ย้อนอดีต ช่อ พรรณิการ์ เคยโดนฟ้อง ม.112 หมอวรงค์ ซัดหญิงโกหก ไม่รู้ควรเรียกอะไร

สืบเนื่องจากการที่   "ช่อ พรรณิการ์ วานิช"  แกนนำคณะก้าวหน้า  และ อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่   ออกมาเคลื่อนไหวในโลกโซเชียล  บิดเบือนคำพูดของ   พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม   กรณีแสดงความเป็นข้อกังวล  ว่าด้วยพฤติการณ์ของกลุ่มบุคคล ที่ยังคงกระทำการก้าวล่วงสถาบันเบื้องสูงอย่างต่อเนื่อง   โดยการหยิบยกกรณีการหายตัวไปของ   นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์  แอดมินเพจ  “กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ” มาปลุกระดมให้เกิดความเข้าใจผิด   ทำให้ อ.  อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการด้าน ประวัติศาสตร์  ต้องออกมาแสดงความเห็นในเชิงตอบโต้  ขยายความเป็นจริงจากกรณีเกิดขึ้น  "พวกคุณเรียกร้องสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็น  หรือสิทธิ์ในการหมิ่นประมาทผู้อื่น โดยเฉพาะการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ กันแน่ เอาให้แน่ อย่าหมกเม็ด"

 

(คลิกอ่านข่าวประกอบ :  อ.อัษฏางค์ ซัดตรง ช่อ พรรณิการ์ บิดเบือน สวมรอยเชียร์เลิก ม.112 ) 

ล่าสุด  นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม   ประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.)  ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก   แสดงความเห็นในประเด็นเดียวกันว่า  ท่านนายกพูด   "ทรงพระเมตตาไม่ให้ใช้มาตรา112"  แต่ช่อกับไปโพสต์ "เป็นที่รู้กันมานานว่ากม.นี้มีปัญหา ถูกใช้ละเมิดเสรีภาพในการแสดงความเห็นของประชาชน"  แค่นี้ช่อก็มาบิดเบือนอีกแล้วว่า ม.112 ถูกใช้เพื่อละเมิดเสรีภาพของประชาชน

 

ความจริงแล้ว ช่อน่าจะรู้กฎหมายนะ เมืองไทยนั้นมีสิทธิและเสรีภาพเต็มที่ น่าจะอันดับต้นๆ ของโลก เห็นต่างได้เต็มร้อย แต่ไม่ให้ จาบจ้วง หมิ่นประมาท  ผมไม่เห็นมีประชาชนคนไหนเดือดร้อนกับการแสดงความเห็นเลย เพราะทุกคนต้องระมัดระวัง การไปกระทบผู้อื่น มีพวกท่านเท่านั้นแหละ ที่ชอบไปก้าวล่วงและพูดว่า  ถูกจำกัดเสรีภาพ โดยมีต่างชาติช่วยไปขยายผล  เรื่องแบบนี้ใครเขาก็รู้ว่า พวกท่านคิดอะไรอยู่ ที่สำคัญ การเป็นนักการเมืองต้องไม่โกหก บิดเบือนนะ ผู้ชายโกหกบิดเบือนเขาเรียก"กะล่อน" แต่ถ้าเป็นหญิง ไม่รู้ว่าควรจะเรียกอะไรดี ???
#save112

ขณะที่ นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ  โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก  ในทำนองเดียวกัน  ว่า  ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์ว่า​ ในหลวงทรงมีพระเมตตาที่จะไม่ให้ลงโทษคนที่จาบจ้วงตามมาตรา​ 112​ นั้น  ไม่เกินคาดหมาย​ นักกิจกรรม​ นักเคลื่อนไหว​ นักการเมืองที่มีจิตใจฝักใฝ่ต่อต้านสถาบันฯ​ โดดงับทันทีเสนอให้ยกเลิกมาตรา​ 112

 

เตือนความจำนะ​ รัฐธรรมนูญมาตรา​ 2 ประเทศไทยมีการปกครองประชาธิปไตย​ มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข​ มาตรา​ 6 พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ​ ผู้ใดจะละเมิดมิได้   ชัดเจนนะ​ พ่อแม่ของทุกคนเป็นที่เคารพสักการะ​ คงไม่มีใครด่าพ่อด่าแม่ตัวเองนะ​ ใครด่าพ่อด่าแม่ตัวเอง​ นับว่าเป็นลูกที่เลว​ อกตัญญู

 

 

แม้แต่ประธานาธิบดีสหรัฐ​ ยังมีกฏหมายคุ้มครองเลย​ เด็กชาวอังกฤษส่งเมล์แจกของชำร่วยโอบามา​ ยังถูกสั่งห้ามเข้าสหรัฐตลอดชีวิตเลย   มาตรา​ 112​  เปรียบเสมือนเกราะกำบังมิให้ผู้ใดล่วงละเมิดองค์พระประมุข​ หากอยากจะยกเลิกมาตรา​ 112​ เราคงต้องยกเลิกกฏหมายหมิ่นประมาทก่อน​ ให้ด่าใครก็ได้​ ให้ร้ายใครก็ได้​  ใครจะเสียหายอย่างไรก็ช่าง​ ไม่มีความผิด​ แล้วค่อยมาคิดยกเลิกมาตรา​ 112

 

สำหรับกรณีพฤติกรรมของ "ช่อ พรรณิการ์ "   ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่  13 มิ.ย. 2562   นายเตชะ หรือเต้ ทับทอง กลุ่มหนึ่งร้อยตัวแทนทำดีเพื่อพ่อ และ น.ส.ซินเธีย เอี่ยมสะอาด ไฮโซแกนนำกลุ่มคนไทยผู้รักชาติ พร้อมกลุ่มผู้สนับสนุนร่วม 10 คน  ได้เคยแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.พรรณิการ์ (ช่อ) วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ กรณีโพสต์ภาพที่หมิ่นเหม่ว่าจะเข้าความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112  กับเจ้าหน้่าที่ตำรวจ   กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) 

 

หลังจากพบว่า "ช่อ พรรณิการ์"  เคยมีการโพสต์ภาพและข้อความที่เกี่ยวเนื่องกับสถาบันเบื้องสูง จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงความไม่เหมาะสม  ขณะที่เจ้าตัวอ้างว่า  สถานการณ์ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่การเมืองไทยน่าจะอยู่ในช่วงที่เข้มข้นร้อนแรงและค่อนข้างมืดมนที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทยในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา

ส่วนเรื่องการโพสต์ภาพถ่ายสถาบันเบื้องสูงที่อาจเข้าข่ายล่วงละเมิด  ช่อ  พรรณิการ์  อ้างว่า แล้วแต่การตีความ  “ขออภัยอีกครั้งหนึ่งนะคะว่าภาพนี้ทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจ ช่อเองก็ไม่สบายใจอย่างยิ่งที่ภาพนี้ก่อให้เกิดบทสนทนาที่ไม่ค่อยสร้างสรรค์ขึ้น โดยเฉพาะในโซเชียลมีเดียมีการใช้วาทะสร้างความเกลียดชัง ไม่เป็นผลดี เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เราไม่สบายใจแล้วก็ขอโทษที่ทำให้มีบทสนทนาที่ไม่สร้างสรรค์เกิดขึ้นในสังคมขณะที่บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าแบบนี้ อดีตเป็นเรื่องของอดีต ปัจุบันเป็นเรื่องของปัจจุบัน การตัดสินในเรื่องปัจจุบันคือสิ่งที่วิญญูชนทำกัน”