โครงการพลังงานและเทคโนโลยีที่ยั่งยืนแห่งเอเชีย2560หรือSETA 2017 ภายใต้ธีม"Towards A Low-Carbon Society" ชูเทรนด์พลังงานไฮบริด รถพลังงานไฟฟ้า

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.tnews.co.th

การประชุม และนิทรรศการ โครงการพลังงาน และเทคโนโลยีที่ยั่งยืนแห่งเอเชีย 2560 หรือ SETA 2017 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 8-10 มีนาคม 2560 ซึ่งจัดต่อเนื่องมาเป็นครั้งที่ 2 โดยปีนี้จัดขึ้นภายใต้ธีม “Towards A Low-Carbon Society” ชูเทรนด์พลังงานไฮบริด รถพลังงานไฟฟ้า ได้รับการสนับสนุนที่สำคัญจากทั้งภาครัฐ และเอกชน อาทิ กระทรวงพลังงาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงคมนาคม และกรุงเทพมหานคร โดยวัตถุประสงค์หลักของการจัดโครงการในครั้งนี้ ก็เพื่อต้องการเปิดโอกาสให้ผู้บริหารภาครัฐ และเอกชน ผู้ผลิต นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ บริษัทผลิตพลังงานทดแทน ธนาคาร นักลงทุน จากทุกภาคส่วน รวมถึงผู้ที่สนใจทั่วไป ทั้งใน และต่างประเทศ ได้มารู้จักเทคโนโลยีด้านพลังงานล้ำหน้า พร้อมรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งด้านวิชาการ และด้านธุรกิจ

 
 รศ.ดร.ธัชชัย สุมิตร (ประธานคณะกรรมการดำเนินงานโครงการพลังงาน และเทคโนโลยีที่ยั่งยืนแห่งเอเชีย 2560)  กล่าวว่า งาน “SETA 2017” ที่จะมีขึ้นในวันที่ 8-10 มีนาคม 2560 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ซึ่งจะเป็นการจัดงานในระดับนานาชาติ โดยในปีนี้จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 2 จากการประสบความสำเร็จในการจัดงานในปีแรกที่ผ่านมา ถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญในความร่วมมือของหน่วยงานหลักของประเทศ ทั้งภาครัฐและเอกชน ต่างให้การสนับสนุน ผลักดันอย่างเต็มที่ เพื่อให้งานนี้เกิดขึ้น โดยวัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้ ก็เพื่อต้องการแสดงศักยภาพของไทย ในการเป็นผู้นำด้านพลังงานในภูมิภาค และยืนยันความพร้อมของไทย ทั้งทางด้านเทคโนโลยี และบุคลากร ในการก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านพลังงาน และการพัฒนาสู่พลังงานที่ยั่งยืนของภูมิภาคเอเชีย ภายใต้ 4 หัวข้อหลัก ได้แก่ นโยบายและการวางแผนด้านพลังงาน เทคโนโลยีระบบผลิตกระแสไฟฟ้าที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ พลังงานเพื่อการคมนาคมขนส่งที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ และเมืองอัจฉริยะและอุตสาหกรรมสีเขียว โดยภายในงานประชุมครั้งนี้ จะมุ่งเน้นไปในประเด็นที่ทั้งเอเชีย และทั่วโลกให้ความสำคัญ โดยเฉพาะประเด็นด้านแหล่งพลังงานคาร์บอนต่ำ ซึ่งในปีนี้มีการเพิ่มพื้นที่แสดงนิทรรศการอีกเท่าตัว โดยมีความพิเศษ คือ การมุ่งเน้นถึงอุตสาหกรรม และเทคโนโลยีไฮบริด รวมถึงรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้า และกิจกรรมการจับคู่ธุรกิจ กว่า 200 บริษัท เพื่อส่งเสริมการลงทุน และการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านพลังงานให้กับประเทศ โดยตั้งเป้าผู้เข้าชม และร่วมงานตลอดทั้ง 3 วัน จำนวนกว่า 10,000 คน จาก 50 ประเทศทั่วโลก

