- 28 พ.ค. 2562
กลุ่มธรรมาภิบาลไทย จับมือ สรส.พร้อมชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการ EEC และรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ร้อง “บิ๊กตู่” ขอทบทวนสัญญาโครงการหวั่นซ้ำรอยค่าโง่
28 พ.ค. 62 เวลา 09.40 น. กลุ่มธรรมาภิบาลไทย นำโดยนายพิพัทธ์ ชนะสงคราม ประธานกลุ่ม พร้อมด้วย กลุ่มสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) นำโดย นายสาวิทย์ แก้วหวาน (เลขาธิการ สรส.) เครือข่ายชาวบ้าน ต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เดินทางมายื่นข้อเรียกร้อง ถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้รัฐบาลทบทวนเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออกและโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โดยมีนายสมพาศ นิลพันธุ์ รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เป็นผู้มารับหนังสือดังกล่าว
นายสาวิทย์ แก้วหวาน กล่าวว่า หลังจากที่รัฐบาลปัจจุบันได้กำหนตนโยบายและออกกฎหมายเพื่อสนับสนุนเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออกเพื่อต่อยอดการทพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออกจากโครงการอีสเทิร์นซีบอร์ดเป็นระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกและกำหนดเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษในเวลาต่อมา พร้อมกับได้มีการตราพระราชบัญญัติเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันนออก พ.ศ.2561ซึ่งกฎหมายฉบับดังกล่าว ได้เอื้อประโยชน์ให้แก่กลุ่มนักลงทุนมากมาย ในขณะที่สังคมก็ได้วิพากษ์วิจารณ์ตั้งคำถามเพื่อให้ชะลอโครงการแล้วเปิดให้ประชาชนได้มีส่วนร่วม
แต่ก็ไม่เป็นผล ในปัจจุบันการดำเนินโครงการมีผลกระทบต่อวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งในอนาคตที่จะส่งผลกระทบแก่ระบบเศรษฐกิจ ทั้งด้านอุตสาหกรรม เกษตรกรรม พานิชยกรรม และต้านสิ่งแวดล้อม อีกด้านหนึ่งรัฐบาลกำหนดให้มีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน
โดยเฉพาะรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งได้มีการประมูลไปแล้วซึ่งผู้ที่ชนะการประมูลคือ กิจการร่วมค้าเจริญโภคภัณฑ์(ซีพี) ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาซึ่งเรื่องดังกล่าวจะนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ในวันที่ 28 พ.ค. 2562 และโครงการดังกล่าวก็ถูกตั้งคำถามมากมายถึงความไม่โปร่งใสเช่นกัน
ด้านนายพิพัทธ์ ชนะสงคราม ประธานกลุ่มธรรมาภิบาลไทย ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางกลุ่มได้ติดตามโครงการรถไฟความเร็วสูง พบข้อพิรุธหลายอย่างและมีแนวโน้มสูงที่รัฐบาลจะเอื้อประโยชน์นายทุนและชาวบ้านจะเสียประโยชน์ ถ้าหากเราไม่มายื่นหนังสือ กลัวว่าการแก้ปัญหาต่างๆจะมีผลเสียมากกว่าผลดี ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า กลุ่มซีพีที่ชนะการประมูล ได้มีการยื่นข้อเสนอที่ตัวเองเอาเปรียบภาครัฐ เอาเปรียบภาคประชาชนอย่างชัดเจน
หวังให้ตัวเองทำกำไรคุ้มค่า โดยไม่สนใจว่าประเทศชาติ ประชาชนจะได้ประโยชน์อย่างไร ซึ่งโครงการแบบนี้ที่สุดแล้วรัฐบาลจะไม่ได้ประโยชน์และเรากังวลว่า การเสนอราคาที่ต่ำมาก จนไม่สามารถทำได้ และในสัญญาที่ลงนามกัน มีการซ่อนกลไว้หรือเปล่า เช่นเรื่องการแก้ไขสัญญา ที่ไม่เปิดเผยนั้น ถ้าหากซีพีแก้ไขสัญญาที่ตัวเองได้ประโยชน์ อันนี้อาจส่งผลให้เกิดความเสียหายขึ้น เราจะร่วมกับ สรส. และเครือข่ายชาวบ้าน เพื่อจะได้เชิญสื่อมวลชนลงพื้นที่ไปติดตามและดูพื้นที่จริงเพื่อให้เห็นปัญหาจริงๆในพื้นที่ต่อไป.