พุทธะอิสระ เตือนธนาธรกับพวก ไม่หยุดดึงฟ้าต่ำ คงเจออีกหลายคดี ท้าไม่ผิดฟ้องกลับได้ไม่มีปัญหา

"อดีตพระพุทธะอิสระ" สวนทันควัน แกนนำคณะก้าวหน้า โอดโดนขุดพฤติกรรมอดีต นำฟ้องผิดอาญา ม.116 ลั่นมีสิทธิ์สงสัย ท้าไม่ผิดแจ้งความกลับได้ ตามมวิถีประชาธิปไตย

สืบเนื่องจากการที่กลุ่มแกนนำคณะก้าวหน้า เดินทางรับทราบข้อกล่าวตามคำร้องของอดีตพระพุทธอิสระ ผู้ก่อตั้งวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม  ต่อมาปรากฎว่าในเพจเฟซบุ๊กของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล  เลขาธิการคณะก้าวหน้า นำมาโพสต์ไว้เช่นเดียวกัน  โดยมีใจความบางช่วงระบุถึงคดีดังกล่าว กรณีนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตพระพุทธอิสระ  กล่าวหาพวกตนทั้ง 3 ก็อยากทราบเหมือนกันว่า ข้อความใดเข้าตามมาตรา 116 และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งความได้อย่างไร
 

ทั้งนี้นายปิยบุตร ระบุด้วยว่า  คำร้องทุกข์กล่าวโทษ เป็นการกล่าวอ้างข้อเท็จจริงการกระทำของพวกเราหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะกรณีการเอาบทความ หนังสือ งานวิชาการ ตั้งแต่สมัยที่ตนเป็นอาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์   รวมถึงข้อมูลบรรยายในห้องเรียนที่ถูกเชิญไปพูดในวิชา TU101   ไปจนถึงการโพสต์ในเฟสบุ๊คที่สนับสนุนการแก้ไขปัญหาวิกฤตการทางการเมือง และการนำข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมทั้ง 3 ข้อ รวมไปถึงการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ เอาเข้ามาคุยกันในพื้นที่ปลอดภัย ในรูปแบบของการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษา  

ขณะที่ในส่วนของธนาธร ก็เป็นเรื่องของวารสารฟ้าเดียวกัน โดยที่ไม่ได้เป็นกองบรรณาธิการอะไร   เพียงแต่เป็นผู้ร่วมก่อตั้งเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว รวมไปจนถึงเรื่องงบประมาณสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ธนาธรได้ชี้แจงและบรรยายว่ามีปัญหาและข้อท้วงติงอย่างไร ส่วนของพรรณิการ์ก็เป็นเช่นเดียวกัน ที่ถูกเชื่อมโยงเข้าข้อกล่าวหาจากการไลฟ์เฟซบุ๊คในที่ชุมนุม

พุทธะอิสระ เตือนธนาธรกับพวก ไม่หยุดดึงฟ้าต่ำ คงเจออีกหลายคดี ท้าไม่ผิดฟ้องกลับได้ไม่มีปัญหา

"ถ้านำเรื่องทั้งหมดมาแจ้งข้อกล่าวหานั้นจะเป็นผลเสียอย่างมาก เพราะจะหมายความว่า การอภิปราย การพูดถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ในแง่ทางวิชาการ ทั้งในแง่ความหวังดีและปรารถนาดี อาจจะเข้าข่าย มาตรา 116 ได้หมดตามความคิดของคุณสุวิทย์ หมายความว่าหากจะพูดถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ต้องพูดเหมือนคุณสุวิทย์และพวกอย่างนั้นหรือ ถึงจะไม่เข้าข่ายความผิด มาตรา 116 เพราะถ้าพูดแบบอื่นสุ่มเสี่ยงที่คุณสุวิทย์จะมองว่าเข้าข่าย 116 หมดเลย กลายเป็นว่าความพยายามที่พวกเราจะหาทางออกในวิกฤตการณ์ครั้งนี้ ด้วยการใช้กลไกของรัฐสภา สร้างพื้นที่ปลอดภัยของนักศึกษาได้นั่งพูดคุยกัน กลับเข้าข่ายความผิดตามความคิดของคุณสุวิทย์ 

