กลายเป็นพรรคการเมืองที่ทำผิดซ้ำซาก จนเกิดการฟ้องร้องลงโทษต่อเนื่อง ขณะที่แกนนำพรรคอนาคตใหม่ เลือกสร้างกระแสผ่านสังคม วิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นฝ่ายถูกกระทำจากฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ท่ามกลางข้อคำถามว่าเหตุการณ์ต่าง ๆ พรรคอนาคตใหม่มีการพิจารณาถึงผลกระทบทางกฎหมายหรือไม่ อย่างไร

กลายเป็นพรรคการเมืองที่ทำผิดซ้ำซาก จนเกิดการฟ้องร้องลงโทษต่อเนื่อง  ขณะที่แกนนำพรรคอนาคตใหม่   เลือกสร้างกระแสผ่านสังคม    วิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นฝ่ายถูกกระทำจากฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง  ท่ามกลางข้อคำถามว่าเหตุการณ์ต่าง ๆ  พรรคอนาคตใหม่มีการพิจารณาถึงผลกระทบทางกฎหมายหรือไม่ อย่างไร 

ล่าสุดเหตุกรณีที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่  14 ธ.ค. ที่ผ่านมา  กับการจัดกิจกรรม แฟลช ม็อบ  ที่บริเวณ สกายวอล์ค  หน้าหอศิลป์  กรุงเทพมหานคร  โดยการชักชวนผ่านสื่อโซเชียล ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ  หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่  ปรากฎว่า    นายศรีสุวรรณ  จรรยา     เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย  เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต.  ขอให้มีการตรวจสอบว่า  การดำเนินการที่กระทำขึ้น  และมีนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค  รวมถึง น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค  

 

เข้าร่วมปราศรัยในเชิงปลุกระดม   เข้าข่ายเป็นการก่อกวน   คุกคามความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน  ขัดต่อมาตรา 45 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ มาตรา 45
ห้ามมิให้พรรคการเมืองหรือผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองกระทำการหรือส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ใดกระทำการอันเป็นการก่อกวนหรือคุกคามความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือกระทำการอันเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ  เป็นเหตุให้ กกต. เสนอศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาสั่งยุบพรรค ตามมาตรา 92 (3) หรือไม่  
 

 

ทั้งนี้ นายศรีสุวรรณ  ให้รายละเอียดด้วยว่า  การชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมา  เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายหลายฉบับ  เนื่องจากไม่ได้มีการขออนุญาตใช้พื้นที่  ตามข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ   รวมทั้งเข้าข่ายก่อความวุ่นวาย  ทำให้เกิดปัญหาการจราจร  สร้างความเดือดร้อนกับผู้ใช้ทางเท้าและสกายวอล์ค   ซึ่งเป็นการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116    อีกทั้งมีข้อมูลว่าสถานที่จัดกิจกรรม   อยู่ในรัศมี 150 เมตร จากวังสระปทุม  ที่มีข้อห้ามตามบทบัญญัติ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ

ฟ้องกกต.แล้ว สอบเอาผิด "แกนนำอนค."ฝ่าฝืนกม.ทำแฟลชม็อบ


“แม้การชุมนุมจะเป็นเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ  แต่พรรคอนาคตใหม่ และกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด เป็น ส.ส.ในสภา  สามารถที่จะนำความเดือดร้อน หรือปัญหาที่ตนเองเห็น  ว่ามีการแก้ไขไม่ถูกต้องไปเสนอต่อที่ประชุมสภาได้  แต่กลับไปใช้สิทธิในการชุมนุม  ไม่ปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด จึงเห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง  หากทำเช่นนี้ต่อไป ส.ส.หรือคนที่ไม่เห็นด้วยก็จะออกมาก่อม็อบทำให้บ้านเมืองเกิดความไม่สงบ  กระทบเศรษฐกิจบ้านเมือง” 

 

เหตุกรณึดังกล่าว  อ.ชูชาติ  ศรีแสง   อดีตหัวหน้าคณะผู้พิพากษาในศาลฎีกา    เคยให้ความเห็นเป็นประเด็นทางกฎหมาย  ไว้อย่างน่าสนใจว่า   "การชุมนุมของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือ กปปส. ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นผู้นำ

 

ปรากฎว่านายสุเทพได้ลาออกจาก ส.ส. และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ อาจมีคนสงสัยมีเหตุผลอะไร จึงต้องลาออก   เพราะนักกฎหมายของ ปชป. เกรงว่าการชุมนุมอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนพรป.พรรคการเมืองมาตรา 45 ซึ่งตาม พ.ร.ป. พรรคการเมืองปี 2550  บัญญัติไว้ในมาตรา 66

 


ขณะที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560     ในมาตรา 45 ห้ามมิให้พรรคการเมืองหรือผู้ดํารงตําแหน่งในพรรคการเมืองกระทําการ หรือส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ใดกระทําการอันเป็นการก่อกวนหรือคุกคามความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี ของประชาชน หรือกระทําการอันเป็นการทําลายทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ

 

เมื่อเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืน มาตรา 45   กกต.ก็ต้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้นตามมาตรา 92 

 

