ด่วนล่าสุด ศาลไม่อนุญาตประกันตัว ไมค์ ภาณุพงศ์ -เอกชัย คดีร้ายแรง แต่อุทธรณ์กลับ เพนกวิน-รุ้ง ปนัสยา

สืบเนื่องจากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการจับกุมตัว  นายภาณุพงศ์ จาดนอก  หรือ  ไมค์     ตามหมายจับศาลอาญา 2 สำนวน  ในความผิดฐานยุยุงปลกปั่นให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 เเละข้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมฯ  ประกอบด้วยการร่วมกันจัดกิจกรรม   ทวงอำนาจคืนราษฎร ในวันที่ 19 ก.ย.  2563 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และพื้นที่ท้องสนามหลวง แขวงพระบรมมหาราชวังเขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

พร้อมกันนี้พนักงานสอบสวนได้ยื่นฝากขังอีก 1 สำนวน ในความผิดฐานร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, แก้ไข เปลี่ยนแปลง ต่อเติม ทำลายโบราณสถานหรือส่วนต่างๆ ของโบราณสถาน โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากอธิบดี จากกรณีเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2563 ที่นายภาณุพงศ์ พร้อมกับกลุ่มผู้ชุมนุม ได้ทำพิธีปักหมุดคณะราษฎร โดยนำหมุดมาฝังลงบนพื้นที่ท้องสนามหลวง
 

ล่าสุดศาลอาญาได้พิจารณาคำร้องขอประกันตัวผู้ต้องหา  หลังจากให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาทั้ง 2 สำนวน  โดยพนักงานสอบสวนได้ยื่นคัดค้านเนื่องจาก  การสอบสวนคดีนี้ยังไม่เสร็จสิ้น   โดยต้องทำการสอบสวนพยานเพิ่มเติมอีก 6 ปาก  , รอผลการตรวจพิสูจน์ลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร และผลการตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา มาประกอบสำนวนการสอบสวน พนักงานสอบสวนจึงขอฝากขังผู้ต้องหานี้ไว้ระหว่างการสอบสวนมีกำหนด 12 วัน นับแต่วันที่ 19 -30 ต.ค. 2563

 

 

โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว ระบุด้วยว่า      เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติการณ์จะไปชุมนุมก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองในลักษณะเดิมเหมือนที่ผ่านมา และผู้ต้องหาอยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีอยู่หลายคดีและหลายท้องที่ ซึ่งล้วนเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูงหากให้ประกันตัวไป เกรงว่าผู้ต้องหาน่าจะหลบหนี   ศาลพิจารณาแล้วไม่อนุญาตให้ประกันตัวนายภานุพงศ์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯต่อไป
 

ขณะเดียวกันศาลอาญายังได้มีการพิจารณาคำร้องขอประกันตัว    นายเอกชัย หงส์กังวาน    ผู้ต้องหาคดีร่วมกันพยายามกระทำการประทุษร้ายต่อเสรีภาพพระราชินี ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวเป็นสลากออมสิน มูลค่า 1 ล้านบาท ภายหลังจากที่พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ได้ยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกผู้ต้องหาไปเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2563 แต่ผู้ต้องหายังไม่ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว

 

โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า  พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง คดีมีอัตราโทษสูง อีกทั้งยังกระทบต่อความมั่นคงและสังคมโดยรวม ประกอบกับพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการให้ประกันตัว กรณีน่าเชื่อว่า หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาแล้ว อาจไปก่อให้เกิดความไม่สงบ ยุยงส่งเสริมให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมือง หรือก่อเหตุร้ายประการอื่น ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ให้ยกคำร้องของผู้ต้องหา   ไม่อนุญาตให้ประกันตัว  ทำให้นายเอกชัยยังต้องถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในชั้นฝากขังนี้ต่อไป  โดยการฝากขังครั้งแรกจะครบวันที่  28 ต.ค. 2563

 

รวมถึงมีรายงานว่า   ศาลอุทธรณ์ยังกลับคำศาลชั้นต้น  ให้ประกัน   น.ส.ปนัสยา หรือรุ้ง สิทธิจิรวัฒนกุล  ,   นายณัฐชนน หรือ  ณัฐช ไพโรจน์ และ นายพริษฐ์  ชิวารักษ์  หรื  เพนกวิน    หลังโดนจับกุมตัวตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี  ในความผิดหลายข้อหาตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากกรณีจัดการชุมนุม ที่ลานพญานาค ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และกิจกรรมที่ต่อเนื่องเกี่ยวพันกัน ระหว่างวันที่ 27 ก.ค.-10 ส.ค. 63

