สืบเนื่องจากประเด็นร้อนว่าด้วยนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พยายามจะนำธงดำขึ้นสู่ยอดเสาธงชาติ ภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงความไม่เหมาะสมในพฤติกรรม การแสดงออกในลักษณะดังกล่าว

สืบเนื่องจากประเด็นร้อนว่าด้วยนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  พยายามจะนำธงดำขึ้นสู่ยอดเสาธงชาติ  ภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงความไม่เหมาะสมในพฤติกรรม การแสดงออกในลักษณะดังกล่าว 

 

ช่อ พรรณิการ์ ซัดกลับกระแสสังคม ตีไข่ใส่สี จุดชนวนล่าแม่มด

 

(คลิกอ่านข่าวประกอบ :  รองฯต่อ โพสต์เตือนสตินิสิต นศ. อย่าเอาธงชาติมาล้อเล่น

ล่าสุด   น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่  ได้แสดงความเห็นในกรณีดังกล่าวว่า  เรื่องนี้ส่วนตัวคิดว่าน่ากลัวมาก เพราะมีการตีไข่ใส่สีต่างๆนานา  ทั้งที่ข้อเท็จจริงแล้วไม่มีการปลดธงชาติเพราะธงชาติถูกเชิญลงจากยอดเสาแล้ว ในช่วงหลังเวลา 18.00 น.  จากนั้นน้องนิสิต นักศึกษา จึงจะนำธงดำขึ้นยอดเสา  แต่ก็มี รปภ. เข้าไปห้าม  สุดท้ายแล้วจึงไม่ได้มีการนำธงดำขึ้นยอดเสา  ซึ่งตัวน้องนิสิตก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร

 

ช่อ พรรณิการ์ ซัดกลับกระแสสังคม ตีไข่ใส่สี จุดชนวนล่าแม่มด


"แต่เหตุที่เกิดขึ้นกลับมีการไปเสริมแต่งกันว่า  มีการนำธงชาติลงมาแล้วเปลี่ยนเป็นธงดำ  ดังนั้นอย่าให้ข้อเท็จจริงถูกข้ามไป อย่าให้การล่าแม่มดเกิดขึ้นสมัย 6 ต.ค. เพราะว่าไม่อยากให้พลังบริสุทธิ์ของนักศึกษาต้องกลายเป็นพลังถูกข้ามไปอีกครั้ง"


ก่อนหน้านั้น   น.ส.พรรณิการ์  ได้เข้าพบ พนักงานสอบสวน บก.ปอท. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหากรณีโพสต์เฟซบุ๊ก “Pannika Chor Wanich” เมื่อวันที่ 21 พ.ย.2556 ระบุว่า  “เห็นประโยคนี้แล้วโดน ต้องเอามาแชร์ ประเทศไทยปกครอง โดยระบอบประชาธิปัยต์ อันมี….อาวุธ” ซึ่งเป็นการกระทำที่เข้าข่าย กระทบความมั่นคง  และเป็นความผิด ตาม  พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 

 

ช่อ พรรณิการ์ ซัดกลับกระแสสังคม ตีไข่ใส่สี จุดชนวนล่าแม่มด

โดย น.ส.พรรณิการ์  ระบุว่า  การมารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก ตนขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา​  ส่วนการโพสต์แสดงความคิดเห็นดังกล่าวจะไม่ขอพูดถึง​  เนื่องจากเข้ากระบวนการยุติธรรมแล้ว​ แต่ตนขอยืนยันว่าเป็นการแสดงออกตามสิทธิเสรีภาพ​อันได้รับการคุ้มครองตามหลักรัฐธรรมนูญ​  โดยเฉพาะคนหนุ่มสาว นิสิต​นักศึกษา  ​ที่แสดงความคิดเห็นต่าง ซึ่งเวลากำลังถูกคุกคาม​ กำลังถูกล่าแม่มด​  ถูกชี้เป้าเสียบประจาน​  ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้า​ เพราะเวลาประชาชนแสดงความไม่พอใจต่อสภาพสังคม​ หรือการทำงานของรัฐบาล ย่อมเป็นการแสดงออกโดยสิทธิเสรีภาพ  ​ 

 


สิ่งที่รัฐบาลต้องทำ​คือควรรับฟังความเห็นต่างว่าเกิดจากอะไร  ​เพื่อทำให้สังคมเดินไปข้างหน้าได้ นอกจากนี้ ตนตั้งคำถามกับตัวเองว่าหากเราไม่เดินเข้าสู่เส้นทางการเมือง​ จะมีคดีความต่างๆเกิดขึ้นกับตัวเองหรือไม่​ โดยตนมีคดีอยู่ประมาณ​ 7​ คดี​ เป็นคดีพ.ร.บ.คอมฯ​ 1 คดี​ นอกนั้นเป็นคดีหมิ่นประมาท​ และคดีร่วมชุมนุมที่สกายวอล์ค

 

ช่อ พรรณิการ์ ซัดกลับกระแสสังคม ตีไข่ใส่สี จุดชนวนล่าแม่มด


ส่วนคดี​ 1MDB​ จุดประสงค์ที่ออกเปิดเผย ก็เพื่อต้องการให้รัฐบาลตอบคำถามกับประชาชน​  แต่ที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศ​  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ​ ยังไม่ได้ตอบคำถามตน​ ส่วนสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง​ (สตม.) ก็ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับคดีดังกล่าว ส่วนกรมราชทัณฑ์ระบุว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ทั้งนี้ คดี 1MDB เป็นสิทธิของคนไทยที่ต้องรับรู้ว่ารัฐบาลกระทำการอะไรบ้างกับคดีอื้อฉาวระดับโลก