และสิ่งหนึ่งที่ผมกังวลใจมากไปกว่าเดิมก็คือ การที่คุณสุวิทย์เอาเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์แบบนี้แล้วมาแจ้งความ ไม่เป็นคุณต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เลย ตรงกันข้ามจะทำให้เรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ จะต้องเอาไปสู้กันในศาล เพราะหากอัยการสั่งฟ้อง ผมก็ต้องไปสู้ในศาลและอธิบายว่าการอภิปรายของผมนั้น ไม่ได้เป็นการยุยงปลุกปั่น ไม่ได้เป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เพราะข้อเสนอและการพูดคุยของเรานั้นเป็นการรักษาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งที่เอา มาตรา 116 เป็นเครื่องมือในทางการเมืองเพื่อจำกัดเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมือง”

ขณะที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ  ประธานคณะก้าวหน้า  กล่าวว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เกิดขึ้นกับตน อาจารย์ปิยบุตร และคุณพรรณิการ์เท่านั้น แต่ยังเกิดกับนิสิตนักศึกษา ประชาชนทั่วไปที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยและอนาคตที่ดีกว่านี้ ตนอยากให้สื่อมวลชนและประชาชนร่วมกันตรวจสอบการใช้อำนาจของผู้มีอำนาจในปัจจุบัน ถ้าอยากจะหาทางออกให้กับประเทศ อย่างแรกที่หยุดและแสดงความจริงใจได้ ก็คือหยุดการยัดเยียดคดีความให้กับกลุ่มคนที่เห็นต่างทางการเมือง หยุดยัดเยียดคดีความให้กับกลุ่มคนที่เรียกร้องประชาธิปไตย ตราบใดที่ไม่หยุดเรื่องนี้ ตนมองไม่เห็นเลยว่าจะหาทางออกร่วมกันได้อย่างไร และมองไม่เห็นเลยว่ารัฐบาลมีความจริงใจที่จะหาทางออก

“สถานการณ์การเมืองไทยวันนี้อยู่ในสถานะที่ปฏิเสธไม่ได้แล้วว่าคุณประยุทธ์เป็นเงื่อนไขที่สำคัญในการหาทางออก ตราบใดที่ยังมีคุณประยุทธ์อยู่ในฐานะนายกรัฐมนตรี การหาทางออกให้กับประเทศไทยจะไม่มีวันเกิดขึ้นได้ ผมขอฝากพี่น้องประชาชนติดตามการใช้อำนาจของฝ่ายรัฐบาล ว่ามีความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกันหรือไม่ เหตุและผลของคดีความ มีความสมเหตุสมผลกับผู้ที่ออกมาชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยหรือไม่ ให้กำลังใจและยืนเคียงข้างนักศึกษาที่ออกมาต่อสู้ทวงคืนอนาคตที่ควรจะเป็นของสังคมไทยให้กับพวกเรา” 

 

ล่าสุด "อดีตพระพุทธะอิสระ"  ได้โพสต์ถึงประเด็นดังกล่าวว่า  "เมื่อกล้าที่จะรบก็อย่ากลัวที่จะพบบาดแผล  เห็นภาพ ทอนกับพวก เดินทางไป สน.พญาไท เพื่อทราบข้อกล่าวหาในฐานสงสัยว่าจะละเมิด ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116  จากการสังเกต ดูสีหน้า แววตาของทอนและพวกที่เห็นดูท่าน่าจะกังวลมิใช้น้อย อยากบอกทอนว่า พุทธอิสระ ต้องขออภัยที่เป็นเหตุให้ทอนและพวกต้องกังวล ปัญหาเรื่องนี้มันแก้ได้ไม่ยากดอกทอน

 

พุทธะอิสระ เตือนธนาธรกับพวก ไม่หยุดดึงฟ้าต่ำ คงเจออีกหลายคดี ท้าไม่ผิดฟ้องกลับได้ไม่มีปัญหา

 