โดยตามมาตรา  92  เมื่อคณะกรรมการมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดกระทําการ อย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น  (3) กระทําการฝ่าฝืนมาตรา 20 วรรคสอง มาตรา 28 มาตรา 30 มาตรา 36 มาตรา 44 มาตรา 45 มาตรา 46 มาตรา 72 หรือมาตรา 74

 

 

กรณีการชุมนุมของ กปปส. จึงไม่มีใครยื่นคำร้องต่อ กกต. เพื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบ ปชป. เพราะนักกฎหมายของ ปชป. อ่านกฎหมายรู้ดูกฎหมายเป็นก่อนจะทำอะไรที่อาจจะมีผลถึงพรรค ก็จะไม่เสี่ยงและมีการป้องกันไว้ก่อน

 

 

แต่การที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ  หัวหน้าพรรค   และนางสาวพรรณิการ์ วานิช   โฆษกพรรคอนาคตใหม่   ชักชวนให้ประชาชนไปชุมนุมที่สกายวอล์ก หน้าหอศิลป์ ปทุมวันในวันที่ 14  ธันวาคม 2562  เวลา 17 ถึง 18  นาฬิกา   ถ้ามีบุคคลไปยื่นคำร้องต่อ กกต. ว่าเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนมาตรา 45  ขอให้ กกต.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อยุบพรรคอนาคตใหม่ตามมาตรา 92 (3)   นายธนาธรและนางสาวพรรณิการ์จะอ้างว่ามีสิทธิชุมนุมตามรัฐธรรมนูญมาตรา 44  ก็คงไม่ได้

เนื่องจากบทบัญญัติในมาตรา  44   เป็นการให้สิทธิแก่ประชาชนโดยทั่วไป แต่เมื่อบุคคลใดเป็น ส.ส. หรือมีตำแหน่งในพรรคการเมืองก็ต้องยึดถือปฏิบัติตาม พ.ร.ป.การเลือกตั้งและ พ.ร.ป. พรรคการเมืองด้วย

 

ฟ้องกกต.แล้ว สอบเอาผิด "แกนนำอนค."ฝ่าฝืนกม.ทำแฟลชม็อบ

ดังเช่นกรณีนายธนาธรกับพวก  ชักชวนประชาชนไปชุมนุม    เพราะไม่พอใจที่ กกต. มีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อยุบพรรคอนาคตใหม่  จากกรณีที่นายธนาธรให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงิน 191 ล้านบาทเศษ โดยที่ยังไม่รู้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำสั่งให้รับคำร้องของ กกต.ไว้พิจารณาหรือไม่ หากรับไว้พิจารณาจะมีคำชี้ขาดว่าอย่างไรก็ไม่อาจรู้ได้

 

ถ้าศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งไม่รับคำร้องของ กกต. หรือให้รับคำร้องไว้พิจารณา แต่พิจารณาแล้วมีคำวินิจฉัยให้ยกคำร้อง เรื่องก็ควรจบด้วยดี    แต่การนัดประชาชนไปชุมนุม  หากมีผู้ไปร้องต่อ กกต. ว่าเป็นกระทำที่ฝ่าฝืนมาตรา 45  และ กกต.มีมติเห็นด้วย จึงยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อยุบพรรคอนาคตใหม่อีก   นายธนาธร นายปิยบุตร และนางสาวพรรณิการ์ คงจะออกมาโวยว่ามีคนกลั่นแกล้งอีก 

 

แต่ถ้าเมื่อใดคิดได้ว่า   นักกฎหมายของพรรคอนาคตใหม่   อ่อนด้อยประสบการณ์ในการทำงาน ก็ควรไปปรึกษานักกฎหมายของ ปชป.   ส่วนที่มีพรรคการเมืองบางพรรคจะให้นักกฎหมายของพรรคมาช่วยนั้น ขอให้พิจารณาให้ดี เพราะพรรคการเมืองพรรคนั้นก็ถูกศาลรัฐธรรมนูญ  มีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคมาแล้ว

 

ประเด็นสำคัญ  อ.ชูชาติ  สรุปความเห็นไว้เพิ่มเติม  เพื่อติดตามข่าวสารความคืบหน้า  ด้วยว่า  "ฟังข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน กำลังดำเนินการตรวจสอบพยานหลักฐาน   เพื่อออกหมายเรียกนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และนางสาวพรรณิการ์ วานิช   ไปทราบข้อกล่าวหา.....แต่จะไม่ออกหมายเรียกนายปิยบุตร แสงกนกกุล เพราะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการชักชวนประชาชน

 

กรณีที่เกิดขี้นกับพรรคอนาคตใหม่ ถ้าพิจารณาถึงโอกาสที่จะถูกดำเนินคดีอาญา สำหรับนายธนาธร นายปิยบุตร และนางสาวพรรณิการ์   แต่นายธนาธรตกหนักที่สุด รองลงมาเป็นนางสาวพรรณิการ์ ส่วนนายปิยบุตรมีน้อยที่สุด
ด้วยนายปิยบุตรเป็นนักกฎหมายน่าจะรู้ดีว่าการกระทำอะไรผิดกฎหมายหรือไม่ อย่างไร จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่นายปิยบุตรรู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี"

 

ฟ้องกกต.แล้ว สอบเอาผิด "แกนนำอนค."ฝ่าฝืนกม.ทำแฟลชม็อบ