นาย ธาตรี ริ้วเจริญ (ผู้ช่วยผู้ว่าการกิจการสังคมและสิ่งแวดล้อม กฟผ.) กล่าวว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติให้เป็นผู้สนับสนุนหลัก อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยในการประชุมวิชาการ และนิทรรศการนานาชาติในครั้งนี้ ถือเป็นเวทีที่สำคัญที่จัดขึ้นสำหรับองค์กรต่างประเทศ ภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมในการอภิปรายและทำงานร่วมกันในการพัฒนานโยบายด้านพลังงานที่ยั่งยืน สำหรับการพัฒนาทางเศรษฐกิจของภูมิภาคในอนาคต และนอกจากนี้ กฟผ. ยังมีแผนยุทธศาสตร์ 2560-2569 ในการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ควบคู่กับนโยบายการใช้เชื้อเพลิงหลักในการผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการสร้างสมดุลย์การใช้เชื้อเพลิง และควบคุมราคาค่าไฟฟ้าในระยะยาว ด้วย กฟผ. ตระหนักว่า พลังงานหมุนเวียนจะเป็นพลังงานที่เติบโตอย่างรวดเร็วในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก พ.ศ. 2558-2579 ที่จะเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้มีสัดส่วนถึงร้อยละ 20 ในปี 2579

 
และในส่วนของงาน SETA 2017 ปีนี้ กฟผ. มีส่วนร่วมในการนำเสนอการดำเนินงานของ กฟผ. ใน 2 ส่วนด้วยกัน คือ การร่วมเป็นผู้บรรยายวิชาการ ในส่วนของ Conference Program และการจัดแสดงนิทรรศการ ภายใต้แนวคิด Balance Energy and Go Together ซึ่งผู้ที่เยี่ยมชมนิทรรศการจะได้รับทราบถึง การดำเนินงานของ กฟผ. ที่สอดคล้องกับนโยบาย Energy 4.0 ของกระทรวงพลังงาน โดยจะช่วยเพิ่มความเข้าใจด้านพลังงานในหลากหลายแง่มุมว่า กฟผ. ยังคงมีนโยบายสร้างความสมดุลทางพลังงาน การใช้พลังงานหมุนเวียนควบคู่ไปกับการใช้พลังงานหลัก นอกจากนี้ กฟผ. ยังมุ่งคงทางพลังงานในราคาที่เป็นธรรม และคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ทั้งยังร่วมในข้อผูกพัน COP21 หรือสนธิสัญญาปารีส ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ตามเป้าหมายอีกด้วย

ทั้งนี้ในงาน SETA 2017 ยังได้รับเกียรติจาก พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิด โดยมีวิทยากรปาฐกถาหลัก ได้แก่ พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม) ดร.อรรชกา สีบุญเรือง (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) ดอกเตอร์แมกซิมัส จอห์นนิตี้ อองกิลลี่ (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เทคโนโลยีสีเขียว และน้ำ ประเทศมาเลเซีย) (Dr. Maximus Johnity Ongkili, Minister of Energy, Green Technology and Water, Malaysia) ฯพณฯ เฆซุส มิเกล ซันส์ (เอกอัครราชทูตและหัวหน้าคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย) (H.E. Jesus Miguel Sanz, Ambassador and Head of the European Union in Thailand) และ ฯพณฯ ชิโร ซะโดะชิมะ (เอกอัคราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย) (H.E. Mr. Shiro Sadoshima, Ambassador of Japan in Thailand) ที่จะมาร่วมให้ความรู้เกี่ยวกับด้านพลังงาน และเทคโนโลยีต่างๆที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต

 
โดยงานประชุมวิชาการ และนิทรรศการนานาชาติ “โครงการพลังงานและเทคโนโลยีที่ยั่งยืนแห่งเอเชีย 2560 หรือ SETA 2017” จะมีผู้เข้าร่วมงานเป็นผู้บริหาร ภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ผู้ผลิต บริษัทผู้ผลิตไฟฟ้า นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ บริษัทผู้ผลิตพลังงานทดแทน ธนาคาร นักลงทุน จากทุกภาคส่วนและผู้ที่สนใจทั่วไป ทั้งในและต่างปะเทศ กว่า 10,000 คน พื้นที่จัดงาน 9,600 ตารางเมตร บูธจัดงานกว่า 200 บูธ โดยมีโซนไฮบริด และเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า โซนโซล่าเซลล์ และโซนระบบเมืองอัจฉริยะ จากเมืองโตเกียว และกรุงเทพมหานคร รวมไปถึงพาวิเลียนจากต่างประเทศ อีก 11 ประเทศ พร้อมกิจกรรมการจับคู่ธุรกิจ อาทิ ประเทศแคนาดา เยอรมัน ไต้หวัน เกาหลี จีน ญี่ปุ่น อินเดีย มาเลเซีย สิงค์โปร์ โดยงาน “โครงการพลังงานและเทคโนโลยีที่ยั่งยืนแห่งเอเชีย 2560 หรือ SETA 2017” ภายใต้ธีม “Towards A Low-Carbon Society” ชูเทรนด์พลังงานไฮบริด รถพลังงานไฟฟ้า จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-10 มีนาคม 2560 เวลา 10.00-18.00 น. ณ ฮอลล์ 103-104 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.seta.asia