อัยการเห็นชอบ ปปช. ฟ้องศาลฎีกาฯ  วิรัช  รัตนเศรษฐ คดีทุจริตสนามฟุตซอล โคราช

ที่ประชุมคณะทำงานร่วม ป.ป.ช. กับ อัยการสูงสุด จ่อยื่นฟ้องศาลฎีกาฯ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ครั้งเป็น ส.ส.เพื่อไทย ทุจริตสนามฟุตซอล โคราช

สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่  6 ส.ค. 2562   นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช.  ได้ชี้แจงผลประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.   กรณีผลสอบทุจริตการจัดสรรงบประมาณรายจ่าย  งบประมาณ พ.ศ. 2555 (งบแปรญัตติ) ให้กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  ตามกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างงานปรับปรุงสนามกีฬาพร้อมอุปกรณ์ (สนามฟุตซอล)  โดยมีลักษณะมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม  เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ   และการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานตามรูปแบบรายการและวิธีการก่อสร้าง สนามกีฬาไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง


ปรากฏข้อเท็จจริงสรุปได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งประกอบด้วยผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการระดับสูง และกลุ่มเอกชน มีพฤติการณ์ร่วมกันทุจริตเชิงนโยบาย และเป็นตัวการร่วมกันในลักษณะการแบ่งหน้าที่กันทำ ตามบทบาทตามหน้าที่และอำนาจที่แต่ละคนมี และเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการกระทำความผิด โดยผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เจ้าหน้าที่ของรัฐ และเอกชนร่วมดำเนินการอย่างเป็นระบบและเป็นกระบวนการ 

เริ่มจากการจัดทำงบประมาณปีงบประมาณ 2555  โดย นายวิรัช รัตนเศรษฐ ,  นางทัศนียา รัตนเศรษฐ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร  ในขณะนั้น และนางทัศนาพร เกษเมธีการุณ นายกเทศมนตรีตำบล ห้วยแถลงขณะนั้น  ซึ่งเป็นน้องสาวนางทัศนียา รัตนเศรษฐ  ได้สั่งการให้พวกของตน เข้าไปประสานกับผู้อำนวยการโรงเรียนต่างๆ ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2 เพื่อจัดสรรงบประมาณก่อสร้างสนามฟุตซอลให้ โดยเข้าไปครอบงำ  บงการการใช้จ่ายงบประมาณในวงเงินดังกล่าวโดยปราศจากอำนาจตามกฎหมาย อันเป็นการต้องห้ามตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 168


ส่วนในขั้นตอนการจัดทำงบประมาณ นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้จัดทำคำขอเพิ่มเติมงบประมาณในรายการที่ 4 จำนวน 7,000,000,000 ล้านบาท โดยที่ไม่มีรายละเอียดว่าจะใช้ก่อสร้างสนามกีฬาที่ใด อย่างไร ในวงเงินเท่าใด เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้มีการพิจารณาอนุมัติเพิ่มเติมเงินงบประมาณให้นายวิรัช รัตนเศรษฐ ผู้ประสานงานของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในขณะนั้น กับพวก เข้าไปแทรกแซงการใช้จ่ายงบประมาณตามความต้องการ โดยให้ข้าราชการประจำทำคำของบประมาณที่ไม่ได้เกิดจากความต้องการที่แท้จริงของโรงเรียนเสนอขึ้นมา

อัยการเห็นชอบ ปปช. ฟ้องศาลฎีกาฯ  วิรัช  รัตนเศรษฐ คดีทุจริตสนามฟุตซอล โคราช

>> Shopee จัดโปรสุดปัง แจกส่วนลด 100฿ สนใจคลิก <<


นอกจากนี้ มีการกำหนดคุณลักษณะร่างขอบเขต ของงาน (TOR) อันเป็นการกีดกันผู้ค้ารายอื่นมิให้ร่วมในการเสนอราคาเพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม และต่อมาภายหลังได้มีการส่งมอบงานให้กับโรงเรียนต่าง ๆ แต่พื้นสนามฟุตซอลไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากแผ่นยางสังเคราะห์ (EVA) ที่กำหนดใน TOR เมื่อถูกความร้อนจะเกิดการโก่งงอ และเนื่องจากมิได้มีการติดตรึงอย่างถาวร จึงทำให้เกิดการหลุดล่อนเมื่อมีลมพัดแรง
 

คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวข้างต้น ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 2 แล้วมีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 9 เสียง ชี้มูลผู้ถูกกล่าวหาจำนวน 24 ราย ประกอบด้วยผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 3 ราย ข้าราชการ 11 ราย เอกชน 10 ราย (บุคคลธรรมดา 7 ราย นิติบุคคล 3 ราย) แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม  ประกอบด้วยกลุ่มผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และผู้ประสานงาน จำนวน 6 ราย  นำโดย นายวิรัช รัตนเศรษฐ และนางทัศนียา รัตนเศรษฐ ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย

2.กลุ่มข้าราชการ จำนวน 9 ราย  นำโดย  นายชินภัทร ภูมิรัตน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและนายรังสรรค์ มณีเล็ก เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน สพฐ. 

3. กลุ่มเอกชน จำนวน 9 ราย  ประกอบด้วย  อาทิ    นางสาวเบญจพันธ์ บุญบงการ และบริษัท สปอร์ต แอนด์ เกม จำกัด ,  นายยี พณิชยา นายมานัส ชาวนา ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็มเอไอ เอ็นเตอร์ไพร์ส และบริษัท วอเตอร์ ฮีล แลนด์ จำกัด  , นางสาวฐิติรัตน์ ทันหาบุรุษ และนางสาวรัตนา มงคลสกุล มีมูลความผิดทางอาญา เป็นต้น


โดยที่ประชุมปปช.ให้ส่งรายงาน  สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็น พร้อมสำเนาอิเล็กทรอนิกส์ ไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่ง ทางการเมือง และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัย ไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 76 และมาตรา 91 (2) 


ล่าสุดที่ประชุม  คณะทำงานร่วม  ระหว่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  กับ   อัยการสูงสุด   เพื่อพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ในคดีที่     คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด   นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ   และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล)  เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย กับพวก กรณีทุจริตเงินจัดสรรงบประมาณ  ก่อสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียนในพื้นที่เขตการศึกษาที่ 2 จ.นครราชสีมา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งก่อนหน้านี้คณะทำงานร่วมเคยมีมติเห็นควรสั่งฟ้องนายวิรัช ไปยังอัยการสูงสุด


โดยปรากฎว่าการประชุมร่วมมีข้อสรุป ให้แจ้งคำสั่งอัยการสูงสุด   ดำเนินการฟ้อง นายวิรัช รัตนเศรษฐ  กรณีการทุจริตโครงการดังกล่าว   โดยฝ่ายอัยการจะใช้ระยะเวลาเพื่อร่างคำฟ้องดังกล่าวประมาณ 60 วัน   ก่อนยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป


ทางด้าน  นายวิรัช รัตนเศรษฐ   กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า  ถึงแม้จะมีคำสั่งฟ้อง   แต่สำหรับตนยังมั่นใจว่าไม่มีปัญหา  ปล่อยให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม  พร้อมขอปฏิเสธไม่เคยเข้าไปแทรกแซงการใช้งบประมาณโครงการดังกล่าว  พร้อมจะชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดรวมไปถึงแนวทางการสู้คดีในเร็ว ๆ นี้


อัยการเห็นชอบ ปปช. ฟ้องศาลฎีกาฯ  วิรัช  รัตนเศรษฐ คดีทุจริตสนามฟุตซอล โคราช

>>Lazada ช้อปดีลเด็ดส่งท้ายปี ส่งฟรีทุกรายการ สนใจคลิก <<