
นิพิฏฐ์ ฉีกหน้าศุภชัย ซัดแรงเป็นขี้ข้านักการเมือง จี้ภท.เร่งเคลียร์ปล่อยส.ส.กดบัตรแทนร่างพ.ร.บ.งบฯ 63
Publish 2020-01-21 10:33:14
จากกรณี นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงร้องเรียนเพื่อให้มีกระบวนการตรวจสอบ ว่า เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2563 ที่ผ่านมามีเหตุการณ์ ส.ส.กดบัตรแทนกันในช่วงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 วาระที่ 2 รายมาตรา สำหรับในรายของ นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย ที่เดินทางไปพื้นที่เพื่อร่วมกิจกรรมวันเด็ก แต่กลับทิ้งบัตรประจำตัวให้คนอื่นลงคะแนนแทน
(คลิกอ่านข่าวประกอบ : ปลาเน่าตัวเดียว!!! นิพิฏฐ์ แฉไม่ไว้หน้า ส.ส.พัทลุง ภูมิใจไทย ทิ้งบัตรคนกดแทน เจ้าตัวบินร่วมงานวันเด็ก ส่อ ทำร่างพ.ร.บ.งบฯ 63 เป็นโมฆะ) https://www.tnews.co.th/contents/521823
ขณะที่ นายฉลอง กล่าวยอมรับว่า ในวันดังกล่าวตนเองไม่ได้อยู่ในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร บางช่วงของการลงมติร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 เนื่องจากมีญาติเสียชิวิต 5 ศพ ต้องไปจัดการเรื่องศพ จากนั้นในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม ได้เดินทางไปร่วมงานวันเด็กที่ตำบลอ่างทอง อำเภอศรีนครินทร์ จังหวัดพัทลุง แต่ปกติไม่ได้เอาบัตรลงคะแนนกลับมาจากสภาผู้แทนราษฎร โดยจะวางไว้หรือเสียบค้างไว้ในห้องประชุม และตอนเย็นจะมีเจ้าหน้าที่มาเก็บ ซึ่งหลายครั้งที่ผ่านมาได้ไปเอาบัตรคืนจากเจ้าหน้าที่ ส่วนใครจะเสียบบัตรแทนหรือไม่ตนไม่ทราบ แต่ยืนยันว่าไม่ได้ฝากใคร หรือให้ใครเสียบบัตรกดลงคะแนนแทน
ล่าสุด นาย นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ก ว่า "ผมไม่ให้ค่า ไม่ให้ราคา ศุภชัย ใจสมุทร แห่งพรรคภูมิใจไทย นักกฎหมายบางคนใช้ความรู้ ความสามารถ เป็นขึ้ข้ารับใช้นักการเมืองชั่ว มีนักการเมืองบางคนกดบัตรแทนกันอีก อยากรู้ไหม ศุภชัย ใจสมุทร ไปเคลียร์ในพรรคคุณให้ดีว่า ยังมีใครกดบัตรแทนกันอีก"
พร้อมกันนี้ยังเรียกร้องให้พรรคภูมิใจไทย แสดงความรับผิดชอบมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะผลกระทบจากการลงคะแนนแทนกัน มีความเกี่ยวเนื่องกับร่างพ.ร.บ.ประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ซึ่งพรรคภูมิใจไทยแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการพา นายฉลอง ออกมาอธิบายรายละเอียดทั้งหมด เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาว่าจะมีทางออกอย่างไรบ้าง สำหรับในมาตราที่ไม่เป็นปัญหา ส่วนมาตราที่มีการกดบัตรแทนกันควรเร่งดำเนินการให้ถูกต้อง รวมถึงมีการดำเนินคดีอาญา ในกรณีที่มีการกระทำผิดเกิดขึ้นด้วย เพียงแต่ในชั้นนี้บุคคลผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด คงยังไม่ถึงขั้นสิ้นสมาชิกภาพส.ส. เนื่องจากต้องรอให้ศาลยุติธรรมวินิจฉัยความผิดออกมาก่อน
นอกจากนี้นายนิพิฏฐ์ ยังเรียกร้องไปถึงกกต .ถึงความล่าช้าของกระบวนการตรวจสอบปัญหาการทุจริตเลือกตั้งในพื้นที่ โดยเน้นย้ำว่ามีการร้องเรียนมานานแล้ว แต่ยังไม่เห็นความคืบหน้าในขั้นตอนการดำเนินการ ก่อนจะมาเกิดปัญหาซ้ำกับนักการเมืองคนเดียวกัน