- 23 พ.ย. 2561
ติดตามเพิ่มเติม www.tnews.co.th
บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS รายงานมติการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2561 ซึ่งจัดขึ้นวันที่ 22 พฤศจิกายน 2561 ณ โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยในการประชุมมีมติหลักๆที่เป็นประเด็นสำคัญคือ
การขอพิจารณาอนุมัติให้บริษัท สปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (SPC)ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ จำหน่ายหุ้นสามัญที่ SPC ถือในบริษัท สปริงนิวส์เทเลวิชั่น จำกัด (SPTV) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 90.1ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ SPTV ให้แก่บริษัท ทีวี ไดเร็คจำกัด (มหาชน) (TVD) โดยผู้ถือหุ้นมติเห็นด้วยด้วยคะแนนเสียง 34,685,139,479คะแนน หรือคิดเป็นร้อยละ 99.99 ต่อมาที่ประชุมพิจารณาอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จำนวน 149,530,870,699 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 281,961,297,580 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 132,430,426,881 บาท โดยการตัดหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายของบริษัทฯ
จากนั้นที่ประชุมมีมติเห็นด้วยด้วยคะแนนเสียง 34,674,741,919 หรือร้อยละ99.63 อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จำนวน 67,887,511,111 บาทจากทุนจดทะเบียนเดิม 132,430,426,881 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน200,317,937,992 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 67,887,511,111หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาทเพื่อรองรับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Rights Offering)ในอัตราการจัดสรรหุ้น 1 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่โดยมีราคาเสนอขายหุ้นละ 0.01 บาท และหากมีหุ้นเหลือจากการให้สิทธิผู้ถือหุ้นเดิม(RO) บริษัทฯจะจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PrivatePlacement)โดยราคาเสนอขายจะเป็นราคาตามราคาตลาดในราคาที่ดีที่สุดและไม่ต่ำกว่าราคาที่เสนอขายต่อผู้ถือหุ้นเดิม
ทั้งนี้นาย อารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NEWSให้ความเห็นว่า“บริษัทฯจะสามารถปรับโครงสร้างธุรกิจให้มีความคล่องตัวยิ่งขึ้นจากการดำเนินธุรกิจประกอบกิจการโทรทัศน์ เป็นผู้ให้บริการเนื้อหา (Content Provider)
และลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องตลอดจนเป็นโอกาสในการสร้างรายได้จากการขายโฆษณาด้วยการเช่าช่วงเวลาออกอากาศจากสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นและให้บริการผลิตรายการให้กับสถานีโทรทัศน์ช่องอื่น โดยไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์กับบริษัทย่อยนอกจากนี้การผลิตรายการให้กับสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นที่มีอันดับความนิยมสูงย่อมส่งผลต่อรายได้จากการขายโฆษณาที่สูงขึ้น รวมถึงบริษัทฯจะมีรายได้ที่แน่นอนจากค่าตอบแทนตามสัญญาซื้อขายหุ้นและสัญญาผลติรายการเป็นระยะเวลา 124เดือนซึ่งนำมาเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานและชำระค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่างๆ ของกลุ่มบริษัทฯ ด้านการเพิ่มทุน นายอารักษ์ฯ กล่าวเสริมว่า “บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนไปชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ของบริษัทฯ และบริษัทย่อยเพื่อช่วยลดภาระหนี้สินและต้นทุนทางการเงินและทำให้สถานะทางการเงินในภาพรวมของบริษัทฯ ดีขึ้น ตลอดจนสามารถการชำระหนี้สินคงค้างของ SPTV