แค่ทอนและพวกมีจิตสำนึก รักชาติ รักแผ่นดิน และคิดจะตอบแทนคุณ บ้าง ไม่ใช้วันๆ เอาแต่จะแสวงหาวิธีแย่งชิง อำนาจ หาผลประโยชน์กับคนรุ่นใหม่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ มันจะทำให้ทอนยิ่งละโมบ มักใหญ่ ใฝ่สูง จนไม่รู้ฟ้าสูง แผ่นดินต่ำ พยายามตีตนเสมอท่าน  เช่นนี้ มันจะทำให้ทอนและพวก คงต้องเหนื่อยแทบสายตัวจะขาดที่เดียวแหละ แต่ผลตอบรับที่ทอนและพวกจะได้รับคือภาพวิมานในปุยเมฆเท่านั้นแหละทอน
 
หยุดได้ตอนนี้ก็คงยังไม่สายเกินไป หากยังแข็งขืน ดื้อ รั้นดันทุรังลุยต่อ เช่นนั้นทอนและพวกคงต้องเจอข้อสงสัยที่พุทธอิสระ เตรียมไว้อีกหลายข้อกล่าวหา  เราก็ไม่อยากเป็นต้นเหตุให้ทอนและพวกมีสีหน้าและแววตาซีดเซียว วิตกกังวลออกสื่อเช่นนี้ดอกนะ มันยังไม่สายเกินไปดอกทอนที่จะหยุด แต่เดียวทอนก็จะบอกว่า นี่มันเป็นสิทธิของทอนและพวกอีกนั่นแหละ ถ้าเช่นนั้นพุทธอิสระก็มีสิทธิที่จะต้องสงสัยในพฤติกรรมของทอนและพวกว่าน่าจะละเมิด ประมวลกฎหมายอาญา อีกหลายมาตราเลยทีเดียวหละทอนออ....แล้วอย่าไปแถก แถ กล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่จงใจ กลั่นแกล้ง คุกคาม อีกนะ ประเด็นมันอยู่ที่ว่า ทอนและพวก ทำผิดกฎหมายจริงหรือเปล่าหละ
 
หากทอนและพวกไม่ผิด ทอนก็มิสิทธิแจ้งความกลับ ต่อพุทธอิสระได้ แบบนี้แหละ ที่เขาเรียกว่าวิถีประชาธิปไตยหละ ทอนคงเข้าใจนะ"

 

พุทธะอิสระ เตือนธนาธรกับพวก ไม่หยุดดึงฟ้าต่ำ คงเจออีกหลายคดี ท้าไม่ผิดฟ้องกลับได้ไม่มีปัญหา

 

หลังจากก่อนหน้านั้น "อดีตพระพุทธะอิสระ" ได้โพสต์ระบุว่าการทำหน้าที่ดังกล่าว เป็นไปตามสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 50 บุคคลมีหน้าที่ ดังต่อไปนี้

(1) พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

(6) เคารพและไม่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น และไม่กระทำการใดที่อาจก่อให้เกิด ความแตกแยกหรือเกลียดชังในสังคม

 

"คุณปิยบุตร และพวก มีสิทธิ์ที่จะเชื่อ มีสิทธิ์ที่จะมอง และมีสิทธิ์ที่จะพูด พุทธะอิสระ และ ผู้คนที่จงรักภักดีต่อสถาบัน ก็มีสิทธิ์ที่จะเชื่อ มีสิทธิ์ที่จะมอง และมีสิทธิ์ที่จะทำ ตามที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้ เมื่อคุณใช้สิทธิ์ของพวกคุณ มองว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ คือตัวปัญหา ฉันก็มีสิทธิ์ที่จะมองได้ว่า ต้นตอของปัญหาที่แท้จริงก็คือ คนอย่างพวกคุณนั่นแหล่ะ ที่จ้องจองล้างจองผลาญ ด้อยค่าสถาบัน ทั้งที่ต้นตอแห่งปัญหาที่แท้จริง ล้วนแต่เกิดจากพวกคุณ ที่พยายามสร้างละครน้ำเน่าให้สังคมเชื่อว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ คือตัวปัญหา..."

 

พุทธะอิสระ เตือนธนาธรกับพวก ไม่หยุดดึงฟ้าต่ำ คงเจออีกหลายคดี ท้าไม่ผิดฟ้องกลับได้ไม่มีปัญหา

>> Lazada ลดแหลก แจกกระจาย ถูกสุดในรอบปี! 11.11 ฟรีจัดส่ง ลดสูงสุด 90% <<