โดย    ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน  ระบุว่า  " คำสั่งศาลอุทธรณ์ให้ปล่อยตัวชั่วคราว เพนกวิน-รุ้ง-ณัฐชนน วงเงิน 2 แสนบาท  แต่วางเงินประกันไม่ทันเ  นื่องจากธุรการประกันตัวปิดทำการแล้ว จึงต้องทำเรื่องยื่นประกันในวันพรุ่งนี้  ( 20 ต.ค. ) 

 

ขณะเดียวกัน   ศาลอุทธรณ์  ยังได้พิจารณาอนุมัติประกันตัวผู้ต้องหา  กลุ่มประชาชนคณะราษฎรอีสาน  รวม 19 คน  โดยตีราคาประกันคนละ 2 หมื่น หลังทนายยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่ให้ประกันของศาลแขวงดุสิต  โดยศาลมีเงื่อนไขห้ามกระทำการให้เกิดความวุ่นวาย หรือกระทำการอันเป็นการละเมิดต่อกม. ให้รายงานตัวทุก 2 สัปดาห์ 

ประกอบด้วย นายวชิรวิชญ์ ลิมป์ธนวงศ์ ผู้ต้องหาที่ 1 , นายปริญญ์ รอดระหงษ์ ผู้ต้องหาที่ 2 , นายปวริศ แย้มยิ่ง ผู้ต้องหาที่ 3 , นายฐิติสรรค์ ญาณวิกร ผู้ต้องหาที่ 4 , นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์   หรือ  แอมมี่ the bottom blues ผู้ต้องหาที่ 5  , นายวันชัย สุธงสา ผู้ต้องหาที่ 6  , น.ส.วรางคณา แสนอุบล ผู้ต้องหาที่ 7 , นายนันทพงศ์ ปานมาศ ผู้ต้องหาที่ 8  , นายทวีชัย มีมุ่งธรรม ผู้ต้องหาที่ 9  ,นายเมยาวัฒน์ บึงมุม ผู้ต้องหาที่ 10 ,นายธนกฤต สุขสมวงศ์ ผู้ต้องหาที่ 11  , นางเพ็ญศรี เจริญเณรรักษา ผู้ต้องหาที่ 12  , น.ส.อภิชญา เพิ่มพงษ์พิพัฒน์ ผู้ต้องหาที่ 13 , นายมุสิก ผิวอ่อน ผู้ต้องหาที่14 , นายภักดี ศรีรัตอำไพ ผู้ต้องหาที่ 15  , นายนวพล ต้นงาม ผู้ต้องหาที่ 16 ,นายกิตติภูมิ ทะสา ผู้ต้องหาที่ 17, นายทรงพล สนธิรักษ์ ผู้ต้องหาที่ 18 , และนายจิรวัฒน์ รูปใหญ่ ผู้ต้องหาที่ 19

 

หลังจากโดนแจ้ง 10  ข้อหา ประกอบด้วยความผิดฐาน 
1.ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ประมวลกฎหมายอาญา
2.ฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกันในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ฝ่าฝืนหรือไม่ปฎิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ พ.ร.บ.ฉุกเฉิน มาตรา 9/ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3.ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะ จนอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัยหรือความสะดวกในการจราจร โดยวางหรือทอดทิ้งสิ่งของหรือโดยกระทำด้วยประการอื่นใด ประมวลกฎหมายอาญา
4.ร่วมกันวาง ตั้ง ยื่น หรือแขวนสิ่งใดส่งหนึ่ง หรือกระทำด้วยประการใดๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร พ.ร.บ.จราจราทางบก 
5.ร่วมกัน ตั้ง วาง หรือกองวัตถุใดๆบนถนน พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535
6.ร่วมกันขูด กระเทาะ ขีด เขียน พ่นสี หรือทำให้ปรากฏด้วยประการใด ๆ ซึ่งข้อความ ภาพ หรือรูปรอยใดๆ บนถนน พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 7.ร่วมกันใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ประมวลกฎหมายอาญา
8.ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ประมวลกฎหมายอาญา 
9.ทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจที่มีกฎหมายให้ไว้ ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้น โดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควร ประมวลกฎหมายอาญา 
10.ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ พ.ร.บ.ควบคุมโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ.2493

 

Lazada ยกขบวน ระเบิดราคา ลดกระหน่ำกว่าหนึ่งแสน รายการ สูงสุด 90%