นายกฯตู่ ยันรัฐบาลยังเหนียวแน่น เอ่ยซึ้งพร้อมเป็นสะพาน ให้คนไทยก้าวข้าม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา   นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม  กล่าวภายหลังเป็นประธาน  ในพิธีเปิด “สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา” ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อการเดินทางสัญจรระหว่างฝั่งธนบุรีกับฝั่งพระนคร พร้อมจุดชมวิวกลางแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี  ,  พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย  ,  นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม  ,  พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. และนางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกทม. เข้าร่วมในพิธีด้วย

โดยพล.อ.ประยุทธ์  ระบุว่า  ดีใจที่ได้มาเห็นหน้าเห็นตาทุกคนในวันนี้  ถือเป็นโอกาสแรกที่ได้ออกมานอกพื้นที่   เพราะก่อนหน้านี้จำเป็นต้องดูแลแก้ปัญหาโควิด-19  รวมทั้งมีหลายงานที่ต้องขับเคลื่อน จึงไม่ได้ออกมาข้างนอกมากนัก  แต่จากนี้พยายามออกมาเยี่ยมเยืยนให้มากขึ้น    "ทุกคนทราบดีว่า วันนี้เกิดสถานการณ์อะไรขึ้นในบ้านเมืองของเรา  มีคนลำบากเดือดร้อน   แต่ตนเดือดร้อนไม่น้อยกว่าทุกคน โดยเฉพาะความร้อนใจว่าจะแก้ไขปัญหากันอย่างไร   จนวันนี้สถานการณ์ดีขึ้น  รัฐบาลก็จะผ่อนผันต่อไปเรื่อยๆ  แต่ยังระมัดระวังการแพร่ระบาดรอบสอง จะเป็นปัญหามากกว่าเดิม  ด้วยจะเกิดการแพร่กระจายเร็วกว่าเดิม จึงขอโทษด้วยถ้าทำให้ใครเดือดร้อน  แต่อย่างน้อยสิ่งที่เกิดคือความร่วมมอร่วมใจระหว่างรัฐและประชาชน ถือเป็นครั้งแรกประวัติศาสตร์ที่ทุกคนร่วมมือกันและเชื่อฟังกฎหมาย ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงอะไรก็ต้องใช้กฎหมายเป็นหลัก" 

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์  ยังกล่าวว่า  ช่วงนี้ขอให้ทุกคน"รวมใจไทยสร้างชาติ"  โดยเอาสิ่งที่มีอยู่แล้วหรือการนำของเดิมมาทำให้ดีที่สุด    แล้วช่วยตรวจสอบรับผิดชอบร่วมกัน   ซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุน  แม้แน่นอนความคิดเห็นอาจไม่ตรงกันก็เป็นธรรมดา แต่ทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน  นั่นคือกลไกของประชาธิปไตย  เช่นเดียวกับโครงการนี้ซึ่งเป็นการรวมสองฝั่งเชื่อมเป็นบางกอก และตนก็เคยเป็นคนฝั่งธนฯ บางขุนเทียน  วันนี้จึงดีใจที่ได้ทำโครงการขึ้นมา ในฐานะพวกเราเป็นรัฐบาล อีกทั้งในวันหน้าก็จะเพิ่มการท่องเที่ยวทางน้ำมากขึ้น  "วันนี้หลายอย่างเกิดขึ้นแต่หลายคนนึกไม่ถึง  มีรถไฟฟ้าและถนนหลายเส้น วันหน้าจะมีมากกว่ารนี้ ขอให้ฟังสิงดีๆที่เกิดขึ้นบ้าง จะได้เป็นกำลังซึ่งกันและกัน เป็นกำลังใจให้ตนและรัฐบาล"

พล.อ.ประยุทธ์  กล่าวเพิ่มเติมว่า  ขอบคุณทุกคนที่ร่วมมือกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมา 1 ปี  ทุกอย่างกำลังเดินหน้าไปด้วยความเรียบร้อยและสานต่อสิ่งที่วางไว้ตามยุทธศาสตร์ชาติ  ส่วนข้างล่างเป็นแผนงานที่ตามมา  วันนี้เมื่อเจอโควิดมีคนบอกให้ปรับแผนข้างล่าง และหลายคนบอกยุบไปเลยเพราะไม่ได้ใช้  แต่เนื่องจากยุทธศาสตร์ชาติเป็นเหมือนสะพานพาไปสู่ที่หมายอนาคต ใน 10-20 ปีข้างหน้า  ดังนั้นขอให้ไว้ใจไม่ว่ามาจากรัฐบาลไหนอย่างไรก็ตาม  แต่ทุกรัฐบาลมีหน้าที่ดูแลประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ โดยได้รับความไว้วางใจจากประชาชน จึงต้องสื่อสารกับประชาชนให้มากขึ้น ส่วนเรื่องการตรวจสอบเราผ่านการเลือกตั้งกันมา คนตัดสินคือกระบวนการยุติธรรมตนไม่ก้าวล่วง

จากนั้นในช่วงท้าย  พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า   "วันนี้รายได้และภาษีก็ลดลง  ทำให้งบฯก็มีปัญหา แต่ยืนยันรัฐบาลจะแก้ไขและต้องดูความถูกต้อง ซึ่งกลไลตรวจสอบก็มีอยู่แล้ว  ขอบคุณที่ไว้ใจมาถึงวันนี้และหวังว่าจะได้รับความไว้วางใจต่อไป ยืนยันว่าพรรคร่วมรัฐบาลมีความร่วมมือกันอย่างดีทุกพรรค  ไม่ว่าจะพรรคพลังประชารัฐ  ,  ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์และพรรคเล็กๆ ยังเข้มแข็งกันดี บางคนฟังข่าวอาจไม่สบายใจ  แต่ข่าวก็คือข่าว ฟังได้ แต่จะเชื่อหรือไม่เป็นเรื่องของทุกคน ฝากขอบคุณทุกคนและฝากใจนายกฯ ไว้กับทุกคนด้วย ถ้าจำได้ตนเคยแต่งเพลงสะพาน ซึ่งต้องเป็นสะพานเชื่อมโยงเข้าหากัน ตนพร้อมให้เหยียบข้ามไป นั่นคือหน้าที่ของตน"

จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์  ได้นำโทรศัพท์มือถือมาเปิดเพลง"สะพาน"ให้ชาวบ้านฟัง  พร้อมร้องคลอตาม และกล่าวว่า "นี่เป็นแรงบันดาลใจของผม จากจิตใจของผม และคิดว่าวันนี้จิตใจของครม.และข้าราชการทุกคนเป็นดวงเดียวกัน คือทำเพื่อประชาชน อะไรไม่ดีต้องแก้ไข อะไรคิดนอกกรอบก็ต้องคิด  ปรับจูนแก้ให้ตรงกันทำให้ได้  ถ้าทำไม่ได้ก็บอกเหตุผล  ถ้าชนกันแบบเดิมไม่มีอะไรทำได้  ต้องคิดว่าทำอย่างไรคนจะมีบ้าน มีชีวิตดีขึ้น  ซึ่งทุกอย่างคือยุทธศาสตร์ชาติที่มีขั้นตอนอยู่แล้ว กลไกประชาธิปไตยเป็นแบบนี้  คิดล้มรื้อสร้างใหม่วันเดียวมันไม่ได้ เราเป็นมา 80 กว่าปีแล้ว วันนี้รวมไทยสร้างชาติ สัญญากับผมได้หรือไม่ ขอบคุณและให้กำลังใจทุกคนด้วย ให้กำลังใจตัวเองขอให้โควิดหมดสิ้นไปเร็วๆ"