กทท. พิจารณาซองประมูลโครงการพัฒนา ทลฉ. ระยะที่ 3 (ท่าเทียบเรือ F)

กทท. พิจารณาซองประมูลโครงการพัฒนา ทลฉ. ระยะที่ 3 (ท่าเทียบเรือ F)

 เรือโท กมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน โครงการพัฒนาท่าเรือ-    แหลมฉบังระยะที่ 3 ได้ประชุมพิจารณาซองเอกสารประกวดราคาโครงการท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) ระยะที่ 3 ซึ่งมีกลุ่มบริษัทที่สนใจร่วมลงทุนยื่นซองเสนอราคารวม 2 กลุ่ม (Consortium) ได้แก่ กลุ่มกิจการร่วมค้า GPC ประกอบด้วย Gulf Energy Development Pub Co.,Ltd. , PTT Tank Terminal Co.,Ltd. , บริษัท China Harbour Engineering Company Limited และกลุ่มกิจการร่วมค้า NCP ประกอบด้วย Nattalin Co.,Ltd. ,    Prema Marine Pub Co.,Ltd. , Associate Infinity Co.,Ltd. , PHS Organic Healing Co.Ltd. และ China Railway Construction Corporation Limited 
 คณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้ประชุมพิจารณาซองเอกสารหลักฐาน (ซองที่ 1) ไปเมื่อวันที่    29 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าผ่านหลักเกณฑ์ในเบื้องต้น การพิจารณาตามที่กำหนดทั้งสองกลุ่ม และได้ดำเนินการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ (ซองที่ 2) คือ คุณสมบัติทั่วไปของนักลงทุน คุณสมบัติทางการเงิน และประสบการณ์ของผู้ยื่นข้อเสนอ โดยคณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้ลงความเห็นให้กลุ่มกิจการร่วมค้าทั้ง 2 กลุ่ม ชี้แจงเพิ่มเติมเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการฯ ประกอบการพิจารณาในเวลาต่อมา คณะกรรมการพิจารณาฯ ได้ตรวจสอบเอกสารทั้งหมดอีกครั้งปรากฏว่า กลุ่มกิจการร่วมค้า NCP ยื่นเอกสารไม่ถูกต้อง    ตามเอกสาร RFC (Request for Proposal) ที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งเป็นสาระสำคัญ จึงส่งผลให้ไม่ผ่านคุณสมบัติ และต้องทำการตัดสิทธิกลุ่มกิจการร่วมค้า NCP ในการเข้าประกวดราคา ซึ่งขั้นตอนต่อไปคณะกรรมการคัดเลือกฯ จะทำการพิจารณาเอกสารของกลุ่มกิจการร่วมค้า GPC ในซองที่ 3 ข้อเสนอด้านเทคนิคและแผนการลงทุนในโครงการฯ หากผ่านเกณฑ์ จะไปทำการเปิดข้อเสนอด้านผลประโยชน์ตอบแทน (ซองที่ 4) และข้อเสนอแนะในการเพิ่มประสิทธิภาพของโครงการฯ (ซองที่ 5) ก่อนจะนำเสนอคณะกรรมการ กทท. ทราบต่อไป 
 สำหรับเอกชนที่ได้รับคัดเลือกให้ร่วมลงทุนโครงการพัฒนา ทลฉ. ระยะที่ 3 ในส่วนของ      ท่าเทียบเรือ F จะมีหน้าที่รับผิดชอบออกแบบ ก่อสร้าง ให้บริการ และบำรุงรักษาในงานส่วนโครงสร้างหน้าท่า (Superstructure) รวมทั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องและระบบจัดการตู้สินค้าแบบอัตโนมัติ (Automation) สำหรับโครงการฯ รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในโครงการฯ และเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนเป็นระยะเวลา 35 ปี