 

 


ทั้งนี้หลังเข้าพบ พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท.  น.ส.พรรณิการ์  เปิดเผยว่า เบื้องต้นถูกแจ้งข้อกล่าวหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2)  กรณีการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ  น่าจะทำให้ตื่นตระหนก และกระทบต่อความมั่นคง โดยตนปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและขอให้การเป็นเอกสารเพิ่มเติม  ส่วนผู้ที่มาแจ้งความตนมาจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ คุณบุษราคัม เอี่ยมสะอาด  ซึ่งการแสดงข้อความที่ตนโพสต์  เพลงยาวพยากรณ์กรุงศรีอยุธยา ประมาณ 6-7 ปีก่อนและถูกอ้างว่าเป็นภัยคุกคามประเทศ  แต่ตนมองว่าภัยคุกคามคือการไม่ให้แสดงความคิดเห็นอย่างสุจริตมากกว่า

 

ช่อ พรรณิการ์ ซัดกลับกระแสสังคม ตีไข่ใส่สี จุดชนวนล่าแม่มด

 

ขณะเดียวกันกับการที่มีผู้วิจารณ์  การทำหน้าที่ของรปภ.จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ทางด้านเพจเฟสบุ๊ค "ปราชญ์ สามสี"  ได้โพสต์แสดงความเห็น ว่า  "จากกรณีที่  ผศ.ดร.วาสนา วงศ์สุรวัฒน์ อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ พี่สาวจอห์น วิญญู จี้จุฬาฯจัดการรปภ.ปล่อยคลิปละเมิด "นิสิตธงดำ"   โดยระบุว่า  "กรณีธงดำที่จุฬาฯ  สิ่งที่ควรจะถามมากกว่า  คือมหาวิทยาลัยจะมีมาตรการอย่างไรในการจัดการกับ รปภ. ที่แอบถ่ายคลิปนิสิตแล้วไปออกสื่อที่มาตัดต่อลงข่าวปลุกปั่น   ให้สังคมเข้าใจผิดและนิสิตตกอยู่ในอันตราย ลูกหลานเรายังปลอดภัยอยู่มั้ยในมหาวิทยาลัยที่ รปภ. มาละเมิดเด็กเสียเอง"


เรื่องนี้คงต้องวิเคราะห์ต่อกรณี นี้ คือ

1. นี่เป็นการแอบถ่ายหรือ? จริงๆแล้วนี่เป็นการถ่ายคลิปตามหน้าที่ การเฝ้าเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ และการเปิดเผย สู่สาธารณะเป็นเรื่องของการชี้แจงข้อเท็จจริง นี่จึงไม่ใช่การแอบถ่ายแน่นอนครับ

 

2.คลิปนี้ทำให้ผู้ถูกถ่ายเสียหาย? เรื่องวิเคราะห์ อย่างนี้ว่าพฤติกรรม ของผู้ถูกถ่าย เป็นเรื่องที่ยอมรับของสังคมหรือไม่? ถ้าไม่เหมาะสมก็ย่อมเสื่อมเสียเป็นปรกติ แต่มิใช่เพราะการถูกถ่าย แต่เสื่อมเสียเพราะพฤติกรรมที่ทำตรงหน้า(ชักธงดำ) นั้นแหล่ะครับ ยิ่งมองว่าเป็นการประจาน ยิ่งเท่ากับยอมรับว่าการกระทำตรงนั้นเป็นเรื่องผิดครับ

 

3.รปภ. คุกคาม นิสิตจนเกิดความอันตราย? เรื่องนี้ถ้าเราดูคลิปให้ดี ให้ชัด ..นิสิตคนนี้ๆ แทบจะร้องโหยหวน ช่วยด้วยๆ ในทันทีที่ ผู้ชายคนนึงเข้าไป รั้งธงดำที่เธอถืออยู่ (หน้าจะเป็นอาจารย์ดูจากการแต่งกาย)

 

ทั้งๆที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแสดงตัวด้วยความสุขภาพอยู่ในระยะ สองช่วงแขนไม่ได้เป็นผู้ปะทะโดยตรง อีกทั้งคอยตักเตือนนอสอตด้วยคำสุภาพว่าการกระทำที่นิสิตกระทำอยู่ไม่เหมาะสม .... นิสิตเองยังตอบโต้โดยการตะคอกว่า สิ่งที่ตนทำนั้นเหมาะสม ทำได้....

 

ตรงนั้นไม่มีการทำร้ายร่างกาย ไม่มีบาดแผล เทปเกิดขึ่นเป็นเพียงการบันทึกสถานะการณ์เพื่อเป็นหลักฐานในการทำงาน เป็นเรื่องปรกติที่สามารถเปิดเผยได้ ... มิใช่การประจาน ...แต่การกระทำของนิสิตคนๆนี้เป็นการประจานตนเองเท่านั้นครับ

 

เรื่องนี้จึงไม่ตรงกับที่ ทางผศ.ดร.วาสนา วงศ์สุรวัฒน์ อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ พี่สาวจอห์น วิญญู ได้กล่าวไว้ว่า รปภ. คุกคามนิสิต...จนทำให้เกิดอันตรายใดๆครับ

 

งานนี้ ขอให้กำลังใจ กับ รปภ. ที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพครับ  และเพราะเทปนี้ เป็นครื่องยืนยันหลักฐานได้เป็นอย่างดีครับ
 

 

ช่อ พรรณิการ์ ซัดกลับกระแสสังคม ตีไข่ใส่สี จุดชนวนล่าแม่มด