินเครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด มาบริจาคเข้ามายังบัญชีวัดพระธรรมกายและพระธัมมชโย  ก่อนถูกส่งต่อไปให้พระสงฆ์และกลุ่มบุคคลต่างๆ 

 


ไม่เท่านั้นมีการแสดงข้อมูลลงลึกถึงขนาด ระบุชื่อ  นายสอง วัชรศรีโรจน์ หรือ เสี่ยสอง รวมอยู่ด้วย  เนื่องจากมีประเด็นเกี่ยวเนื่องว่าด้วย  เสี่ยสอง  มีน้องชาย ชื่อ พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ  ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย แต่ช่วงเวลานั้นไม่ได้มีการะบุว่าเงินจากสหกรณ์ฯที่ไหลกลับเข้าไปที่ พระทัตตชีโว  แล้วย้อนออกไปที่เซียนหุ้นอักษรย่อ  ส.    ใช่คนๆเดียวกับ เสี่ยสอง  นักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ชื่อดัง หรือไม่ 

 

ขณะที่รายงานข่าวของ "ฐานเศรษฐกิจ"   อ้างอิงข้อมูลของกระทรวงยุติธรรม  ระบุว่า   จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดพระธรรมกาย มีเช็คของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น  ที่นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น  นำมามอบให้ พระไชยบูลย์ สุทธิผล หรือ “พระธัมมชโย” วัดพระธรรมกาย ในช่วงระหว่างปี 2552 – 2555 มีจำนวน 13 ฉบับ เป็นเงิน 768.4 ล้านบาท จากเงินที่มีการยักยอกมาบริจาคให้วัดพระธรรมกาย  รวมทั้งสิ้นประมาณ  1,400 ล้านบาท

 


โดยปรากฏว่าในระหว่างปี 2553 – 2559  ผู้บริหารวัดพระธรรมกาย  ได้โอนเงินให้เจ้าหน้าที่การเงินกลุ่มหนึ่งนำไปเล่นหุ้น โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มอสังหาริม ทรัพย์ ในกลุ่มบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ฯ อาทิ เช่น หุ้นบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ฯ (HMPRO) หุ้นบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ฯ (LH) หุ้นบริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ฯ (AP) ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท เอพี (ไทยแลนด์)ฯ หุ้นบริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ปฯ (LHBANK)

 


นอกจากนี้ ยังแบ่งไปเล่นหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวพันกับนาย ส.   อาทิเช่น    หุ้นบริษัท อินเตอร์ แนชั่นเนิลเอนจีเนียริงฯ (IEC) ,  หุ้นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม เอ็มเอฟซีฯ (MFC) รวม 4.3 ล้านหุ้น คิดเป็น 3.5%  ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทที่ปรากฎรายชื่อเกี่ยวเนื่อง  มีการปรับราคาขึ้นสูงขึ้น   เช่น หุ้น  AP ราคาสูงสุดที่ 10.70 บาท  เมื่อ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556  ,   LH  สูงสุดที่ 14.10 บาท  เมื่อ วันที่ 18 มีนาคม 2556  , หุ้น  HMPRO ขึ้นไปสูงสุด 17.40 บาท เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2556  , หุ้น MFC ราคาสูงสุดที่ 58 บาท เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2556   

 

 


ขณะที่หุ้น  LHBANK ขึ้นไปสูงสุดที่ 2.28 บาท เมื่อ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2557  และ IEC  สูงสุดที่ 0.09 บาท ในวันที่ 28 ตุลาคม 2557

 

 

@ทั้งหมดนี้เป็นเพียงบางส่วนที่เจ้าหน้าที่รัฐ  ตรวจสอบพบว่าไม่ปกติของเส้นทางการเงินของวัดธรรมกาย ซึ่งได้รับการโอนมาจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น  เกี่ยวกับการนำเงินไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์   ซึ่งกำลังกลับมาเป็นประเด็นร้อนอีกครั้งในขั้นตอนปฏิบัติ 

 

 

เช่นเดียวกับกรณีพระทัตตชีโว  ที่กำลังถูกพิจารณาความผิด  ฐานมีส่วนช่วยเหลือพระธัมมชโย  อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย  ตรวจสอบพบว่า เป็นเหตุเกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดของ  พระธัมมชโย  ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ต้องหาหนีหมายจับถึง  12  คดีด้วยกัน    

 

 

ธรรมกาย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-นายกฯดึงDSIมาคุมเอง สั่งเข้าจัดการวัดพระธรรมกาย ล่าธัมมชโย
-สมศักดิ์ตอบแล้วภาพว่อนเป็นศิษย์ธรรมกาย ประกาศ ผิดติดคุกหมด
-ดีเอสไอทำไง ?? เมื่อ"สมศักดิ์" รมว.ยุติธรรมเป็นลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย ที่มีคดีค้างอยู่กว่าร้อย
-จริงหรือไม่ ? ธรรมกายใช้เงินบาปขยายอาณาจักรบุญ "หมอมโน" เปิดหมดเปลือก สู้คดียึดทรัพย์ ให้ตกเป็นของแผ่นดิน (คลิป)